กองปราบรับมอบตัว”สามีโหด”ทำร้าย”ภรรยา”ดับใน จ.สตูลหลังหนีไปตั้งหลัก

กองปราบ 14 ม.ค.- กองปราบรับมอบตัว”สามีโหด”ทำร้ายภรรยาเสียชีวิตในพื้นที่ จ.สตูล เหตุเพราะหึงหวง ก่อนหลบหนีไปตั้งหลักและติดต่อเข้ามอบตัวบ่ายวันนี้


พ.ต.อ.กฤษณะ  พัฒนเจริญ  รอง โฆษก ตร. เปิดเผยถึงความคืบหน้า กรณีคนร้ายชายก่อเหตุทำร้ายร่างกายร่างกายภรรยาแล้วเสียชีวิตในเวลาต่อมา เมื่อวันที่ 10 ม.ค.2562 ที่ผ่านมา ในพื้นที่ สภ.เมืองสตูล  ว่าได้รับรายงานเพิ่มเติมจาก สภ.เมืองสตูล  ว่า  ในวันนี้ (14 ม.ค.2562) เวลาประมาณ 15.00 น. พ.ต.อ.พชรพล ณ นคร  รรท.ผกก.สภ.เมืองสตูล และ พ.ต.อ.สมพงษ์  สุวรรณวงศ์ ผกก.6 บก.ป.  พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องได้รับมอบตัวนายธนภัทร    สงวนเขียว  อายุ 28 ปี  ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดสตูล ในข้อหา มิได้มีเจตนาฆ่า แต่ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตาย  ในพื้นที่ อ.ทุ่งหว้า  จว.สตูล   จากนั้นได้นำตัวนายธนภัทรฯ ส่งพนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป  

เบื้องต้นนั้น แพทย์ รพ.สตูล ได้ให้ความเห็นว่าผู้ตายถูกทำร้ายชกต่อยจนฟกช้ำบริเวณใบหน้า และพบรอยฟกซ้ำบริเวณลำคอ อีกทั้งพนักงานสอบสวนได้นำศพส่งไปตรวจชันสูตรที่ รพ.มอ.สงขลา  เพื่อหาสาเหตุการตายโดยละเอียดอีกครั้ง


รอง โฆษก ตร. กล่าวต่ออีกว่า  คดีนี้คืบหน้าไปมาก พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง รอผลการชันสูตรพลิกศพโดยละเอียดอีกครั้ง ผลการตรวจที่เกี่ยวข้อง  โดยขณะนี้พนักงานสอบสวนสามารถนำตัวผู้ต้องหาที่ก่อเหตุมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมได้แล้ว   จากนั้นก็จะสรุปความเห็นทางคดีและดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

ทั้งนี้ ตนได้รายงานให้ พล.ต.อ.จักรทิพย์   ชัยจินดา  ผบ.ตร. รับทราบแล้ว  ท่านได้กล่าวชื่นชมเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องทุกนายในการรวบรวมพยานหลักฐาน จนสามารถขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ต้องหาได้ทันที รวมถึงสามารถติดตามนำตัวผู้ต้องหาที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายได้รวดเร็ว   พร้อมกันนี้ยังได้กำชับ ให้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนในทุกคดี ด้วยความถูกต้อง รวดเร็ว เป็นธรรม ตามหลักกฎหมาย อาศัยพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์หรือพยานหลักฐานที่ชี้ถึงตัวผู้กระทำความผิดเป็นสำคัญ และต้องสามารถนำผู้ก่อเหตุมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมให้ได้โดยเร็ว เพื่อเยียวยาความเสียหาย และสร้างความเชื่อมั่นให้กับพี่น้องประชาชนและสังคม.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย