นราธิวาส 2 ก.ย.-หลังเกิดเหตุคนร้าย 6 คน ดักปล้นรถขนนมที่ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี ซึ่งหลายฝ่ายคาดว่าอาจถูกนำไปก่อเหตุในวันสถาปนากลุ่มเบอร์ซาตู กระทั่งล่าสุดเจ้าหน้าที่พบรถคันดังกล่าว โดยภายในมีระเบิดแสวงเครื่องน้ำหนักถึง 80 กิโลกรัม ซุกซ่อนไว้เตรียมก่อเหตุที่ อ.แว้ง จ.นราธิวาส
เจ้าหน้าที่อีโอดีต้องฉีดน้ำตัดวงจรระเบิด ก่อนบังคับหุ่นยนต์เข้าตรวจสอบภายในรถกระบะอีซูซุ ดีแม็กซ์ สีบรอนซ์ ซึ่งเป็นรถขนนมโรงเรียนที่ถูกปล้นมาจากปัตตานี และถูกดัดแปลงนำมาก่อเหตุคาร์บอมบ์บริเวณหลังสถานีตำรวจภูธรแว้ง หลังจากนั้นชุดอีโอดีได้เดินเข้าไปตรวจสอบอย่างละเอียด จนพบระเบิดแสวงเครื่องที่เบาะนั่งข้างคนขับ บรรจุอยู่ภายในถังแก๊สหุงต้มขนาด 15 กิโลกรัม และบริเวณที่พักเท้าพบแกลลอนบรรจุน้ำมัน 10 ลิตร เจ้าหน้าที่จึงเก็บกู้ด้วยความระมัดระวัง โดยใช้เวลากว่า 4 ชั่วโมง จึงแล้วเสร็จ
สอบสวนเบื้องต้นทราบว่าก่อนหน้านี้คนร้ายได้วางระเบิดแสวงเครื่องน้ำหนัก 5 กิโลกรัม หน้าร้านอาหารแห่งหนึ่งบริเวณแยกวงเวียนนกเงือก ตำบลแว้ง เพื่อล่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบก่อนเตรียมจุดชนวนระเบิดคาร์บอมบ์ ซึ่งอยู่ห่างกันเพียง 20 เมตร หวังทำร้ายเจ้าหน้าที่ แต่เคราะห์ดีที่เก็บกู้ไว้ได้ทันเวลา
จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบคนร้ายขับรถคันดังกล่าวมาจอดจุดเกิดเหตุ ก่อนลงจากรถไปขึ้นจักรยานยนต์ของเพื่อนร่วมขบวนการและขับขี่ออกไป แต่จากนั้นไม่กี่นาทีให้หลังก็เกิดระเบิดลูกแรก ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังเร่งรวบรวมภาพจากกล้องวงจรปิด เพื่อสืบหาเบาะแสผู้กระทำการ ก่อนติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป
ด้านพันเอกยุทธนาม เพชรม่วง รองโฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า แถลงยืนยันรถคันดังกล่าวเป็นรถขนนมที่ถูกดักปล้นมาจากอำเภอสายบุรี โดยแม่ทัพภาพที่ 4 ได้เร่งติดตามคนร้ายมาดำเนินคดี พร้อมขอบคุณประชาชนที่ช่วยเป็นหูเป็นตาแจ้งเบาะแส.-สำนักข่าวไทย