กรุงเทพฯ 18 ม.ค.- ตำรวจจราจร กวดขันวินัยจราจร หวังช่วยลดปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กในอากาศ งัด 3มาตรการเสริม เร่งระบายรถในพื้นที่แออัด , ห้ามรถบรรทุกเข้าพื้นที่ ,เร่งคืนพื้นผิวจราจร
พลตำรวจตรีจิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เป็นประธานปล่อยแถวเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร 88 สน.และ บก.จร.รวมกว่า 150 นาย เพื่อเร่งแก้ปัญหาจราจรและลดปริมาณฝุ่นละออง ขนาด pm 2.5 ในพื้นที่กทม.
พลตำรวจตรี จิรสันต์ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่จะเน้น 3 มาตรการในการช่วยลดปริมาณค่าฝุ่นละออง PM 2.5 โดยมาตรการแรก จะควบคุมรถ ควบคุมสัญญาณไฟ ในช่วงเวลาเร่งด่วน ช่วงเช้าและช่วงเย็น เพื่อไม่ให้รถติดขัดในพื้นที่แออัด เช่น โรงเรียน ตลาด สถานีรถไฟ
ส่วนมาตรการที่ 2 จะบังคับใช้กฎหมายตามข้อบังคับว่าด้วยการห้ามรถบรรทุกเดินรถในเขตกรุงเทพฯอย่างเคร่งครัด ทั้งรถบรรทุก 6 ล้อห้ามเดินรถระหว่าง 6:00 นถึง 9:00 และ 16 น. ถึง 20.00 น. รถบรรทุกสิบล้อห้ามเดินรถระหว่าง 6:00 นถึง 10:00 น.และเวลา 15.00 น ถึง 21:00 น.พร้อมขอความร่วมมือผู้ประกอบการรถบรรทุกหลีกเลี่ยง การนำรถเข้ามาในพื้นที่แออัด
ขณะเดียวกันจะเพิ่มการตั้งด่านตรวจควันดำเพิ่มเป็น 20 จุดจาก 12 จุดทั่วกรุงเทพฯ โดยจะใช้เครื่องตรวจแบบใหม่คือเครื่องตรวจวัดควันดำทึบแสง ที่ตรวจค่าควันดำไม่ให้เกินมาตรฐานร้อยละ 50 หากตรวจพบว่าเกินมาตรฐานจะบังคับใช้กฏหมายอย่างเคร่งครัด
ส่วนมาตรการที่ 3 คือการเร่งคืนพื้นผิวการจราจรให้ทุกสน. สำรวจพื้นที่ก่อสร้างพร้อมทั้งขอความร่วมมือผู้รับเหมาและเจ้าของโครงการให้คืนพื้นผิวจราจรทุกจุดที่ไม่มีความจำเป็น
ทั้งนี้ 2 วัน ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่สามารถตรวจจับรถที่มีควันดำ เกินมาตรฐาน 50% ได้ 1, 200 ราย ส่วนใหญ่เป็นรถบรรทุก จึงได้ทำสัญลักษณ์ห้ามวิ่ง 30 วัน และให้ปรับแก้ไข ไม่ให้ค่าฝุ่นละอองเกินมาตรฐาน
พล.ต.ต.จีรสันต์ ยังกล่าวถึง อุปกรณ์ในการตรวจวัดควันดำของตำรวจ โดยยืนยันว่ามีมาตรฐาน เพราะมีการเปรียบเทียบมาตรฐาน กับกรมควบคุมมลพิษทุกๆ 6 เดือน ขณะเดียวกันยังมีการอบรมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง กับการตรวจวัดโดยตลอดจึงขอให้ประชาชนมีความมั่นใจได้.-สำนักข่าวไทย