ยะลา 21 ม.ค.- ภาคีเครือข่ายเพื่อต่อต้านและยุติความรุนแรง ออกแถลงการณ์ต่อต้านความรุนแรงที่เกิดขึ้นใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเจ้าหน้าที่วางมาตรการเข้มเพื่อดูแลความปลอดภัยพระสงฆ์ ซึ่งยังปฏิบัติกิจตามปกติ
พระสงฆ์ที่ จ.ยะลา โดยเฉพาะในเขตเทศบาลนครยะลา ยังคงปฏิบัติกิจสงฆ์ด้วยการออกบิณฑบาตตามปกติ ในบริเวณย่านชุมชนและตลาด เพื่อให้พุทธศาสนิกชนร่วมกันทำบุญตักบาตรถวายอาหารให้แก่พระสงฆ์ โดยมีหน่วยกำลังตำรวจและทหารค่อยดูแลความปลอดภัยให้พระสงฆ์ในแต่ละวัดที่ได้ออกรับบิณฑบาต ซึ่งที่ จ.ยะลา พล.ต.ต.กฤษฎา แก้วจันดี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา สั่งการให้ตำรวจในแต่ละสถานที่ที่มีพระสงฆ์ในพื้นที่ เพิ่มความเข้มงวด และเพิ่มกำลังดูแลในส่วนของพระสงฆ์ในพื้นที่รอบนอกและพื้นที่สุ่มเสี่ยง ได้มีการปรับเปลี่ยนให้รับบิณฑบาตที่วัด โดยมีประชาชนนำสิ่งของ อาหาร ไปทำบุญตักบาตรกันที่วัด เพื่อความปลอดภัยของพระสงฆ์
พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร รองเลขาธิการรักษาราชการแทนเลขาธิการ ศอ.บต. ร่วมกับภาคีเครือข่ายเพื่อต่อต้านและยุติความรุนแรง กลุ่มผู้นำศาสนา ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำภาคการศึกษา ผู้แทนจังหวัดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ องค์กรภาคประชาสังคม เครือข่ายสื่อมวลชน กลุ่มเยาวชน กลุ่มบัณฑิตอาสา กลุ่มพลังสตรี และภาคประชาชนทั่วไป ร่วมประชุมแถลงการณ์ต่อต้านความรุนแรงที่เกิดขึ้น ทำให้เกิดกิจกรรม “ถึงเวลาหันหน้าเข้าหากันเพื่อรวมพลัง โดดเดี่ยวผู้ที่ก่อความรุนแรง” จึงเชิญทุกภาคส่วนมาร่วมกัน ไม่ให้ตกเป็นเครื่องมือของผู้ที่กำลังก่อความรุนแรง โดยได้รับคำแนะนำจากผู้นำศาสนาอิสลาม จากพระคุณเจ้า และจากภาคประชาสังคม เพื่อเดินไปด้วยกัน โดยพี่น้องพุทธและมุสลิมมีความรักความสามัคคี อยู่ด้วยกันมาอย่างยาวนาน
พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า กล่าวว่า จากกรณีที่กลุ่มผู้ไม่หวังดี มีการปล่อยข่าวลือและข่าวลวงเป็นคลิปเสียงและข้อความเผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์ ที่ทำให้สังคมเชื่อว่ากลุ่มคนร้ายเตรียมการก่อเหตุในพื้นที่ สร้างความตื่นตระหนกหวาดกลัว ซึ่งได้มีการตรวจสอบข่าวดังกล่าว พบว่าเป็นข่าวลวง ที่มีเจตนาให้เกิดความวุ่นวาย และตื่นตระหนก ปัจจุบันอยู่ระหว่างการสืบค้นขยายผลไปยังตัวบุคคล ผู้ผลิต และปล่อยข่าวมาลงโทษตามกระบวนการทางกฎหมาย
โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ยังกล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุคนร้ายยิงพระสงฆ์ในพื้นที่ จ.นราธิวาส ได้มีการปรับเปลี่ยนมาตรการการรักษาความปลอดภัย พร้อมสำรวจชุมชนล่อแหลม เป้าหมายเชิงสัญลักษณ์ วัดทุกวัด ทุกสำนักสงฆ์ทั้ง 388 แห่ง ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ส่วนข่าวลือเรื่องงดบิณฑบาตก็ไม่เป็นเรื่องจริง พระทั้ง 388 วัด ยังคงออกบิณฑบาตเหมือนเดิมตามปกติ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ออกแถลงการณ์ระบุว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุมีความพยายามสร้างสถานการณ์เอื้อประโยชน์ต่อตนเอง และพยายามดึงเข้าสู่เงื่อนไขความขัดแย้ง อันจะทำให้สถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทยไปสู่สากล นำไปสู่การปฏิบัติการขององค์การระหว่างประเทศ ดังที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วในหลายพื้นที่และหลายประเทศ ด้วยการใช้การเสนอข่าวของสื่อมวลชนและสื่อโซเชียลเป็นเครื่องมือรัฐบาล และ คสช. ขอให้ทุกคนให้กำลังใจผู้อยู่ในพื้นที่เสี่ยงอันตราย และขอให้ประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ เคารพกฎระเบียบกติกาที่ฝ่ายความมั่นคงกำหนด โดยรัฐบาล และ คสช.ยังคงบังคับใช้กฎหมายและบริหารราชการแผ่นดินได้อย่างเต็มที่เช่นเดียวกับพื้นที่อื่นๆ ทั่วประเทศ.-สำนักข่าวไทย