กรุงเทพฯ 16 ม.ค. – “กฤษฎา” สั่งกรมฝนหลวงฯ หาแนวทางให้ฝนตกกระจายลงสู่พื้นที่เพิ่มเติมมากกว่าเมื่อวานนี้ เพื่อลดมลพิษจากฝุ่นละอองขนาดเล็กที่ยังมีปริมาณสูงในหลายเขต เช้านี้เครื่องบินบินขึ้นปฏิบัติการแล้ว เพิ่มแนวสร้างการก่อตัวของเมฆ เพื่อให้ฝนตกครอบคลุมทั้งฝั่งตะวันออกและตะวันตกของกรุงเทพฯ
นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีชื่นชมการปฏัติการของกรมฝนหลวงและการบินเกษตรที่สามารถทำให้ฝนตกลงมาบรรเทามลพิษฝุ่นละอองขนาดเล็กที่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพของชาวกรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งสร้างขวัญและกำลังใจแก่ผู้ปฏิบัติงานอย่างมาก ทั้งนี้ ได้สั่งการให้นายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงฯ หาแนวทางปฏิบัติการทำให้ฝนตกครอบคลุมพื้นที่มากขึ้น เนื่องจากผลการตรวจวัดปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กหลายเขตยังสูง
ด้านนายสุรสีห์ กล่าวว่า ศูนย์อำนวยการที่กรมฝนหลวงฯ ได้ประชุมผ่านระบบ VDO Conference กับศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคตะวันออก จังหวัดระยอง หลังตรวจสภาพอากาศในช่วงเช้า ซึ่งความชื้นสัมพัทธ์อยู่ที่ประมาณร้อยละ 70 ใกล้เคียงกับเมื่อวาน แต่ค่าการยกตัวของเมฆน้อยกว่า ทำให้การก่อตัวของเมฆยากขึ้น จึงสั่งการให้วางแกนสร้างแนวก่อตัวของเมฆจาก 1 แนว เป็น 2 แนว โดยแนวแรกวางจากอำเภอบางปะกงถึงอำเภอเมืองฉะเชิงเทรา ส่วนแนวที่ 2 วางจากอำเภอบางน้ำเปรี้ยว จังหวัดฉะเชิงเทรา ถึงอำเภอองครักษ์ จังหวัดนครนายก ซึ่งแนวที่ 2 นี้ใกล้กรุงเทพฯ มากขึ้น ขณะที่กระแสลมยังเป็นลมตะวันออก ความเร็ว 22 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ที่วางแนวการก่อตัวของเมฆเช่นนี้ คาดหวังให้ฝนจากที่เมื่อวานนี้ตกในฝั่งตะวันออกของกรุงเทพฯ ได้แล้ว เมฆจะสามารถลอยตัวไปถึงฝั่งตะวันตกหรือฝั่งธนบุรีได้ เพราะได้รับรายงานจากกรมควบคุมมลพิษว่าฝั่งธนบุรียังมีพื้นที่ที่มีปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กสูง
ทั้งนี้ เครื่องบิน CASA 2 ลำได้นำสารฝนหลวงขึ้นไปโปรยสร้างแกน เพื่อให้เมฆก่อตัวตั้งแต่เวลา 10.30 น.จากนั้นในช่วงบ่ายจะขึ้นบินเพื่อปฏิบัติในขั้นการเลี้ยงให้อ้วน คือ ทำให้เมฆขยายใหญ่ขึ้น หากทำให้ฝนตกกระจายสู่พื้นที่กรุงเทพฯ มากขึ้นกว่าวานนี้จะช่วยลดผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนได้มาก.-สำนักข่าวไทย