ฝุ่นละอองเกินครึ่งมาจากรถยนต์เก่าหรือรถใช้น้ำมันดีเซล

กทม. 15 ม.ค.-ข้อมูลจากกรมควบคุมมลพิษ พบว่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ปัจจุบัน เกินครึ่งมีแหล่งกำเนิดสำคัญมาจากรถยนต์เก่า หรือรถที่ใช้น้ำมันดีเซลที่มีระบบการเผาไหม้ไม่สมบูรณ์ ทีมข่าวพาไปดูศูนย์ปฏิบัติการที่ตรวจสอบค่ามลพิษที่ออกมาจากเครื่องยนต์ในหลายรุ่นหลายแบบ โดยรถที่มีค่ามลพิษสูงเกินมาตรฐานจะมีโทษทั้งปรับและให้นำรถไปปรับปรุง


ห้องปฏิบัติการตรวจวัดมลพิษจากยานพาหนะ กรมควบคุมมลพิษ ที่ จ.ปทุมธานี ทดสอบมลพิษจากรถยนต์เครื่องยนต์ดีเซล บนแท่นทดสอบ ที่จำลองสภาพจริงบนท้องถนน ทั้งขณะรถแล่นในความเร็วสูงสุด 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และขณะรถติด พบว่าในรถเครื่องยนต์ดีเซลที่เป็นรถรุ่นเก่ามีโอกาสก่อให้เกิดควันดำมากกว่ารถรุ่นใหม่ เมื่อนำไอเสียมาวิเคราะห์ความเข้มข้นของมลพิษ พบ 4 สารพิษหลัก เช่น คาร์บอนมอนนอกไซด์ และกลุ่มฝุ่นละออง และยังพบว่าขณะรถติด จอดนิ่ง จะมีปริมาณค่ามลพิษและฝุ่นละอองสูงกว่ารถที่แล่นอยู่

เจ้าหน้าที่ให้ข้อมูลว่าเครื่องยนต์ที่มีการเผาไหม้เชื้อเพลิงทุกประเภทก่อมลพิษต่างกัน รถรุ่นเก่าที่ใช้ดีเซลมักมีการเผาไหม้ไม่สมบูรณ์ เกิดควันดำ มีค่าฝุ่นละออง PM2.5 ปริมาณมากกว่าปกติ โดยพบรถยนต์เบนซินมีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กในปริมาณที่น้อยกว่า และขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น สภาพรถ การดูแลรักษา สภาพการจราจร


ฝุ่นละอองในอากาศที่เป็นที่กังวลในปัจจุบัน หากเกิดจากกิจกรรมการก่อสร้าง ค่าฝุ่นละอองจะมีขนาดใหญ่ หรือ PM10 หากเกิดจากการเผาไหม้ของเชื้อเพลิงจะทำให้เกิดค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ PM2.5 โดยค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กที่สุดที่พบในไอเสียรถ คือขนาด 0.056 ไมครอน

องค์การอนามัยโลก หรือ WHO กำหนดว่า ถ้าค่าเฉลี่ยทั้งปีมีฝุ่น PM2.5 เกิน 25 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ก็ถือว่าอันตรายแล้ว ส่วนในไทยกลับกำหนดไว้ว่าถ้าค่าเฉลี่ยทั้งปีมีฝุ่นเกิน 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร จึงจะถือว่าเป็นอันตรายต่อชีวิตคน

ข้อมูลจากกรมการขนส่งทางบก มีรถยนต์ที่จดทะเบียนในกรุงเทพฯ 10.2 ล้านกว่าคัน ในจำนวนนี้เป็นรถที่ใช้เชื้อเพลิงดีเซล 2.6 ล้านกว่าคัน กองบังคับการตำรวจจราจร กทม. และกรมควบคุมมลพิษ ตั้งด่านตรวจจับ ห้ามใช้รถยนต์ควันดำ โดยรถที่มีค่าเกินมาตรฐานจะถูกคำสั่งห้ามใช้ชั่วคราว และต้องนำรถไปแก้ไข ก่อนนำกลับมาให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบใน 30 วัน ฝ่าฝืนมีคำสั่งห้ามใช้ยานพาหนะ และปรับไม่เกิน 5,000 บาท โดยเจ้าหน้าที่จัดตั้งด่านตรวจจับควันดำยานพาหนะในหลายพื้นที่ในกรุงเทพฯ ในช่วงนี้ เพื่อช่วยลดมลพิษฝุ่นจิ๋วที่มีในปัจจุบัน.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 เข้าพบนายกฯ

“โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 เข้าพบ “แพทองธาร” นายกฯ ชื่นชมเป็นคนเก่ง-มองโลกบวก เป็นหน้าตาของประเทศ นำเสนอวัฒนธรรม-ซอฟต์พาวเวอร์ ผ่านการประกวด พร้อมชวนร่วมงานรัฐบาล สร้างแรงบันดาลใจเด็กๆ ขณะที่ นายกฯ เขินถูกชมว่าตัวจริงสวย

ล้มล้างการปกครอง

ศาล รธน.มีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้อง “ทักษิณ-พท.” ล้มล้างการปกครอง

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ขอให้ศาลวินิจฉัยว่า “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ล้มล้างการปกครอง

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่