ภูเก็ต 21 ม.ค.-ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต เผยดำเนินคดีแล้ว 4 ราย กองทัพมดเก็บกระป๋องเบียร์หลังรถบรรทุกเสียหลักเทกระจาดสูญกว่า 80,000 กระป๋อง ที่เหลือรู้ตัวหมดแล้วเร่งติดตามตัวและออกหมายเรียกเพิ่ม
สืบเนื่องจากกรณีที่รถเทรลเลอร์บรรทุกสินค้าบริษัท ศิริมงคล โลจิสติกส์ จำกัด ซึ่งมีนาย สมพร พริ้มจรัส 58 ปี เป็นคนขับ ได้บรรทุกเบียร์ เพื่อมาส่งให้กับบริษัทภูเก็ต สิวลี จำกัด เกิดอุบัติเหตุเสียหลักขณะเข้าโค้ง ในช่วงเวลาประมาณ 05.20 น.วันที่ 11 ม.ค.62 หน้าร้านสะดวกซื้อ ปากซอยกิ่งแก้ว ต.รัษฎา อ.เมืองภูเก็ต ส่งผลให้เครื่องดื่มเทกระจาดลงจากรถจำนวนมาก และมีทรัพย์สินประชาชน รถซาเล้งซึ่งจอดอยู่ริมถนนเสียหาย 3 คัน รวมถึงป้ายต่างๆ ก่อนที่ในช่วงเช้าจะมีประชาชนที่อยู่ในบริเวณดังกล่าวมาเก็บ ถึงแม้จะมีบางส่วนห้ามปราม แต่ยังมีการเก็บกลับบ้าน ก่อนจะพบว่าเบียร์ที่บรรทุกมาทั้งหมดกว่า 3,600 แพ็ก หรือ ประมาณ 86,400 กระป๋อง เทกระจาดลงจากรถกว่า 3,300 ถาดหรือประมาณ 79,200 กระป๋อง แต่หลังจากที่มีประชาชนมาเก็บที่ตกหล่น และบางส่วนยังเก็บส่วนที่อยู่บนรถไปอีก ทำให้เหลืออยู่ประมาณ 200 กว่าถาด ประมาณ 4,800 กระป๋อง สูญหายไปทั้งหมด 3,400 แพ็กหรือประมาณ 81,600 กระป๋อง รวมความเสียหายเบื้องต้นกว่า 2 ล้านบาท ต่อมาเวลา 14.00 น.ของวันเดียวกัน ตัวแทนผู้รับมอบอำนาจ ของบริษัท ศิริมงคล โลจิสติกส์ จำกัด และนาย สมพร พริ้มจรัส 58 ปี คนขับ เข้าพบ ตำรวจ สภ.เมืองภูเก็ต และเพื่อแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมาย ในข้อหาลักทรัพย์
ความคืบหน้า ล่าสุดวันนี้ (21 ม.ค.62 )พ.ต.อ.สมพงษ์ ทิพย์อาภากุล ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางพนักงานสอบสวนได้สอบสวนดำเนินคดีกับผู้ที่ลักทรัพย์ไปแล้วบางส่วน แยกเป็นรายบุคคลเป็น 2 คดีใหญ่ๆ คือ ถ้าผู้กระทำความผิดไม่มียานพาหนะ ก็จะดำเนินคดีตามความผิดฐานลักทรัพย์ แต่ถ้ามียานพาหนะจะดำเนินคดีตามความผิด “ลักทรัพย์โดยมียานพาหนะฯ” ซึ่งลักษณะความผิดและน้ำหนักโทษจะไม่เท่ากัน ล่าสุดจับกุมดำเนินคดีมาแล้ว 4 ราย ทั้งหมดสารภาพว่าเอาไปดื่มกิน หลังเห็นคนอื่นเก็บจึงเก็บด้วย ส่วนรายอื่นๆนั้นอยู่ระหว่างดำเนินการสอบสวน ยืนยันตัวบุคคลให้ชัดเจนและตรวจสอบเพิ่มเติม ตามหลักฐานที่ปรากฏ ก่อนรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับ หรือ หมายเรียกมาสอบสวนก่อนแจ้งข้อกล่าวหา
ส่วนคนที่รับซื้อขณะนี้ยังไม่ปรากฏพบ แต่ถ้าสอบสวนแล้วเกี่ยวข้องมีพยานหลักฐานชัดเจน จะดำเนินคดีฐานความผิด “รับซื้อของโจรฯ” ทั้งนี้ในส่วนของคนที่เหลือนั้นหากต้องการให้โทษจากหนักเป็นเบา ก็ควรมาติดต่อขอมอบตัว หรือแสดงตัวต่อเจ้าหน้าที่ เพราะหากเจ้าหน้าที่ออกหมายจับไปแล้วติดตามจับกุมก็จะมีความยุ่งยากทั้งจะถูกควบขังทันที ต้องทำเรื่องเสียเงินประกันตัวอีก แต่หากมามอบตัวเองก็ไม่ต้องถูกคุมขังไม่ต้องเสียเงินประกันตัว โทษหนักก็จะเบาลงมาก ซึ่งในชั้นศาลในการพิจารณาคดีนั้นศาลท่านอาจจะใช้ดุลพินิจ ในการบรรเทาโทษให้ได้ ฉะนั้นมามอบตัวเถอะเพราะเจ้าหน้าที่มีภาพ มีคลิป มีกล้องวงจรปิดไว้หมดแล้ว มีทั้งขนโดยใช้รถยตน์ ซาเล้ง มอเตอร์ไซค์ มีหมดเพียงแต่รอออกหมายเท่านั้น อย่างไรก็ตามอยากฝากถึงพี่น้องประชาชน กรณีเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ ไม่ควรเข้าไปหยิบข้าวของหรือทรัพย์สินมาเป็นทรัพย์สินย์ส่วนตัว เพราะนอกจากจะเป็นการซ้ำเติมผู้ประสบเหตุซึ่งเดือดร้อนอยู่แล้วให้ได้รับความเดือดร้อนเพิ่มอีก ยังเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ควรจะให้การช่วยเหลือกันมากกว่า
ส่วนคนขับนั้น เบื้องต้นต้องชดใช้ค่าเสียหายหนักเนื่องจากบริษัทประกันจ่ายเพียงหลักแสนเท่านั้น เพราะเป็นอุบัติเหตุที่ไม่มีคู่กรณีที่เหลือคนขับต้องจ่ายเองกว่า 2 ล้านบาท.-สำนักข่าวไทย
