พาณิชย์เตรียมพร้อมรับมือ Brexit

นนทบุรี 18 ม.ค. – พาณิชย์ประเมินสถานการณ์ทางการเมืองของสหราชอาณาจักรกรณีเสนอแผน Brexit ฉบับใหม่ต่อรัฐสภาอย่างใกล้ชิด เชื่อกระทบภาพรวมการค้าไทยไม่มาก และอาจใช้โอกาสนี้สร้างข้อได้เปรียบทางการค้าแก่ไทย เปิดเจรจาความตกลงการค้าเสรีกับสหราชอาณาจักร


นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศได้ติดตามสถานการณ์ทางการเมืองของสหราชอาณาจักรอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในส่วนที่จะส่งผลต่อความสัมพันธ์ระหว่างสหราชอาณาจักรกับสหภาพยุโรป (อียู) เนื่องจากจะมีผลต่อการค้ากับไทยต่างกันแต่ละกรณี โดยหลังจากนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร ชนะการลงมติไม่ไว้วางใจจากสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2562 และมีแผนที่จะเสนอแผน Brexit ฉบับใหม่ต่อรัฐสภาสหราชอาณาจักรวันที่ 21 มกราคมนี้ 

นางอรมน กล่าวว่า ขณะนี้ต้องรอดูว่าสถานการณ์ความสัมพันธ์ระหว่างสหราชอาณาจักรกับอียูจะเป็นไปในทิศทางใด โดยสหราชอาณาจักรอาจตัดสินใจออกจากอียูโดยไม่มีข้อตกลงใด ๆ หรือมีทางเลือกอื่น  เช่น การจัดการลงประชามติในเรื่อง Brexit ครั้งที่ 2 การยื่นขอเจรจาแก้ไขความตกลง Brexit กับอียู หรือการขอขยายเวลาการออกจากอียู จากกำหนดเดิมวันที่ 29 มีนาคม 2562 ออกไป ซึ่งจะต้องติดตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างใกล้ชิดต่อไป


นางอรมน กล่าวเพิ่มเติมว่า หากสถานการณ์ดังกล่าวมีความชัดเจนและทั้ง 2 ฝ่ายสามารถให้สัตยาบันต่อความตกลง Brexit ตามกรอบความสัมพันธ์ในอนาคตที่ได้ตกลงกันไว้เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2561  สหราชอาณาจักรจะมีเวลาปรับตัวและมีช่วงเวลาเปลี่ยนผ่าน 21 เดือน ตั้งแต่วันที่ 30 มีนาคม 2562 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2563 ก่อนออกจากอียูอย่างเต็มรูปแบบและจะช่วยลดความเสี่ยงของภาคธุรกิจตลอดห่วงโซ่การผลิตได้ในระดับหนึ่ง  

ทั้งนี้ ประเมินผลกระทบจาก Brexit ต่อไทย 3 ด้าน คือ ด้านภาพรวมการค้า Brexit น่าจะมีผลกระทบต่อภาพรวมการค้าไทยไม่มาก เนื่องจากในช่วงแรกกฎระเบียบของสหราชอาณาจักรต่อประเทศที่ 3 น่าจะยังยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเดิมเท่าไรนัก อย่างไรก็ตาม ภาคการส่งออกอาจได้รับผลกระทบเล็กน้อยจากความต้องการซื้อที่ลดลงของสหราชอาณาจักร เนื่องจากการอ่อนค่าลงของเงินปอนด์  ด้านสินค้า โดยเฉพาะสินค้าที่อียูมีการกำหนดโควตาภาษีกับไทยในปัจจุบัน เช่น สัตว์ปีกแช่เย็นและแช่แข็ง มันสำปะหลัง และข้าวนั้น เมื่อสหราชอาณาจักรออกจากอียูจะต้องมีการแบ่งโควตาภายใต้องค์การการค้าโลกระหว่างอียูกับสหราชอาณาจักร ไทยจึงต้องเร่งเจรจากับทั้งสองฝ่ายเพื่อไม่ให้สูญเสียส่วนแบ่งตลาดที่เคยได้ในตลาดทั้ง 2 อย่างไรก็ตาม การที่สหราชอาณาจักรจะออกจากอียูทำให้ต้องเร่งหาพันธมิตรทางการค้าใหม่ ๆ จึงเพิ่มโอกาสของไทยในการเจรจาความตกลงทางการค้าเสรี (เอฟทีเอ) กับสหราชอาณาจักร หากมีการเจรจาในเวลาที่เหมาะสม 

ด้านการลงทุน เป็นโอกาสดีที่จะชักชวนนักลงทุนสหราชอาณาจักรเข้ามาลงทุนในไทย โดยเฉพาะในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) และสาขาที่สหราชอาณาจักร มีความเชี่ยวชาญ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมใหม่ เช่น การบินและโลจิสติกส์ ยานยนต์สมัยใหม่ ดิจิทัล เป็นต้น เพื่อส่งเสริมและยกระดับมาตรฐานภาคอุตสาหกรรมของไทย และการใช้ไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตในภูมิภาค ทั้งนี้ สหราชอาณาจักรเป็นคู่ค้าลำดับที่ 18 ของไทย และอันดับที่ 2 จากอียู ปี 2560 มีมูลค่าการค้าประมาณ 7,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 1.53 ของการค้าทั้งหมดของไทย.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ป.ป.ส. รวบ 3 นักค้ายาเสพติดต่างชาติ ที่สนามบินสุวรรณภูมิ

ป.ป.ส. รวบนักค้ายาเสพติดต่างชาติ 3 ราย ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ส่งออกไปอิตาลี-อังกฤษ เลขาฯ ป.ป.ส. เผยความสำเร็จครั้งนี้เป็นผลจากการประสานงานใกล้ชิดระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ตรวจสอบตลาดปาล์มน้ำมัน หลังราคาพุ่ง

ช่วงนี้น้ำมันปาล์มตามท้องตลาดปรับราคาแพงขึ้น จากเดิมขวดละราว 10 บาท ทำให้ผู้บริโภคถึงกับโอดครวญ ขณะที่เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน ระบุแม้ช่วงนี้ราคาปาล์มน้ำมันขายได้ราคาดีที่สุดในรอบหลายปี แต่เกษตรกรกลับไม่มีปาล์มขาย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยอีสาน อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย-ใต้ตอนบน ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ เผยภาคใต้ตอนบน มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ส่วนประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อยในภาคอีสาน โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งในภาคตะวันออก และภาคกลางตอนล่าง

เดินหน้าเสนอ ครม. ตั้งคณะกรรมการร่วมไทย-กัมพูชา เจรจาพื้นที่ทับซ้อน

กระทรวงการต่างประเทศ เดินหน้าเสนอ ครม. ตั้งคณะกรรมการร่วมด้านเทคนิค JTC ไทย-กัมพูชา เจรจาพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลระหว่างไทยกับกัมพูชา ตามแนว MOU 2544 ยืนยันไม่ทำให้เสียเกาะกูด

เข้าสู่ฤดูหนาว

อุตุฯ ประกาศไทยเข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว

กรมอุตุฯ ประกาศการเข้าสู่ฤดูหนาวของประเทศไทย ปี 2567 ตั้งแต่วันที่ 3 พ.ย. โดยเป็นการเข้าสู่ฤดูหนาวช้ากว่าปกติประมาณ 2 สัปดาห์ เนื่องจากมีพายุก่อตัวในมหาสมุทรแปซิฟิกและเคลื่อนเข้าสู่ทะเลจีนใต้ และยังมีฝนบางพื้นที่ ปีนี้จะหนาวกว่าปีที่แล้ว