ยอดจดทะเบียนตั้งใหม่ปี 61 เกินเป้า

นนทบุรี 23 ม.ค. – กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเผยยอดจดทะเบียนใหม่ทั่วประเทศปี 61 เกินเป้าได้ถึง 72,109 ราย พร้อมตั้งยอด 62 ใกล้เคียงปีที่ผ่านมา เตรียมมาตรการกระตุ้นเอกชนตื่นตัวจดทะเบียนมากขึ้น


นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยยอดการจดทะเบียนธุรกิจจัดตั้งใหม่เดือนธันวาคม 2561 ว่า มีผู้ประกอบธุรกิจยื่นขอจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนบริษัทใหม่ทั่วประเทศ 4,102 ราย เมื่อเทียบกับเดือนพฤศจิกายน 2561 จำนวน 5,539 ราย ลดลง 1,437 ราย คิดเป็นร้อยละ 26 ซึ่งถือเป็นปกติของการจดทะเบียนในช่วงสิ้นปีที่มีลักษณะตามแนวโน้มฤดูกาลลดลง แต่เมื่อเทียบกับเดือนธันวาคม 2560 จำนวน 6,305 ราย ลดลง 2,203 ราย คิดเป็นร้อยละ 35 เนื่องจากปีที่ผ่านมาการจัดตั้งธุรกิจเพิ่มขึ้นมาจากมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมให้บุคคลธรรมดาประกอบธุรกิจในรูปแบบนิติบุคคลของกรมสรรพากร    


ทั้งนี้ ในปี 2561 มีธุรกิจตั้งใหม่สะสมตั้งแต่เดือนมกราคม–ธันวาคม 2561 จำนวน 72,109 ราย เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปี 2560 จำนวน 74,517 ราย ลดลง 2,408 ราย คิดเป็นร้อยละ 3 ซึ่งเป็นยอดตามคาดหมายว่าตลอดทั้งปีจะมีการตั้งใหม่ 70,000-75,000 ราย แม้ว่าปี 2561 จะยังคงมีมาตรการสนับสนุนให้ผู้ประกอบการจัดตั้งธุรกิจในรูปแบบนิติบุคคล แต่มีการปรับลดความเข้มข้นของมาตรการบางส่วนลง เช่น การยกเว้นภาษีธุรกิจเฉพาะ อากรแสตมป์ และค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนนิติกรรมที่ดิน เป็นต้น จึงเป็นเหตุให้จำนวนธุรกิจจัดตั้งใหม่ปี 2561 ลดลงเล็กน้อยจากปี 2560

อย่างไรก็ตาม ประเภทธุรกิจจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ในเดือนธันวาคม ได้แก่ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 372 ราย รองลงมา ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป 322 ราย และอันดับ 3 ธุรกิจขายปลีกสินค้าอื่น ๆ ในร้านค้าทั่วไป 118 ราย โดยทั้งปี 2561 ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป 6,578 ราย รองลงมา ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 4,394 ราย และอันดับ 3 ธุรกิจภัตตาคาร ร้านอาหาร 2,058 ราย หากดูมูลค่าทุนธุรกิจจัดตั้งใหม่เดือนธันวาคม 38,669 ล้านบาท เมื่อเทียบกับเดือนพฤศจิกายน 2561 จำนวน 75,167 ล้านบาท ลดลง 36,498 ล้านบาท และเมื่อเทียบกับเดือนธันวาคม 2560  จำนวน 146,984 ล้านบาท ลดลง 108,315 ล้านบาท 


นอกจากนี้ ส่งผลให้ปี 2561 มูลค่าทุนจดทะเบียนธุรกิจตั้งใหม่สะสมตั้งแต่เดือนมกราคม-ธันวาคม 2561 จำนวน 374,284 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา 519,690 ล้านบาท ลดลงกว่า 145,406 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 28 ซึ่งธุรกิจดำเนินกิจการเดือนธันวาคม 712,939 ราย  มูลค่าทุน 16.52 ล้านล้านบาท  โดยประเภทธุรกิจเลิกประกอบกิจการสูงสุด 3 อันดับแรกเดือนธันวาคม  ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป  515 ราย   รองลงมา ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 252 ราย และธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร 135 ราย หากดูยอดเลิกทั้งปี 2561  ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป 2,042 ราย   รองลงมา ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์  1,269 ราย  และธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร 566 ราย    

อย่างไรก็ตาม กรมฯ สรุปผลการจดทะเบียน ปี 2561 และคาดการณ์ตลอดปี 2562 โดยปี 2561 มีการจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนบริษัท  72,109 ราย โดยธุรกิจจัดตั้งใหม่ส่วนใหญ่ยังเป็นธุรกิจในกลุ่มก่อสร้างอาคารทั่วไป อสังหาริมทรัพย์ และภัตตาคาร/ร้านอาหาร เป็นหลัก ซึ่งมีความสอดคล้องกับนโยบายของภาครัฐในการสนับสนุนการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ และการขยายตัวของการใช้จ่าย เพื่อการอุปโภคบริโภคและการลงทุนของภาคเอกชน รวมทั้งยังได้รับปัจจัยสนับสนุนจากมูลค่าการส่งออกที่มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งปีแรก และการขยายตัวโดยรวมของรายได้จากการเข้ามาของนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ ซึ่งถือเป็นอีกปัจจัยสำคัญในการสนับสนุนกาเติบโตและการขยายตัวของธุรกิจจัดตั้งใหม่ปี 2561 

สำหรับปี 2562 เมื่อพิจารณาอัตราการเติบโตของการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจย้อนหลัง 7 ปี (2559 – 2561) พบว่า มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ  4.1 ผนวกกับสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) คาดการณ์จีดีพีปี 2562 ไว้ที่ร้อยละ 3.5 – 4.5 และการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกร้อยละ 3.8 สอดคล้องและเป็นไปในทิศทางเดียวกับค่าเฉลี่ยอัตราการเติบโตของการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจย้อนหลัง 7 ปี และแนวโน้มการประกอบธุรกิจในรูปแบบของนิติบุคคลที่เติบโตเพิ่มสูงขึ้นจากการสนับสนุนจากภาครัฐและการสร้างความน่าเชื่อถือในการประกอบธุรกิจ ประกอบกับค่าเฉลี่ยอัตราการเติบโตของการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจ จึงประมาณการยอดการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจปี 2562 จะใกล้เคียงกับปี 2561 อยู่ที่ 70,000 ราย โดยกรมฯ จะเร่งส่งเสริมผู้ประกอบการเข้ามาจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งจะสนับสนุนและส่งเสริมให้นิติบุคคลมีศักยภาพในการทำธุรกิจ ทั้งด้านการบริหารองค์กร การจัดการทางการเงิน การตลาด โดยจะบูรณาการความร่วมมือร่วมกับหน่วยงานทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน หน่วยธุรกิจ และ startup ต่าง ๆ เพื่อให้นิติบุคคลเข้าถึงการใช้งานโปรแกรม เทคโนโลยี และองค์ความรู้ที่จำเป็นต่อการประกอบธุรกิจด้วยต่อไป .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไม่เอาไว้! ต่างด้าวสร้างปัญหาให้บุคลากรการแพทย์เมืองปาย

ผบช.สตม. ลั่น ไม่เอาไว้! ต่างด้าวสร้างปัญหาให้บุคลากรการแพทย์เมืองปาย เพิกถอนใบอนุญาต ผลักดันออกนอกประเทศทันที

ตรวจสอบ The Park เขาหลัก งบก่อสร้าง 140 ล้าน คุ้มค่าหรือไม่?

สำนักข่าวไทย ได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านให้ช่วยเข้าไปตรวจสอบการก่อสร้างโครงการศูนย์กลางการท่องเที่ยวและนันทนาการชายฝั่งแห่งเมืองพังงา หรือ The Park เขาหลัก ริมหาดบางเนียง หลังมีข้อมูลว่าเป็นโครงการที่ก่อสร้างด้วยงบกว่าร้อยล้านบาท แต่ปัจจุบันกลับไม่ได้ใช้ประโยชน์ และถูกปล่อยให้อยู่ในสภาพรกร้าง

ลูกสาวสารภาพจุดไฟเผาพ่อวัย 73 ดับคากระท่อม

ลูกสาวเปิดปากสารภาพจุดไฟเผาพ่อวัย 73 ปี เสียชีวิตในกระท่อม ข้างลานรับซื้อข้าวเปลือก ต.โนนศิลาเลิง อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์

พิรงรองคุก2ปี

คุก 2 ปี “พิรงรอง” กสทช. คดี “ทรู” ฟ้องกลั่นแกล้ง

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี “พิรงรอง” กรรมการ กสทช. ไม่รอลงอาญา ผิดมาตรา 157 ชี้มีเจตนากลั่นแกล้ง “ทรูไอดี” ให้ได้รับความเสียหาย กรณีออกหนังสือเตือนโฆษณาแทรกในทีวีดิจิทัล

ข่าวแนะนำ

ตัดไฟเมียนมา

ตัดแขนขาเมียนมา ราคาน้ำมันพุ่ง-จำกัดการซื้อ

เข้าสู่วันที่ 3 สำหรับการตัดไฟฟ้า สัญญาณอินเทอร์เน็ต และระงับการส่งน้ำมัน จากฝั่งแม่สอดของไทยไปเมืองเมียวดีของเมียนมา ซึ่งส่งผลกระทบชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะการขาดแคลนน้ำมันในฝั่งเมียวดี

หมายจับ สส.ปูอัด

“สส.ปูอัด” เงียบหาย หลังถูกออกหมายจับข่มขืนสาวไต้หวัน

“สส.ปูอัด” เงียบหาย ไม่รับสายสื่อ หลังถูกออกหมายจับข่มขืนสาวไต้หวัน ด้าน “เลขาสภาฯ” เผยเรื่องยังไม่ถึงสภา หากมาแล้วต้องบรรจุวาระขอสมาชิกให้อนุญาตดำเนินคดี

มือถือแตงโม

ดีเอสไอรับมอบมือถือแตงโม ส่งสถาบันนิติวิทย์ฯ ตรวจดีเอ็นเอ เช้านี้

โทรศัพท์มือถือ “แตงโม ภัทรธิดา” ถึงมือดีเอสไอ เก็บเข้าห้องมั่นคงลับสูงสุดตลอดคืน เช้านี้นำส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เข้าห้องแล็บตรวจหาหลักฐาน