หนุ่มใหญ่แทบช็อกทราบข่าวตัวเองตายที่รพ. พบถูกสวมบัตร

สงขลา 22 ม.ค.-ชายวัย 41ปี แทบช็อก ทราบข่าวตัวเองเสียชีวิตที่โรงพยาบาลสงขลา ตรวจสอบพบเป็นคนละคนกัน แต่รายละเอียดในบัตรประชาชนตรงกันหมด ต่างแค่รูปถ่าย นายอำเภอสงขลาเร่งตรวจสอบใครตัวจริงตัวปลอม


นายหมัดโสด สายสะอิด อายุ 41 ปี หรือบังโสด เปิดเผยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าเมื่อวันเสาร์ที่19 มกราคมที่ผ่านมาทางโรงพยาบาลสงขลาได้โทรศัพท์มาหาญาติของตนว่าตัวเองป่วยอยู่ที่โรงพยาบาลและอาการหนัก แพทย์พยายามปั๊มหัวใจอยู่ในห้องไอซียู 


ญาติตกใจมากและรีบไปที่โรงพยาบาลและดูชื่อซึ่งเป็นชื่อและนามสกุลของตนจริงๆ เนื่องจากตอนนั้นอยู่ในห้องไอซียูไม่เห็นหน้า กระทั่งต่อมาแพทย์ได้แจ้งว่าตนเองได้เสียชีวิตแล้ว ญาติจึงไปดูศพแต่พอเปิดหน้าออกก็พบว่าเป็นคนละคนกัน และพาตนไปยืนยันตัวตนที่โรงพยาบาลสงขลาว่าเป็นคนละคนกันซึ่งน่าจะถูกสวมบัตรประชาชน ซึ่งในบัตรประชาชนรายละเอียดตรงกันทุกอย่างยกเว้นรูปถ่าย รวมทั้งบัตรตัวปลอมเป็นบัตรเก่าที่หมดอายุไปแล้วเมื่อปี2560 ส่วนบัตรตัวจะหมดอายุในปี 2564 ต่อมาเมื่อคืนนี้ทางโรงพยาบาลสงขลายังได้แจ้งมายังผู้ใหญ่บ้านอีกครั้งว่าให้มาช่วยแจ้งญาติตนว่า ตนเสียชีวิตอยู่ที่โรงพยาบาล แต่ได้บอกไปว่าไม่ใช่ตัวจริงและได้ไปยืนยันตัวตนแล้ว จึงต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบที่มาที่ไปของชายคนนี้ว่ามาสวมบัตรประชาชนของตนได้อย่างไร

นายหมัดโสด บอกว่าครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่ถูกปลอมบัตรประชาชนโดยเมื่อสองปีก่อนเคยมีคนไปแจ้งขอต่อบัตรประชาชนใหม่ในชื่อตนที่ที่ว่าการอำเภอสทิงพระ แต่ไม่สามารถต่อได้เพราะซ้ำซ้อนเนื่องจากตนได้ไปทำบัตรใหม่แล้วหลังจากที่ได้ทำบัตรประชาชนหล่นหาย จึงเชื่อว่าน่าจะมีคนพบและนำไปสวมชื่อแทน ซึ่งเท่าที่ตรวจสอบข้อมูลพบว่าเคยถูกนำไปใช้รักษาพยาบาลและสมัครทำงานขายไอศครีมด้วย


ผู้สื่อข่าวตรวจสอบข้อมูลของชายที่เสียชีวิตจากทางโรงพยาบาลสงขลา พบว่าหน่วยกู้ภัยของเทศบาลเมืองสงขลาได้ไปรับมาจากวัดแหลมทราย ในเขตเทศบาลนครสงขลา เนื่องจากป่วยหนัก และได้บอกว่าตัวเองชื่อ นายหมัดโสด สายสะอิด แต่ไม่มีบัตรประชาชน  เมื่อตรวจสอบข้อมูลทางโรงพยาบาลก็มีประวัติผู้ป่วยชื่อ นายหมัดโส สายสะอิด ที่เคยเข้ารักษาอยู่แล้วด้วย จึงแจ้งแจ้งให้ญาติทราบ ขณะนี้ศพของชายคนนี้ ถูกเก็บไว้ที่โรงพยาบาลสงขลาเพราะเป็นศพไร้ญาติ 

ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังวัดแหลมทราย สอบถามรายละเอียดของชายคนนี้ และทราบจาก นายฉัตรชัย ทองชาติ อายุ 64 ปี คนขับรถจักรยานยนต์รับจ้างที่รู้จักกับชายคนนี้บอกว่า ไม่ทราบประวัติและที่มาที่ไปของชายคนนี้แต่เป็นคนขายไอศครีมและช่วงหลังได้มาช่วยงานที่วัดแหลมทรายและนอนพักที่วัดบ้างเป็นครั้งคราว วันเกิดเหตุมีอาการป่วยหนักอาเจียนเป็นเลือดขอให้ตนช่วยแจ้งหน่วยกู้ภัยให้มารับตัวส่งโรงพยาบาลสงขลากระทั่งทราบว่าเสียชีวิตในเวลาต่อมา

ผู้สื่อข่าวนำภาพบัตรประชาชนตัวจริงของ นายหมัดโสด สายสะอิด ให้นายฉัตรชัยดู ก็บอกว่ารูปถ่ายเป็นคนละคนกัน แต่รายละเอียดในบัตรประชาชนตรงกันทุกอย่าง เนื่องจากตนไปขอเอกสารบัตรประชาชนจากร้านไอศครีมซึ่งเป็นที่ทำงานเก่าไปมอบให้กับทางโรงพยาบาล  แต่ก็ไม่ทราบประวัติของชายคนนี้เช่นกันเพราะบอกช่วงที่รู้จักก็บอกเพียงชื่อเล่นว่าบังเท่านั้น 

ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปยังร้านไอศกรีมแห่งหนึ่งซึ่งตั้งอยู่ที่ถนนสะเดา ซอย 5 ก็ได้รับคำบอกเล่าจากเจ้าของร้านว่าชายคนนี้เคยมาสมัครขายไอศครีมที่ร้านเมื่อราว 2 ปีก่อนและใช้เอกสารบัตรประชาชน ชื่อ นายหมัดโสด สายสะอิด พร้อมที่อยู่ตามบัตรมาสมัครแต่ก็ยืนยันว่าเป็นคนละคนกับตัวจริง นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวยังได้เดินทางไปตรวจสอบข้อมูลยังสำนักทะเบียนราษฎร์ที่ว่าการอำเภอเมืองสงขลา พบว่าในฐานข้อมูลทะเบียนราษฎร์บัตรประชาชนชื่อนี้เป็นรูปของ นายหมัดโสด สายสะอิด ที่ยังมีชีวิตอยู่ แต่บัตรถูกระงับไว้แล้ว 

นายไชยพร นิยมแก้ว นายอำเภอเมืองสงขลา เปิดเผยว่า เรื่องนี้จะต้องมีการพิสูจน์ว่าใครคือตัวจริงตัวปลอม โดยจะต้องนำคนที่ยังมีชีวิตอยู่มาสอบสวนและพิสูจน์ รวมทั้งนำพ่อแม่ญาติพี่น้องกำนันผู้ใหญ่บ้านมายืนยันซึ่งจะมีข้อมูลอยู่แล้ว แต่ยังไม่สรุปว่ามีการสวมตัวหรือไม่ ใครเป็นคนสวมใคร และสวมมาจากสำนักทะเบียนใด กรณีนี้เกิดขึ้นได้ทั้งเรื่องของความบังเอิญ ความประมาทเลินเล่อของเจ้าหน้าที่ และเจตนาที่จะทุจริตในการสวมตัว แต่เท่าที่พบการสวมตัวจะไม่สวมกับคนที่มีชีวิตอยู่ แต่จะสวมกับคนที่ตายไปแล้ว ซึ่งเรื่องนี้ต้องพิสูจน์ข้อเท็จจริงต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทบ.​ เชิญ​ผู้ช่วยทูตทหาร รับฟังข้อเท็จจริง​ปมทุ่นระเบิดช่องบก

กองทัพบก 22 ก.ค.- ทบ.​ เชิญ​ผู้ช่วยทูตทหาร​ 47 ประเทศ​ รับฟังคำชี้แจง​สถานการณ์​ชายแดน​ไทย​-กัมพูชา​ หลังกำลังพลเหยียบกับระเบิดบาดเจ็บ​ 3 นาย​ พบ เป็นทุ่นระเบิดสังหารบุคคล​วางใหม่​ โดยมีหลายชาติ สนใจรับฟังขณะ​ พลจัตวา​ ฮอม​ คิม ผู้ช่วยทูตทหารดัมพูชา ร่วมด้วย กองบัญชาการ​กองทัพ​บก​ เชิญผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศประจำประเทศไทย​ รับฟังการชี้แจงสถานการณ์​ชายแดนไทย​-กัมพูชา​ ถึงข้อเท็จจริงกรณีไทยโดนรุกล้ำอธิปไตย​ และมีการวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคล​ ทำให้ทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย​ และมีการตรวจสอบว่าเป็นการวางทุ่นระเบิดใหม่​ ที่วางในเขตไทย​ ซึ่งขัดต่ออนุสัญญา​ออตตาวา​ ที่ทั้งไทยและกัมพูชาเป็นประเทศภาคี​ที่ให้สัตยาบัน​​ บรรดาทูต​ทหาร​ ทยอยเดินทางมายังห้อง ศรีสิทธิสงคราม​ ภายในกองทัพบก ตั้งแต่เวลา​ 13.20 น.​ อาทิทูตทหารจากเวียดนาม เมียนมา อินเดีย ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ อังกฤษ บูรไน ออสเตเรีย สหรัฐอเมริกา อินโดนิเซีย จีน กัมพูชา เยอรมันนี แคนนาดา […]

พายุวิภากระหน่ำจันทบุรี ซัดหลังคาร้านอาหารถล่ม

จันทบุรี 22 ก.ค. – พายุกระหน่ำจันทบุรี ซัดหลังคาร้านข้าวมันไก่ถล่ม กระแทกหลังแม่เจ้าของร้านได้รับบาดเจ็บ ส่วนที่ภูเก็ตพายุถล่มภูเก็ต ป้ายล้ม-ต้นไม้ทับสาวจีนเสียชีวิต หลังคาร้านข้าวมันไก่ บริเวณตลาดศิริการ อ.เมือง จ.จันทบุรี ถูกพายุพัดร่วงลงมาทั้งแผง ท่ามกลางความตื่นตระหนกของลูกค้าและพนักงานในร้าน เหตุดังกล่าวเกิดช่วงเที่ยงพอดี จึงมีลูกค้ามานั่งกินข้าวเต็มร้าน กระทั่งมีฝนเทลงมา ทางร้านและลูกค้าจึงช่วยกันขนย้ายโต๊ะเก้าอี้เข้าข้างในเพื่อหลบฝน ก่อนพายุจะซัดเข้ามาอย่างรุนแรง จนหลังคาถล่ม เบื้องต้นไม่มีลูกค้าได้รับบาดเจ็บ มีเพียงแม่เจ้าของร้านข้าวมันไก่อีกร้าน ที่อยู่ติดกัน ถูกหลังคากระแทกหลังได้รับบาดเจ็บ นำส่งโรงพยาบาลแล้ว พนักงานร้านข้าวมันไก่ บอกว่า ปกติบริเวณนี้มีฝนตกบ่อย หลังคาแข็งแรงดี ไม่ได้ชำรุดอะไร แต่วันนี้ ลมแรงมาก มาแบบวูบเดียว พัดหลังคาลอยขึ้นก่อนพังลงมา ทั้งนี้ลมพายุได้พัดหลังคาของตึกที่อยู่ในละแวกร้านข้าวมันไก่พังเสียหายจำนวน 15 คูหา เบื้องต้นกำลังทหารและตำรวจ ได้เข้าตรวจสอบ พร้อมให้การช่วยเหลือ ขนย้ายเศษซากหลังคาเคลียร์พื้นที่เพื่อความปลอดภัยแล้ว พายุโซนร้อนวิภาถล่มภูเก็ต ป้ายล้ม-ต้นไม้ทับสาวจีนเสียชีวิต ที่หน้าหาดเกาะเฮ จังหวัดภูเก็ต นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ หอบข้าวของวิ่งหนีลมพายุ จังหวะนั้นต้นไม้ขนาดใหญ่ถูกลมพัดโค่นลงมา ในคลิปจะได้ยินเสียงคนพูดว่า “เห็นไหม คน ๆ อยู่ใต้นั้น” หลังเหตุการณ์สงบ […]

รถบรรทุกพุ่งชน จยย.พ่วงข้างรับส่ง นร. ตาย 3 เจ็บ 6

พระนครศรีอยุธยา 22 ก.ค. – สลด รถบรรทุก 6 ล้อ พุ่งชนรถจักรยานยนต์พ่วงข้างรับส่งนักเรียน มีผู้เสียชีวิต 3 คน บาดเจ็บ 6 คน เกิดอุบัติเหตุรถบรรทุก 6 ล้อ ทะเบียนพระนครศรีอยุธยา พุ่งชนรถจักรยานยนต์พ่วงข้างรับส่งนักเรียน โรงเรียนวัดมณฑลประสิทธิ์ ก่อนตกลงไปในร่องน้ำ บนถนนชนบทเลียบคลองระพีพัฒน์ หมู่ 5 ตำบลวังน้อย อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และอัดกับรั้วบ้านจนรถพังยับ มีผู้ติดอยู่ในรถ 2 คน เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องใช้อุปกรณ์ตัดช่วยเหลือผู้บาดเจ็บทั้ง 2 คนออกมา แต่ผู้โดยสารเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนคนขับบาดเจ็บสาหัส ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง สภาพรถเสียหายยับเยิน คนบนรถ 7 คน เป็นนักเรียนโรงเรียนวัดมณฑลประสิทธิ์ 6 คน ผู้ปกครอง 1 คน บาดเจ็บทั้งหมด เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงช่วยกันนำตัวส่งโรงพยาบาลวังน้อย และมีนักเรียน 2 คนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่มูลนิธิพุทไธสวรรย์ จุดกิตติวังน้อย […]

โฆษก ทบ. เผยนานาชาติเข้าใจไทยเคลียร์ปมทุ่นระเบิด

กองทัพบก 22 ก.ค.- โฆษก ทบ. เผยเคลียร์ปมทุ่นระเบิด นานาชาติเข้าใจไทย ขณะผู้ช่วยทูตทหารกัมพูชานั่งนิ่งไม่โต้แย้ง – ให้กองทัพภาคที่ 2 ประเมินสถานการณ์หลังคนไทยนัดรวมตัวปราสาทตาเมือนธม ปลายเดือนนี้ พลตรีวินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวภายหลังการเชิญผู้ช่วยทูตทหาร รับฟังคำชี้แจง​สถานการณ์​ชายแดน​ไทย​- กัมพูชา​ หลังกำลังพลเหยียบกับระเบิดบาดเจ็บ​ 3 นาย​ ว่า บรรยากาศเป็นไปด้วยดี ส่วนใหญ่เป็นการรับฟังและมีคำถามบ้าง ถือว่าน้อย เนื่องจากทุกท่านอาจจะได้รับข่าวสารจากช่องทางอื่นมาบ้างแล้ว ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารบก ที่พยายามบอกกล่าวและชี้แจงกับสิ่งที่เกิดขึ้น ในเรื่องข้อเท็จจริง พลตรีวินธัย เปิดเผยว่า ทูตทหารของกัมพูชา ไม่ได้ชี้แจงหรือมีคำถามอะไร คำถามส่วนใหญ่มาจากท่านอื่นมากกว่า ที่ถามเรื่องของความมั่นใจและยืนยันใช่หรือไม่ ซึ่งทางเรา ก็ให้เหตุผลไป และจะให้เอกสารชี้แจง ส่วนท่าทีของประเทศมหาอำนาจ ก็ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษ ซึ่งการเชิญมาในวันนี้เราก็ทำตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารบก คือทำให้เป็นทางการ ส่วนการหารือได้ชี้แจงเรื่องของการละเมิด บูรณภาพดินแดน และเอ็มโอยู 2543 และอนุสัญญาออตตาวา ด้วยหรือไม่ พลตรีวินธัย ระบุว่า มีการพูดถึงประเด็นดังกล่าว และได้อธิบายตามหลักอนุสัญญา ที่ทั้งสองประเทศเป็นสมาชิก และเล่าถึงกลไกการแก้ไขปัญหา […]

ข่าวแนะนำ

น้ำท่วมตัวเมืองน่าน-เขตเศรษฐกิจขยายวงกว้าง

น่าน 23 ก.ค. – ตอนนี้น้ำท่วมตัวเมืองน่าน รวมทั้งเขตเศรษฐกิจ ยังเพิ่มสูงขึ้นและแผ่ขยายวงกว้างออกไปเรื่อยๆ หลังระดับน้ำท่วมสูงเกิน 9 เมตร และทะลักเข้าท่วม .-สำนักข่าวไทย

ผบ.ทบ.นำคณะลงช่องอานม้า พรุ่งนี้ จ่อใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ

23 ก.ค.- “ผบ.ทบ.” สั่ง ทภ.2-ทภ.1 เตรียมพร้อม “แผนจักรพงษ์ภูวนาถ” รับมือชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมยกคณะลงพื้นที่บัญชาการ วันที่ 23 ก.ค.68 พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผข.ทบ.) ได้สั่งการไปยังกองทัพภาคที่ 2 และกองทัพภาคที่1 รับผิดชอบพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชา เตรียมใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ แก้ไขปัญหาพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชาหลัง กำลังพลของกองทัพบกไทยจากชุดลาดตระเวน พัน.ร.14 ประสบเหตุเหยียบกับระเบิดบริเวณห้วยบอน ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี พิกัด VA 950911 ซึ่งเป็นพื้นที่ปฏิบัติการตามแนวชายแดน โดยส่งผลให้ จ่าสิบเอกพิชิตชัย บุญโคราช ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการสูญเสียขาขวา และอยู่ระหว่างการส่งตัวรักษาต่อ ณ โรงพยาบาลน้ำยืน โดยให้พร้อมปฏิบัติหน้าที่ทันที เมื่อสั่งการ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (24 ก.ค.) พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พลโท ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ รองเสธ ทบ. พลโทบุญสินพาดกลาง มทภ.2 […]

ตอบโต้เขมร! ปิด 4 ด่าน หลังทหารเหยียบกับระเบิดขาขาดอีก 1 ราย

23 ก.ค.- ศบ.ทก. เห็นชอบให้ทัพภาค 2 ปิดด่านชายแดน-สถานที่ท่องเที่ยว 4 จังหวัดอีสานใต้ ตั้งแต่พรุ่งนี้ (24 ก.ค.) หลังล่าสุดทหารไทยเหยียบกับระเบิดขาขาดอีกราย จากกระแสข่าวมีทหารไทยเหยียบกับระเบิดขาขาดบริเวณแนวชายแดนไทยกัมพูชาเมื่อเวลา 16.55 น. นั้น ล่าสุด แหล่งข่าวจากศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. ยอมรับว่าเป็นเรื่องจริงโดยกองทัพภาคที่ 2 ได้ปรึกษามาที่ ศบ.ทก. เพื่อขออนุญาตปิดด่านในพื้นที่รับผิดชอบของกองทัพภาคที่ 2 ได้แก่ อุบลราชธานี ศรีษะเกษ สุรินทร์ และบุรีรัมย์ รวมทั้งสถานที่ท่องเที่ยวตามแนวชายแดน เพื่อเป็นการประท้วงกัมพูชา จากการลักลอบวางทุ่นระเบิดที่เกิดขึ้น ซึ่ง ศบ.ทก. เห็นชอบ ขณะเดียวกันจะส่งหนังสือประท้วงโดยใช้กลไก RBC และรายงานกระทรวงต่างประเทศ เพื่อประท้วงต่อไป ดังนั้นตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (24 ก.ค.) จะปิดด่านชายแดนทั้งหมดในพื้นที่ 4 จังหวัดอีสานใต้ของไทย หลังจากที่ฝั่งไทยมีการกำหนดเวลาเปิด-ปิด และในส่วนสถานที่ท่องเที่ยวอย่าง 3 ปราสาท คือ ตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด และตาควาย […]

พายุวิภาทำเชียงรายอ่วม-รพ.เทิง งดรับผู้ป่วยชั่วคราว

เชียงราย 23 ก.ค. – พายุวิภาทำ อ.เทิง จ.เชียงราย อ่วม น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือน พื้นที่การเกษตร โรงพยาบาลเทิง ประกาศงดให้บริการผู้ป่วยทั่วไปชั่วคราว รับเฉพาะผู้ป่วยฉุกเฉินเท่านั้น ด้านนายอำเภอสั่งการเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือชาวบ้านขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง อพยพผู้ป่วยและผู้สูงอายุไปยังที่ปลอดภัย ฝนตกหนักจากอิทธิพลพายุวิภา ทำให้น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรหลายอำเภอใน จ.เชียงราย โดยเฉพาะ อ.เทิง สถานที่ราชการ ได้แก่ สภ.เทิง ศาลจังหวัด และโรงพยาบาลเทิง เกิดน้ำท่วมขัง โรงพยาบาลต้องงดให้บริการผู้ป่วยทั่วไป รับเฉพาะผู้ป่วยฉุกเฉินเท่านั้น ขณะที่สถานการณ์โดยทั่วไปยังมีฝนตกหนัก นายอำเภอเทิงลงพื้นที่ สั่งเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือชาวบ้านขนย้ายของขึ้นที่สูง อพยพผู้ป่วยและผู้สูงอายุไปยังที่ปลอดภัย ส่วนถนนพหลโยธิน ต.นางแล อ.เมืองเชียงราย น้ำป่าจากดอยโป่งพระบาทไหล่เอ่อท่วมถนนด้านขาขึ้น การสัญจรเป็นไปอย่างยากลำบาก ภาพรวมสถานการณ์ จ.เชียงราย เบื้องต้นมีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 5 อำเภอ ประชาชนเดือดร้อนประมาณ 100 ครัวเรือน เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต.-สำนักข่าวไทย