คาดเงินสะพัดช่วงเลือกตั้ง 50,000 ลบ.

กทม. 17 ม.ค.- เศรษฐกิจไทยกับการเลือกตั้ง แม้ว่าการกำหนดวันเลือกตั้งยังไม่ชัดเจนว่าจะเลือกตั้งเมื่อไหร่ แต่มีการคาดการณ์แล้วว่าจะมีเม็ดเงินสะพัดช่วงเลือกตั้ง ส.ส. สูงถึง 50,000 ล้านบาท จะผลักดันให้ GDP โตเพิ่มขึ้นจากเดิมได้อีก 0.3% และถ้ารวมเลือกตั้งท้องถิ่นอีก 30,000 ล้านบาท เข้าไปด้วยจะสูงถึง 80,000 ล้านบาท


ในงานสัมมนาใหญ่ประจำปี สมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ ในหัวข้อ “เศรษฐกิจไทยกับการเลือกตั้ง” รศ.ดร.เสาวณีย์ ไทยรุ่งโรจน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยปี 62 จะขยายตัว 4 – 4.2% โดยมี สมมติฐานสำคัญว่าปีนี้มีการเลือกตั้งระดับประเทศ และระดับท้องถิ่นที่จะเกิดขึ้นในช่วงครึ่งปีแรก ซึ่งจะส่งผลให้มีเงินสะพัดในช่วงการเลือกตั้งกว่า 80,000 ล้านบาท เนื่องจากผู้สมัครรับเลือกตั้งใช้จ่ายเงินในระหว่างการหาเสียง ทำให้การบริโภคระดับครัวเรือนขยายตัวทั่วทุกภูมิภาค โดยเฉพาะในระดับท้องถิ่น


โดยมี 10 ธุรกิจที่จะได้รับอานิสงส์จากการเลือกตั้งมากสุด คือ สาขาการพิมพ์และการโฆษณา คาดมีเงินหมุนเวียน 12,663 ล้านบาท สาขาการค้าส่ง ค้าปลีกสินค้า จำหน่ายรวมรถยนต์และรถจักรยานยนต์ 10,264  ล้านบาท การผลิตกระดาษ 10,264 ล้านบาท สาขาการผลิตกระดาษ 5,200 ล้านบาท ภัตตาคารและร้านอาหาร 4,407 ล้านบาท น้ำมันปิโตรเลียม 3,813 ล้านบาท การบริการทางด้านธุรกิจ เช่น การจัดตั้งเวทีหาเสียง รถหาเสียง 2,967 ล้านบาท โรงแรมและที่พัก 2,663 ล้านบาท การผลิตไฟฟ้า 1,876 ล้านบาท การผลิตรถยนต์ รถจักรยานยนต์ 1,586 ล้านบาท และธุรกิจอื่นๆ อีก 4,651 ล้านบาท

อ.เสาวณีย์ กล่าวว่า การเลือกตั้งจะเป็นปัจจัยบวกต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศในปีนี้ เนื่องจากหากนักลงทุนและประชาชนมีความมั่นใจว่ามีการเลือกตั้ง จะทำให้เกิดความเชื่อมั่นในการลงทุน ตลอดจนการจับจ่ายใช้สอย เลือกตั้งเงินสะพัด 80,000 ล้านบาท นอกจากนี้ ต้องติดตามต่อไปด้วยว่าภายหลังการเลือกตั้งแล้วได้รัฐบาลชุดใหม่ที่เป็นที่ยอมรับจากทุกภาคส่วน ก็ยิ่งจะทำให้เกิดความเชื่อมั่นต่อมากขึ้น และมีโอกาสทำให้เศรษฐกิจไทยปีนี้ขยายตัวได้มากกว่า 4.2%   


ด้านนายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย ว่านักลงทุนรอดูความชัดเจนในเรื่องของการเลือกตั้งว่าจะได้รัฐบาลใดเข้ามาบริหารประเทศ และจะดำเนินนโยบายต่อเนื่องจากรัฐบาลชุดนี้หรือไม่ ดังนั้นการเลือกตั้งในรอบนี้ถือว่ามีความสำคัญอย่างมาก ที่ผ่านมารัฐบาลชุดนี้พยายามบอกกับนักลงทุนว่า ประเทศไทยมียุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี มี พ.ร.บ.อีอีซี และอื่นๆ ที่จะผูกมัดรัฐบาลที่จะเข้ามาใหม่ให้ไม่สามารถล้มเลิกโครงการได้ แต่นักลงทุนระยะยาวที่จะเข้ามาลงทุนก็อยากเห็นความชัดเจนมากกว่านี้ ทำให้อาจจะมีการชะลอการลงทุน ส่วนทิศทางตลาดหุ้นไทย ถ้ามีการเลือกตั้งดัชนีหุ้นไทยปีนี้มีโอกาสใกล้ 1,800 จุด ซึ่งโพลของสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน มองไว้ 1,782 จุด

ด้านนายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคออก เชื่อว่าแม้จะมีการเปลี่ยนรัฐบาล ก็จะไม่ส่งผลกระทบต่อการลงทุน EEC เนื่องจาก EEC ถือเป็นโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ และเป็นตัวที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจในอนาคต ซึ่งจะส่งผลต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจไทยเพิ่มขึ้นอีก 2% จึงเชื่อว่าไม่ว่าจะมีรัฐบาลไหนเข้ามาก็จะเข้ามาดำเนินการโครงการ EEC อย่างต่อเนื่อง

แต่ที่ชัดเจนตอนนี้ คือ เบรกขึ้นค่ารถเมล์ เพราะกลัวซ้ำเติมและเป็นภาระให้ประชาชน นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม เรียกประชุมคณะกรรมการควบคุมขนส่งทางบกกลางนัดพิเศษ มีมติชะลอการปรับขึ้นค่าโดยสารรถเมล์ ขสมก. 1 – 2 บาท ซึ่งจะมีผลวันจันทร์นี้(21ม.ค.) ออกไปก่อน หลังที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจที่มีนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน สั่งให้ชะลอเพื่อไม่ให้ผู้โดยสารได้รับความเดือดร้อน มติเดิม รถเมล์ร้อนจะปรับขึ้น 1.50 บาท เป็น 8 บาท (ปัจจุบัน 6.50 บาท) ตั้งแต่วันที่ 21 มกราคมนี้ ถึง 20  มกราคมปีหน้า(2563) จากนั้นจะปรับขึ้นอีก 2 บาท เป็น 10 บาท ตอนนี้ชะลอไปก่อน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทีมกู้ภัยเดินหน้าค้นหาผู้สูญหายแผ่นดินไหวเมียนมา

ทีมกู้ภัยยังเดินหน้าค้นหาผู้สูญหายจากเหตุแผ่นดินไหวในเมียนมา แม้จะผ่านมา 4 วันแล้ว จนกลิ่นศพเริ่มคละคลุ้งไปทั่ว ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตใกล้แตะหลัก 3,000 ราย

ตึกถล่มพบเสียชีวิตเพิ่ม

พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 5 ราย ทีมกู้ภัยเร่งกู้ร่าง

พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 5 ราย ในพื้นที่โซน B และโซน C มีซากอาคารถล่มทับร่างอยู่ ทีมกู้ภัยเร่งกู้ร่างและค้นหาผู้สูญหายใต้ซากอาคารต่อเนื่อง

ข่าวแนะนำ

ตึกถล่ม

ปูพรมค้นหาทุกจุด ตึก สตง.ถล่ม

ปฏิบัติการปูพรมทุกจุด ค้นหาผู้สูญหายตึก สตง.ถล่ม ได้กลิ่นค่อนข้างแรง พบลักษณะคล้ายน้ำเหลืองและคราบเลือดในโซน B แต่ก็ยังไม่สามารถทลายปูนและตัดเหล็กเข้าไปได้

ไทยตอนบนอากาศร้อนและร้อนจัดบางพื้น มีฝนฟ้าคะนอง

กรมอุตุฯ รายงานไทยตอนบนอากาศร้อน และร้อนจัดบางพื้นที่บริเวณภาคเหนือและภาคกลาง ฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนอง

“อนุทิน” เผยยังไม่สรุปสาเหตุตึก สตง.ถล่ม ต้องรอตรวจสอบเชิงลึก

“อนุทิน” ระบุยังไม่สรุปสาเหตุตึก สตง. ถล่ม บอกต้องรอตรวจสอบเชิงลึก ชี้สภาพหน้างานตอนนี้ยังเก็บหลักฐานไม่ได้ อยู่ระหว่างกู้ภัย คาดใช้เวลาอีกเป็นเดือน

คุมตัวผัวเมียชิงทอง 8 บาท ย่านบางพลี ทำแผนฯ

ตำรวจคุมตัวสามีภรรยา ชี้จุดทำแผนประกอบคำรับสารภาพ หลังร่วมกันก่อเหตุชิงทอง 8 บาท ร้านทองย่านบางพลี จ.สมุทรปราการ อ้างต้องการเงินไปเป็นเจ้าภาพงานบุญผ้าป่า หลังสัญญากับทางวัดไว้