ศึกเลือกตั้ง 62 : สหรัฐ-อียู ยินดีไทยประกาศ “วันเลือกตั้ง”

กรุงเทพฯ 24 ม.ค.- รองนายกรัฐมนตรี ยืนยันหลัง กกต.กำหนดวันเลือกตั้ง นักการเมืองหาเสียงได้เต็มที่ ขณะที่ต่างชาติยินดีที่ไทยจะมีการเลือกตั้งในอีก 59 วัน ติดตามในคอลัมน์ “ศึกเลือกตั้ง 62”


รัฐบาลสหรัฐอเมริกาออกแถลงการณ์ยินดีกับการประกาศการเลือกตั้งของไทย ในวันที่  24 มีนาคม พ.ศ.2562 และหวังจะได้เห็นผลลัพธ์ที่สะท้อนถึงการอภิปรายอย่างเสรี และความต้องการของประชาชนชาวไทย รวมทั้ง ได้ทำงานร่วมกับรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง เพื่อสานต่องานที่มุ่งไปสู่เป้าหมายด้านสันติภาพ และความเจริญรุ่งเรืองของราชอาณาจักรไทยและภูมิภาค 


เช่นเดียวกับสหภาพยุโรป ระบุว่าการกำหนดวันเลือกตั้งของไทย เป็นก้าวสำคัญของการฟื้นฟูประชาธิปไตยในประเทศไทย และตั้งตารอที่จะได้เห็นการรณรงค์หาเสียงเป็นไปอย่างเปิดกว้างและสงบเรียบร้อย โดยเสรีภาพของการแสดงออกจำเป็นต่อกระบวนการทางประชาธิปไตย


วันนี้ พรรคพลังประชารัฐแถลงเปิด 3 พันธกิจ 7 : 7 : 7 นโยบายสำหรับใช้ในการหาเสียง ขณะที่การลาออกของ 4 รัฐมนตรี จะมีความชัดเจนสัปดาห์หน้า 

วันนี้ ที่ทำการพรรคพลังประชารัฐคึกคักไปด้วยว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต และตัวแทนพรรคจากภาคทุกภาค เพราะมีการแถลงนโยบายพรรค เปิด 3 พันธกิจ 7 : 7 : 7 นโยบาย คือ 3 พันธกิจประชารัฐ เพื่อสร้างชาติให้ยั่งยืน ประกอบด้วย 1.สวัสดิการประชารัฐ 2.สังคมประชารัฐ และ 3.เศรษฐกิจประชารัฐ แต่ละพันธกิจจะมี 7 นโยบายสนับสนุน โดยนายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค และนายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รองหัวหน้าพรรค เป็นคนแถลง ขาดนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค และนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล โฆษกพรรค ที่ติดภารกิจ ไม่สามารถมาร่วมแถลงนโยบายได้

ส่วนการลาออกจากตำแหน่งของ 4 รัฐมนตรี นายอุตตม ขอย้ำคำเดิมว่า รอเวลาที่เหมาะสมก่อน และสัปดาห์หน้าจะมีความชัดเจน ทั้งชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี การเปิดตัว ส.ส.ทั้ง 350 เขต และการลาออกของ 4 รัฐมนตรี

ขณะที่พรรคเพื่อไทยแถลงการณ์แสดงความยินดีที่คนไทยจะมีโอกาสกำหนดอนาคต ด้วยการเลือกผู้แทนเข้ามาบริหารประเทศ พร้อมเรียกร้องทุกฝ่ายทำให้การเลือกตั้งเสรี เป็นธรรม และเตรียมเรียกประชุมว่าที่ผู้สมัครของพรรคทั่วประเทศ ทำความเข้าใจเกี่ยวกับยุทธศาสตร์การหาเสียง และชี้แจงข้อกฎหมายและข้อบังคับเกี่ยวกับการเลือกตั้งในวันที่ 28 มกราคมนี้ 

ด้านรองนายกรัฐมนตรี ยืนยันแม้จะมีพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไปแล้ว รัฐบาลยังคงมีอำนาจเต็ม

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี บอกว่า นับตั้งแต่วันที่มีมีพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไป นักการเมืองสามารถหาเสียงได้เต็มที่ ตามระเบียบที่ กกต.กำหนด และการคิดค่าใช้จ่ายก็เริ่มทันทีเช่นกัน ส่วนการปฏิบัติหน้าที่ของรัฐบาล ก็ยังเป็นไปตามปกติ และมีอำนาจเต็ม ซึ่งยังมีอีกหลายงานที่รัฐบาลต้องดำเนินการ เช่นเดียวกับการใช้อำนาจตามมาตรา 44 ก็ยังสามารถใช้ได้ตามรัฐธรรมนูญ

มาดูมุมมองทางด้านเศรษฐกิจกันบ้าง ในช่วงที่มีหาเสียงเลือกตั้ง ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย คาดจะมีเม็ดเงินสะพัด 30,000-50,000 ล้านบาท

ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เชื่อว่าการกำหนดวันเลือกตั้งที่ชัดเจน ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนทั้งไทยและต่างชาติ ส่งผลดีกับการลงทุนในประเทศ โดยเฉพาะในพื้นที่อีอีซี นอกจากนี้ กิจกรรมในช่วงเลือกตั้งยังส่งเสริมให้บรรยากาศเศรษฐกิจในประเทศให้คึกคัก คาดจะมีเม็ดเงินสะพัดประมาณ 30,000-50,000 ล้านบาท และจะส่งผลกระตุ้นจีดีพีของประเทศขยายตัวประมาณร้อยละ 0.2-0.3

ด้าน นายปวิณ ภิรมย์ภักดี กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางกอกกล๊าส จำกัด (มหาชน)  มองว่า การเลือกตั้งจะทำให้ภาพรวมเศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้น ซึ่งสิ่งที่ภาคเอกชนคาดหวังจากรัฐบาลใหม่คือความต่อเนื่องในการทำงาน

วันนี้ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ เรียกร้องให้เร่งกำหนดจุดติดตั้งป้ายหาเสียง พร้อมตั้งข้อสังเกตว่าเป็นถ่วงเวลาหรือไม่ ขณะที่ผู้อำนวยการ กกต.ประจำ กทม. คาดสัปดาห์หน้ามีความชัดเจน

นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กทม.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า หลังมีพระราชกฤษฏีกาเลือกตั้งได้ให้ทีมงานไปติดตั้งป้ายหาเสียง แต่กรุงเทพมหานครได้ประสานให้ทีมงานปลดป้ายออกก่อน ดังนั้น ขอเรียกร้องให้ กทม.เร่งออกประกาศด้วย เพราะ กกต.กำหนดระเบียบเกี่ยวกับการติดป้ายหาเสียงตั้งแต่วันที่ 11 มกราคมที่ผ่านมา และมอบหมายให้หน่วยงานท้องถิ่นเป็นผู้ประกาศจุดติดตั้งป้าย แต่จนถึงขณะนี้ กทม.ยังไม่ประกาศออกมา ถือว่าเป็นการทำงานที่ผิดปกติ ทั้งยังเป็นถ่วงการทำงานพรรคการเมืองให้ยากลำบาก

และจากที่ผู้สื่อข่าวตระเวนดูในพื้นที่ กทม.ตั้งแต่ช่วงเช้า พบว่ามีเพียงบริเวณถนนลาดพร้าวตลอดทั้งเส้น ที่พบป้ายแนะนำตัวของ ร.ท.หญิง สุณิสา ทิวากรดำรง ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขต 8 ของพรรคเพื่อไทย ติดตั้งไว้ทุกปากซอยทั้ง 2 ฝั่งของถนนลาดพร้าว เท่านั้น ไม่มีของว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม.คนอื่น รวมทั้งของนายอรรถวิชช์ อย่างไรก็ตาม ล่าสุด ทราบว่า ร.ท.หญิง สุณิสา ได้ให้ทีมงานปลดป้ายหาเสียงแล้ว

ขณะที่ น.ส.วิชชุดา เมฆานุวงศ์ ผู้อำนวยการ กกต.ประจำ กทม. เปิดเผยว่า ช่วงเช้าวันนี้ได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบป้ายหาเสียง ยังพบป้ายของหลายพรรคการเมืองติดอยู่ตามพื้นที่สาธารณะ จึงขอความร่วมมือว่าที่ผู้สมัครให้ปลดป้ายออกภายใน 5 วัน ถ้าไม่ดำเนินการ สำนักงานเขตจะเก็บป้ายและดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.รักษาความสะอาด และความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง ส่วนสถานที่ติดป้ายหาเสียง คาดว่าสัปดาห์หน้าจะมีความชัดเจนแน่นอน

เมื่อวานนี้ ประธาน กกต.ออกมาเตือนพรรคการเมือง อย่ารีบติดป้ายหาเสียงตอนนี้ แม้จะมีพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งแล้ว เพราะจะผิดกฎหมาย ที่ กกต.ต้องออกมาเตือน เพราะในกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส.ปี 2561 มาตรา 83 ระบุว่า พรรคการเมือง ผู้สมัคร ที่จะติดตั้งป้ายเกี่ยวกับการเลือกตั้ง จะต้องอยู่ในสถานที่ที่ กกต.กำหนด รวมถึงจำนวนและขนาดของป้ายด้วย

โดยป้ายหาเสียงครั้งนี้จะมี 2 ส่วน คือ กกต.จัดทำให้ผู้สมัครแต่ละพรรคอย่างเท่าเทียมกัน พร้อมกำหนดสถานที่ และขนาดจะเป็น A3 อีกส่วนคือ ผู้สมัคร และพรรคการมืองจัดทำเองได้ โดยผู้สมัคร ส.ส.เขต จะติดตั้งป้ายได้ไม่เกิน 2 เท่าของจำนวนหน่วยเลือกตั้งแต่ละเขต แต่สถานที่ติดตั้ง กกต.จะเป็นผู้กำหนด และพรรคการเมืองติดตั้งได้ที่ที่ทำการพรรค หรือสาขาพรรคการเมือง หรือตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัด หรือศูนย์อำนวยการการเลือกตั้ง เขตเลือกตั้งละ 1 แห่ง ต่อ 1 ป้าย

ขณะที่ป้ายหาเสียงจะมีแค่รูปถ่ายผู้สมัคร นโยบาย คำขวัญ ภาพผู้สมัคร หัวหน้าพรรค ผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกฯ ของพรรค จะมีรูปบุคคลนอกที่ไม่ใช่สมาชิกพรรคไม่ได้ หากฝ่าฝืนมีโทษทั้งแพ่ง-อาญา.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดเนื้อหาหนังสือแจง UNSC กัมพูชาวางทุ่นระเบิด-เริ่มยิงก่อน

25 ก.ค.- เปิดเนื้อหาหนังสือจากผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติที่นิวยอร์ก เพื่อชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทย ประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ส่งหนังสือชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ระบุว่า ขอแจ้งให้ท่านและสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติทุกท่านทราบ ถึงสถานการณ์อันร้ายแรงที่ส่งผลกระทบต่ออธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย อันเป็นผลจากการรุกรานทางทหารของประเทศกัมพูชา โดยมีรายละเอียด ดังนี้ 1.     เมื่อวันที่ 16 และ 23 กรกฎาคม ค.ศ. 2025 ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารไทยกำลังลาดตระเวนตามเส้นทางปกติที่กำหนดไว้ ซึ่งอยู่ภายในอาณาเขตของประเทศไทย ทหารได้เหยียบทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 ส่งผลให้ทหาร 2 นาย ได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัสส่งผลถึงขั้นพิการถาวร ขณะที่ทหารนายอื่น ๆ ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส ทุ่นระเบิด PMN-2 ทั้งหมดที่พบอยู่ในสภาพใหม่ ยังมีเครื่องหมายที่มองเห็นได้ชัดเจน หลักฐานบ่งชี้ว่าทุ่นระเบิดเหล่านี้เพิ่งถูกวางใหม่ ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นรัฐภาคีของอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ไทยได้ยื่นรายงานประจำปีเกี่ยวกับความโปร่งใสในการดำเนินการตามพันธกรณีในอนุสัญญาดังกล่าว ตามมาตรา 7 ของอนุสัญญาฯ อย่างต่อเนื่อง รายงานดังกล่าวระบุว่าประเทศไทยได้ทำลายทุ่นระเบิดในคลังทั้งหมดแล้วตั้งแต่ปี ค.ศ. 2003 และต่อมา ได้ทำลายทุ่นระเบิดทั้งหมดที่เก็บไว้เพื่อการฝึกอบรมและการวิจัยในปี ค.ศ. […]

“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน”

ก.มหาดไทย 25 ก.ค.-“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน” ชี้รับฟังทุกความไม่พอใจ แต่ทุกอย่างเป็นไปตามยุทธวิธี ให้ทหารมีอิสระในการทำงาน มอง “ก่อแก้ว” ขอศาล รธน. คืนอำนาจให้ “แพทองธาร” เป็นความเห็นเหมือนประชาชนจำนวนมาก แต่ให้เป็นตามกระบวนการยุติธรรม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ ระบุถึง อยากให้กองทัพสั่งสอนความเจ้าเล่ห์ของฮุนเซนก่อน ว่า ก็เหมือนประชาชนทั่วไป ที่เวลานี้มีความรู้สึกเช่นนั้น หลายคนแสดงความเห็นให้ทำแบบนู้นแบบนี้ เราก็รับฟังความห่วงใยความไม่พอใจที่เราถูกกระทำ ตนเข้าใจความรู้สึกเหล่านั้น และเห็นว่าเป็นจุดมุ่งหมายเดียวกัน เพราะเรื่องอธิปไตยของประเทศ การรุกล้ำเข้ามา กระทบประชาชนเรายอมไม่ได้ ซึ่งที่ผ่านมาทุกฝ่ายจะเห็นว่าเราประนีประนอม (Compromise) ให้มากที่สุด แต่เมื่อสิ่งดังกล่าวไม่เกิดขึ้น และเป็นปัญหา วันนี้จึงได้สั่งการให้ทหารมีอิสระในพื้นที่ โดยผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นผู้คุมยุทธการ ปฏิบัติได้ตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงได้มีการทำความเข้าใจกับ พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีการโทรคุยกับผู้บัญชาการทหารสูงสุด […]

เข้าสู่วันที่ 2 กัมพูชาเปิดฉากตั้งแต่เช้ามืด ที่ปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 25 ก.ค.-เข้าสู่วันที่ 2 เหตุปะทะไทย-กัมพูชา เริ่มเปิดฉากยิงกันตั้งแต่เช้ามืด บริเวณปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ขณะนี้เสียงยังดังต่อเนื่อง ก่อนขยายการสู้รบไปตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านอีสานใต้ อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เป็นพื้นที่แรกที่ฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิงก่อนด้านปราสาทตาเมือนครับ เช้ามืดวันนี้ ราวตี 5 ครึ่ง ก็เริ่มปะทะกันอีก ขณะนี้ก็มีเสียงดังอย่างต่อเนื่อง เส้นทางจากอำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ เข้าสู่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ แม้สายแล้ว ก็มีรถสัญจรไปมาค่อนข้างน้อย เนื่องจากเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยการสู้รบ โดยอำเภอพนมดงรักเป็นหนึ่งใน 4 อำเภอ ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ประกาศให้ผู้ที่ไม่มีความจำเป็นเข้าพื้นที่ร่วมกับอำเภอกาบเชิง บัวเชดและสังขะ โดยตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา ในพื้นที่ตามแนวชายแดนได้ยินเสียงการปะทะด้วยกระสุนปืนใหญ่ดังอย่างต่อเนื่อง ผู้นำหมู่บ้านบันทึกสถิติเฉพาะฝั่งไทยตอบโต้เกินกว่า 100 ลูกแล้ว บ้านหนองแรด ตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก ที่จรวดหลายลำกล้อง BM 21 ตกเยอะสุด 10 ลูก วานนี้โดยรอบหมู่บ้าน โชคดีไม่ลงบ้านเรือน มีกระจกแตกเล็กน้อยจากแรงอัดลูกจรวดเท่านั้น วันนี้ ยังมีชาวบ้านอยู่นับร้อยคนหลบอยู่ในหลุมหลบภัย จากทั้งหมด […]

เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวรองรับประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน

ศรีสะเกษ 24 ก.ค. – บรรยากาศคืนแรกที่ศูนย์อพยพฯ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ประชาชนต้องละทิ้งบ้านเรือนมาพักอาศัยชั่วคราว จากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นี่เป็นบรรยากาศค่ำคืนแรกที่ประชาชนในเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ต้องออกมาพักอาศัยนอกบ้านเรือน ตั้งแต่เกิดเหตุกัมพูชายิงจรวดเข้าใส่เขตพักอาศัยของพลเรือน ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ ทำให้ตลอดทั้งวัน อ.กันทรลักษ์ มีการอพยพประชาชนแล้วมากกว่า 41,000 คน กระจายไปตามจุดต่างๆ โดยจุดนี้เป็นจุดที่น่าจะมีผู้อพยพมากที่สุด เพราะใกล้แนวชายแดนที่อยู่ในระยะปลอดภัยมากที่สุด คือ ประมาณ 40 กิโลเมตร จากแนวชายแดน มีประชาชนเข้ามาพักอาศัย 4,865 คน และยังมีจุดอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกระจายกันไป ผลจากสถานการณ์ตึงเครียดและพลเรือนตกเป็นเป้าของการโจมตี ทำให้หลายคนอยู่ในอาการเครียดและกังวล เจ้าหน้าที่ต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้กำลังใจเป็นระยะ รวมทั้งให้บริการยาและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นเบื้องต้น พร้อมกันนี้ได้ย้ำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้ฝากแจ้งประชาชนที่ยังลังเลไม่ยอมอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สินหรือสัตว์เลี้ยง ว่า ขณะนี้มีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน ดูแลพื้นที่อย่างใกล้ชิดทุกหมู่บ้าน จึงขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือ และออกมาจากพื้นที่เสี่ยงตามจุดนัดหมาย เพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว. – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

9 ทันโลก : แจงด่วน! คณะมนตรีความมั่นคง ไทยนี้รักสงบ

25 ก.ค. – นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จะร่วมประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ตามที่กัมพูชาร้องขอไว้ รายงาน 9 ทันโลก พาไปติดตามบทบาทและโอกาสของไทยบนเวทีสำคัญนี้ ไทยในฐานะสมาชิกสหประชาชาตินานเกือบ 80 ปี จะได้แสดงบทบาทอีกครั้งในคณะมนตรีความมั่นคง ซึ่งเป็นโอกาสสำคัญในการสื่อสารกับประชาคมโลก ถึงการกระทำของกัมพูชา ซึ่งเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศหลายด้าน รวมถึงกฎบัตรสหประชาชาติที่ไทยยึดมั่น ในห้องประชุมนี้ ไทยในฐานะสมาชิกสหประชาชาติ ลำดับที่ 55 จะทำหน้าที่อีกครั้งในภารกิจด้านสันติภาพ ตั้งแต่เข้าเป็นสมาชิกเมื่อปี 2489 ที่นี่ไทยเคยทำหน้าที่ประธานการประชุมคณะมนตรีความมั่นคง โดยพลอากาศเอก สิทธิ เศวตศิลา และหม่อมหลวง พีระพงศ์ เกษมศรี ทำหน้าที่สองวาระ ในปี 2528 และ 2529 ในเวลาที่สงครามเย็นคุกรุ่น มาในวันนี้ไทยกำลังจะมีโอกาสอันดีที่ได้ใช้ช่องทางการทูตสำคัญ เสาหลักความมั่นคงของสหประชาชาติ ในอีกบทบาทหนึ่งที่ยังคงอยู่บนพื้นฐานการแสวงหาสันติภาพตามกลไกนี้ เมื่อประเทศสมาชิก ในกรณีนี้คือกัมพูชา ร้องขอให้เปิดประชุมเร่งด่วน สมาชิกคณะมนตรีซึ่งมีสมาชิกถาวร 5 ประเทศ และสมาชิกไม่ถาวร 10 ประเทศ พิจารณากรณีที่เป็นภัยคุกคามใดต่อสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ เช่น กรณีการปะทะระหว่างไทยกับกัมพูชา […]

น่านยังอ่วม บางจุดน้ำท่วมสูงเกือบ 2 เมตร

น่าน 25 ก.ค. – เข้าสู่วันที่ 3 น้ำท่วมใหญ่เป็นประวัติการณ์ของเมืองน่าน แม้ระดับน้ำลดลงบ้างแล้ว แต่ในตัวเมือง-เขตเศรษฐกิจยังท่วมสูง บางจุดระดับน้ำเกือบ 2 เมตร ขณะที่ “บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์” นำทีมกู้ภัยฝ่ากระแสน้ำเชี่ยวเข้าช่วยเหลือชาวบ้าน .-สำนักข่าวไทย

มีผลทันที! ประกาศกฎอัยการศึก 8 อำเภอ “จันทบุรี-ตราด”

25 ก.ค.- กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ประกาศใช้กฎอัยการศึกบางพื้นที่ มีผลทันที กองทัพเรือ โดย กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด “ประกาศใช้กฎอัยการศึก” บางพื้นที่ ดังนี้ ตามที่ได้มีประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ลงวันที่ 19 กันยายน 2549 ให้ใช้กฎอัยการศึกทั่วราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ 19 กันยายน 2549 เวลา 21.05 นาฬิกา ซึ่งต่อมาได้มีพระบรมราชโองการเลิกใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่ และให้ใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่ ลงวันที่ 31 ธันวาคม 2550 นั้น โดยที่ปรากฏว่าประเทศกัมพูชาได้ใช้กำลังและอาวุธรุกรานเข้ามาในราชอาณาจักรไทยตลอดแนวชายแดน จึงมีความจำเป็นโดยมิอาจหลีกเลี่ยงได้ที่ต้องใช้กำลังทหาร ตำรวจ พลเรือน ตลอดจนประชาชนชาวไทยทุกคน เพื่อป้องกันประเทศให้พ้นจากภัยคุกคามอันมีที่มาจากภายนอกราชอาณาจักรดังกล่าว เพื่อรักษาไว้ซึ่งอธิปไตยของชาติและบูรณภาพแห่งดินแดน ตลอดจนชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนชาวไทย และจำเป็นต้องประกาศใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่เพิ่มเติม อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 176 วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ประกอบกับมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติกฎอัยการศึก พุทธศักราช 2457 จึงให้ใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่เพิ่มเติม ดังต่อไปนี้ ข้อ 1 จังหวัดจันทบุรี อำเภอเมืองจันทบุรี […]

จรวด BM-21 ตกในพื้นที่สุรินทร์ 6 ลูก เร่งอพยพคนเพิ่ม

สุรินทร์ 25 ก.ค. – กระสุนของฝั่งกัมพูชามาตกไกลกว่าเหตุปะทะปี 2554 ตามที่เจ้าหน้าที่คาดการณ์ ล่าสุดมีจรวด BM-21 จำนวน 6 ลูก ตกในพื้นที่ อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ เตรียมอพยพประชาชนไปยังที่ปลอดภัยกว่า .-สำนักข่าวไทย