เร่งสร้างถนนยางพารา ก.พ.นี้ทั่วประเทศ

กรุงเทพฯ 11 ม.ค. –  ก.เกษตรฯ เดินหน้าโครงการถนนยางพารา เร่งสร้าง 80,000 หมู่บ้าน พร้อมกันทั่วประเทศ ก.พ.นี้ หลัง อปท.เปิดสมัยประชุมสภาท้องถิ่นเพื่ออนุมัติงบประมาณก่อสร้าง คาดจะผลักดันราคายางพาราสูงขึ้นไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 50 บาท  


นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า การจัดประชุมหารือการดำเนินโครงการ 1 หมู่บ้าน 1 กิโลเมตรครั้งนี้ได้เชิญผู้แทนจากองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.)  77 จังหวัด มารับทราบแบบ สูตรก่อสร้าง ราคากลาง การใช้งบประมาณในการสร้างถนนดินซีเมนต์ปรับปรุงคุณภาพด้วยยางพารา คาดว่าจะดำเนินก่อสร้างได้อย่างรวดเร็วพร้อมกันทั่วประเทศต้นเดือนกุมภาพันธ์ เนื่องจากผู้บริหาร อบจ.ต้องเสนอสภา อบจ.อนุมัติงบประมาณ ซึ่งสภา อบจ.ส่วนใหญ่เกือบทั้งประเทศจะเปิดสมัยประชุมเดือนกุมภาพันธ์นี้ ส่วนระยะทางที่จะก่อสร้างไม่จำเป็นต้องสร้างเพียง 1 กิโลเมตรต่อ 1  หมู่บ้าน/ชุมชน สามารถสร้างได้ตามงบประมาณที่มีและความจำเป็นในการปรับปรุงถนน ซึ่งเป็นหน้าที่ของ อบจ. อยู่แล้ว  

ดังนั้น โครงการนี้นอกจากจะทำให้ได้ถนนในหมู่บ้านหรือระหว่างชุมชนมีคุณภาพดีกว่าถนนลูกรังที่ทำกันอยู่เดิม ซึ่งในช่วงหน้าแล้งผิวจราจรแห้งทำให้ฝุ่นคลุ้ง แต่เมื่อนำน้ำยางพาราสดกับปูนซีเมนต์ผสมเข้าไป แล้วบดอัด ทำให้ลดฝุ่น รวมทั้งยังมีความยืดหยุ่นและความทนทานกว่า จึงเป็นโครงการที่เหมือนยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว คือ ได้ถนนที่มีคุณภาพใช้สัญจรและขนส่งสินค้าการเกษตร และช่วยเกษตรกรชาวสวนยาง เนื่องจากหากสร้างถนนดินซีเมนต์ปรับปรุงคุณภาพด้วยยางพาราทั่วประเทศ ซึ่งจะมีระยะทางรวมอย่างน้อย 75,032 กิโลเมตร ใช้น้ำยางสดปริมาณกว่า 1.4 ล้านตัน หรือคิดเป็นน้ำยางข้นประมาณ 72,000 ตัน คิดเป็นมูลค่าน้ำยางสดกว่า 16,000 ล้านบาท ขณะนี้ราคาน้ำยางสดปรับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจากกิโลกรัมละ 33 บาท เป็น 39 บาทแล้ว หากมีการใช้ในประเทศจำนวนมาก คาดว่าจะยกระดับราคายางอยู่ที่ระดับไม่ต่ำกว่า 50 บาทต่อกิโลกรัม


นอกจากนี้ กระทรวงเกษตรฯ ยังเร่งส่งเสริมสถาบันเกษตรกรให้มีบทบาทรักษาเสถียรภาพราคายางพารา โดย ครม. อนุมัติวงเงินสินเชื่อ 5,000 ล้านบาท ซึ่งธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) คิดดอกเบี้ยร้อยละ 4 ต่อปี ส่วนสหกรณ์รับภาระดอกเบี้ยเพียงร้อยละ0.01 ต่อปี เพื่อสนับสนุนให้สหกรณ์การเกษตรแปรรูปยางสำหรับส่งออก รับผิดชอบโดยกรมส่งเสริมสหกรณ์ซึ่งคัดเลือกมา 18 สหกรณ์ มี 6 สหกรณ์ที่มีศักยภาพสูงทั้งรวบรวมผลผลิตยาง แปรรูป และส่งออกได้เอง ส่วนอีก 12 สหกรณ์สามารถรวบรวมน้ำยางและแปรรูปได้ แล้วส่งให้ภาคเอกชนส่งออก ซึ่งเป็นการเพิ่มช่องทางการจำหน่ายยางพาราไปยังต่างประเทศ 

นายกฤษฎา กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ทาง กยท.กำลังจะเสนอให้คณะกรรมการ กยท.เห็นชอบการใช้แผ่นปูพื้นแบบต่าง ๆ เพื่อทำสนามฟุตซอล ลานกีฬา และทางเท้า สัปดาห์หน้า หากบอร์ด กยท.เห็นชอบจะเร่งประชาสัมพันธ์ให้หน่วยงานภาครัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โรงเรียนนำผลิตภัณฑ์เหล่านี้ซึ่งผ่านการรับรองจากสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมหรือ มอก.แล้วไปจัดสร้าง โดยหน่วยงานที่ต้องการใช้สามารถจัดซื้อจัดจ้างได้ทันที นอกจากนี้ กำลังศึกษาแนวทางการใช้ยางพาราขึ้นรูปเป็นแผ่นรองทางรถไฟ ทดแทนของเดิมที่ใช้อยู่ ซึ่งทำจากพลาสติก แม้พลาสติกจะถูกกว่า แต่ยางพารามีความยืดหยุ่นและคงทนกว่า ทำให้การเดินรถระบบรางมีความสะดวกสบายสำหรับผู้โดยสารมากขึ้น คาดว่าจะใช้เวลาศึกษาประมาณ 1 – 2 เดือน หากมีความเหมาะสมจะนำเสนอรัฐบาลกำหนดให้เป็นมาตรฐานว่าจากนี้ไปแผ่นรองรางรถไฟที่จะจัดหามาใหม่หรือทดแทนของเดิมผู้รับว่าจ้างต้องใช้ผลิตภัณฑ์จากยางพารา 

“กระทรวงเกษตรฯ จะเร่งดำเนินการมาตรการใช้ยางพาราภาครัฐทั้งหมดนี้โดยเร็วที่สุด เพื่อยกระดับราคายางพารา ทำให้ชาวสวนยางมีรายได้มากขึ้นและมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น” นายกฤษฎา กล่าว


ทางด้านนายธเนศ สุขโต ผู้จัดการแผนกวิจัยและพัฒนา (อาร์แอนด์ดี) บริษัท ไอ อาร์ ซี (เอเซีย) รีเสิร์ช เปิดเผยว่า บริษัทพัฒนานวัตกรรมเพื่อเพิ่มมูลค่ายางธรรมชาติสู่ผลิตภัณฑ์ “แผ่นรองรางรถไฟ” เพื่อรองรับโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งจะช่วยเพิ่มมูลค่าให้แก่ยางพาราไทย และสามารถชดเชยการนำเข้าผลิตภัณฑ์จากต่างประเทศได้ เพราะมีคุณสมบัติการใช้งาน รวมถึงราคาใกล้เคียงกัน และได้รับมาตรฐาน มอก.2667-2558  สามารถนำมาใช้ในงานเกี่ยวกับการซ่อมแซมรางรถไฟ หรือการเปลี่ยนยางเก่าที่เสื่อมสภาพได้ โดยกลุ่มลูกค้าเป้าหมายจะเป็นทั้งการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) 

สำหรับการพัฒนางานวิจัยแผ่นรองรางรถไฟได้ร่วมมือกับนักวิจัยในประเทศ ทั้งศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ หรือเอ็มเทค (MTEC) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) เชื่อมั่นว่ามีโอกาสจะพัฒนาและขยายตลาดในประเทศได้อย่างดี แผ่นรองรางรถไฟมีรูปแบบเป็นแผ่นสี่เหลี่ยมหน้าประมาณ 2-12 มิลลิเมตร ความยาวประมาณ 18 เซนติเมตร และความกว้างประมาณ 10 เซนติเมตร โดยต้นแบบผลิตภัณฑ์ที่พัฒนาได้ มีน้ำหนักประมาณ 175 กรัม/ชิ้น

ทั้งนี้ มีการประเมินว่าความต้องการใช้แผ่นยางรองรางรถไฟจากยางพาราในระบบราง ซึ่งในระยะทาง 1 กิโลเมตร คาดว่าจะใช้แผ่นยางรองรางรถไฟประมาณ 3,300 ชิ้น และจะมีปริมาณการใช้ยาง ประมาณ 290 กิโลกรัม ปัจจุบันระบบรางระยะทางประมาณ 4,300 กิโลเมตร จึงจะมีปริมาณการใช้ยางพาราประมาณ 1,200 ตัน โดยอนาคตหากมีการขยายระบบรางในระยะทางประมาณ 8,400 กิโลเมตร จึงจะมีปริมาณการใช้ยางพาราประมาณ 2,400 ตัน ซึ่งจะเพิ่มปริมาณการใช้ยางพาราภายในประเทศได้อย่างมาก.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เก๋งซิ่งแหกโค้งชนเสาเหล็ก ไฟลุกไหม้คลอกคนขับดับสลด

ลพบุรี 6 มิ.ย. – เก๋งหรูซิ่งเสียงดังลั่น หมุนโชว์กลางสี่แยก ก่อนแหกโค้งชนเสาเหล็กป้ายข้างทางไฟลุกไหม้เสียหายทั้งคัน คลอกคนขับดับสลด เมื่อเวลา 03.30 น.ที่ผ่านมา ร.ต.ท.ชาตรี ทรัพย์นิยมพงศ์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองลพบุรี รับแจ้งรถเก๋งชนเสาข้างถนน ไฟลุกไหม้ทั้งคัน บนถนนทางเข้าบ้านหนองน้ำทิพย์ หมู่ 7 ต.เขาพระงาม อ.เมืองลพบุรี พร้อมแจ้งรถน้ำดับเพลิงป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลตำบลเขาพระงาม รุดไปดับไฟ และเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบ จุดเกิดเหตุพบไฟกำลังลุกไหม้โหมทั่วไปทั้งคันรถ สังเกตดูเบื้องต้นคนขับติดอยู่ที่เบาะนั่งสภาพหมดสติ เจ้าหน้าที่เร่งระดมฉีดน้ำใช้เวลาประมาณ 15 นาที เพลิงสงบ จากการตรวจสอบด้านซ้ายรถชนอัดอยู่กับเสาเหล็กป้ายบอกทาง สภาพเหลือแต่ซาก เบื้องต้นพบเป็นรถเก๋งยี่ห้อยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยู ไม่ทราบสี-ทะเบียน ถูกไฟไหม้ เหลืออยู่ครึ่งป้าย ภายในรถพบร่างชายถูกไฟไหม้เกรียม ยังไม่ทราบชื่อว่าเป็นใครมาจากไหน สอบถามนางเล็ก ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองนั่งเฝ้าเครื่องสูบน้ำใกล้จุดเกิดเหตุ ได้ยินเสียงรถเก๋งคันดังกล่าวขับซิ่งมาจากแยกเขาพระงาม มุ่งหน้าไปทางโคกสำโรง เสียงท่ออย่างดังลั่น พอมาถึงสามแยกบ้านหนองน้ำทิพย์ ได้หมุนโชว์กลางแยก 1 รอบ จากนั้นขับไปยูเทิร์นกลับมาอีกรอบ เลี้ยวเข้าทางแยกหนองน้ำทิพย์ได้ประมาณ 300 เมตร […]

ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงิน 12 ล้าน วางทิ้งข้างถังขยะ

นนทบุรี 6 มิ.ย. – ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงินสด 12 ล้าน ในกล่องพลาสติก วางทิ้งข้างถังขยะคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จากกรณีพลเมืองดีพบธนบัตรไทยจำนวนมาก ถูกซุกซ่อนอยู่ภายในกล่องพลาสติก บริเวณคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จ.นนทบุรี เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบเอกสารเกี่ยวกับหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายและซองจดหมาย ปรากฏชื่อบุคคลและหน่วยงานรัฐในเอกสาร จึงได้ยึดธนบัตรดังกล่าวมาที่ สภ.ปากเกร็ด เพื่อพิสูจน์ว่าเป็นเงินอะไร ได้มาถูกต้องหรือไม่ และใครเป็นเจ้าของที่แท้จริง เบื้องต้นพบเป็นเงินสดจำนวน 12 ล้านบาท และเมื่อเจ้าหน้าที่นำสายรัดของธนบัตรดังกล่าวไปตรวจสอบ พบว่ามีการจ่ายเงินออกมาจำนวนดังกล่าวตั้งแต่ปี 2563    พลเมืองดีเล่าว่า เวลาประมาณ 20.00 น. ของเมื่อวานนี้ (5 มิ.ย.) ตนและเพื่อนเดินไปลิฟต์ที่ชั้น 4 ซึ่งข้างลิฟต์เป็นที่ทิ้งขยะ เห็นกล่องสภาพดีวางอยู่ ก็จะเก็บไปใช้ ซึ่งกล่องถูกเปิดแง้มเอาไว้และมีเสื้อผ้าวางทับด้านบน จึงเปิดดูพบเงินสดฉบับละ 1,000 บาท เป็นมัดๆ จำนวนมาก จึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบ ความคืบหน้าในการติดตามหาตัวคนที่นำกล่องเงินมาทิ้ง ตำรวจสืบสวน สภ.ปากเกร็ด ได้ลงพื้นที่ไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณจุดที่พบเพื่อหาเบาะแสคนที่นำกล่องพลาสติกมาทิ้ง เบื้องต้นยังไม่พบผู้ต้องสงสัย นอกจากนี้ยังได้พยายามติดต่อกับ นายทวีวัฒน์ […]

น้ำมันรั่วลงทะเล

สั่งเจ้าท่าระงับเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar

ชลบุรี 6 มิ.ย.- “มนพร” สั่งการกรมเจ้าท่าตั้งศูนย์ประสานงานแก้ไขปัญหาและควบคุมสถานการณ์น้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar บริเวณท่าเรือบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ศรีราชา จังหวัดชลบุรี นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม สั่งการให้ นายกริชเพชร ชัยช่วย อธิบดีกรมเจ้าท่า ดำเนินการจัดตั้งศูนย์ประสานงานป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน เพื่อ ระงับเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar ซึ่งเป็นเรือบรรทุกน้ำมันดิบสัญชาติสิงคโปร์ หมายเลข IMO 9828962 โดยเหตุเกิดบริเวณทุ่นรับน้ำมันกลางทะเล (SBM2) ของบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ในเขตพื้นที่ศรีราชา จังหวัดชลบุรี เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลา 00.54 น. โดยมีสาเหตุมาจากท่อส่งน้ำมันที่ชำรุด ส่งผลให้น้ำมันดิบรั่วไหลลงสู่ทะเลในปริมาณประมาณ 20 คิว หรือราว 20 ตัน กรมเจ้าท่าได้ดำเนินการประเมินสถานการณ์โดยเร่งดำเนินการจัดตั้งศูนย์ประสานงานฯ ณ โรงกลั่นน้ำมันของบริษัทไทยออยล์ จังหวัดชลบุรี เพื่อเป็นศูนย์กลางในการควบคุมเหตุการณ์ ทั้งนี้กรมเจ้าท่าในฐานะเลขานุการศูนย์ประสานงาน ได้ประสานกองทัพเรือจัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ในการขจัดคราบน้ำมัน จากการสำรวจพื้นที่ พบว่าลักษณะของคราบน้ำมันเป็นคราบสีดำหรือน้ำตาลบาง ๆ […]

นักศึกษาเจอคอลเซ็นเตอร์ปั่นหัวถือมีดบุกโรงพัก

เชียงใหม่ 5 มิ.ย. – แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกนักศึกษาเชียงใหม่ สูญกว่า 2 ล้านบาท พ่อแม่เครียดหมดเนื้อหมดตัว บางรายถูกปั่นหัวให้ถือมีดบุกโรงพักเย้ยตำรวจ พบเฉพาะ สภ.ภูพิงค์ฯ มีเหยื่อโดนหลอกลักษณะนี้แล้วกว่า 300 ราย กล้องวงจรปิดบันทึกภาพนักศึกษาสาว ชั้นปีที่ 4 ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดภายใน สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ จากนั้นเดินไปเข็นวีลแชร์ที่อยู่ตรงหัวมุมอาคาร แล้วก็เข็นไปเข็นมาอยู่อย่างนั้น ก่อนจะถือมีดไปที่บริเวณห้องรับแจ้งความ และอ้างว่า จะมาขอพบตำรวจนายหนึ่ง แต่ไม่มีชื่อนี้อยู่ที่โรงพัก จึงขอพบ พันตำรวจเอก มนัสชัย อินทร์เถื่อน ผู้กำกับ สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ เพราะไปฆ่าคนตายมา ขณะนั้น ตำรวจสืบสวนสังเกตเห็นว่า นักศึกษาสาวมีท่าทางหวาดระแวงใส่หูฟังเหมือนกับทำตามคำสั่งใครสักคนที่สั่งการจากปลายสาย ด้านตำรวจจึงชวนพูดคุยสอบถามสักพัก จนยอมวางมีดลง จากนั้น ตำรวจจึงขอให้ดึงหูฟังออก ปรากฏว่า นักศึกษาสาวกลับได้สติขึ้นมาว่า ชายที่สั่งการทางโทรศัพท์ไม่ใช่ตำรวจจริง เป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สั่งให้มาป่วนตำรวจ เนื่องจากไม่มีเงินโอนให้ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 มิ.ย. ที่ผ่านมา ตำรวจจึงตรวจสอบพบว่า ในวันเดียวกัน […]

ข่าวแนะนำ

โฆษก ทบ. ยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลัง-กลบคูเลต ลดตึงเครียด

8 มิ.ย. – โฆษก ทบ. ยืนยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลังกลับไปอยู่จุดเดิม พร้อมกลบคูเลตให้คืนสู่สภาพเดิม หลังบรรลุข้อตกลงการหารือ เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก ลดความตึงเครียด วันนี้ (8 มิ.ย.68)​ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ฝ่ายกัมพูชา นำโดย พล.ท.สรัย ดึก รองผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 ได้เชิญฝ่ายทหารไทย โดย พล.ต.สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี เข้าร่วมหารือ เพื่อเจรจาเกี่ยวกับกรณีปัญหาการรุกล้ำดินแดนในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก จากการหารือเบื้องต้น ทั้งสองฝ่ายได้บรรลุข้อตกลงในประเด็นสำคัญ คือ ฝ่ายทหารกัมพูชายินยอมถอนกำลังกลับไปยังจุดที่เคยประจำการอยู่เดิม ซึ่งอยู่ห่างจากบริเวณที่เกิดเหตุปะทะ หรือแนวต้นพญาสัตบรรณ ลึกเข้าไปในเขตแดนของประเทศกัมพูชา จุดดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่ฝ่ายกัมพูชาเคยใช้เป็นแนววางกำลังฐานมาโดยตลอดในอดีต นอกจากนี้ ฝ่ายกัมพูชายังแสดงความยินยอมที่จะดำเนินการกลบคูเลตให้กลับคืนสู่สภาพธรรมชาติตามเดิม ตามข้อเสนอของฝ่ายไทย เพื่อเป็นการลดความตึงเครียด และสร้างบรรยากาศแห่งความร่วมมือ ภายหลังจากนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันที่จะใช้กลไกระดับคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น เป็นช่องทางในการหารือแนวทางบริหารจัดการพื้นที่อย่างเหมาะสมและยั่งยืนต่อไป.-313-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 สั่งกองกำลังสุรนารี ปรับเวลาเปิด-ปิด จุดผ่านแดนกัมพูชา 

8 มิ.ย.- เกาะติดสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา แม่ทัพภาค 2 ลงนามคำสั่งให้อำนาจผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี พิจารณาปรับเวลาเปิด-ปิด ด่านถาวรและจุดผ่อนปรนการค้า 4 ด่าน มีผลทันทีเมื่อคืนนี้ กองทัพภาคที่ 2 ออกหนังสือคำสั่ง การควบคุมการเปิด-ปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี ตามคำสั่งกองทัพบก เพื่อความปลอดภัยของประชาชน ให้กองทัพภาคที่ 2 โดยกองกำลังกำลังสุรนารีมีอำนาจการควบคุมการเปิด-ปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี วิธีการและเงื่อนไขหรือเงื่อนเวลา ที่จำเป็นเหมาะสม ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี ดังนี้

วุ่นแต่เช้า! ด่านคลองลึก “ไทย-กัมพูชา” เปิดไม่พร้อมกัน

สระแก้ว 8 มิ.ย.- ด่านคลองลึก วุ่นแต่เช้า! “ไทย-กัมพูชา” เปิดด่านชายแดนไม่พร้อมกัน หลังปรับเวลาวันแรก ทำคนรอหน้าด่านจำนวนมาก ด่าน ตม.อรัญประเทศ จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เปิดประตูด่านพรมแดนคลองลึก บริเวณสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา มีความวุ่นวายเกิดขึ้น เนื่องจากวันนี้นับเป็นวันแรกที่เริ่มใช้มาตรการเปิดด่านเวลา 08.00 น. พอถึงเวลา 08.00 น. เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยได้ทำการเปิดประตูด่านพรมแดน บริเวณสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา แต่ทางฝั่งกัมพูชา ไม่มีทีท่าว่าจะเปิดด่านแต่อย่างใด โดยมีชาวกัมพูชาและแรงงานชาวกัมพูชาจำนวนมากจากฝั่งไทยที่จะเดินทางกลับประเทศกัมพูชา พร้อมทั้งพนักงานกาสิโนชาวไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ต้องมายืนรอกัมพูชาเปิดด่าน ต่อมา พ.ต.อ.ณภัทรพงศ สุภาพร ผกก.ตม.จว.สระแก้ว และ ร.ท.สาโรจน์ โยธา ผบ. ร้อย ทพ.1201 ได้เดินเข้าไปสอบถามเจ้าหน้าที่กัมพูชาบริเวณประตูพรมแดนฝั่งกัมพูชาถึงสาเหตุที่กัมพูชายังไม่เปิดด่าน ซึ่งเจ้าหน้าที่ ตม.และตำรวจกัมพูชา แจ้งมาว่าเป็นคำสั่งของผู้บังคับบัญชาของกัมพูชาให้เปิดด่านเวลา 09.00 น. ซึ่งไม่ตรงกับไทย ทำให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยต้องออกประชาสัมพันธ์ให้ชาวกัมพูชาและนักท่องเที่ยวต่างชาติ รวมถึงคนไทยที่จะไปทำงานในฝั่งกัมพูชาทราบว่าด่านไทยเปิดเวลา 08.00 น. แต่ด่านกัมพูชา เปิด 09.00 น. […]

“อนุทิน” ยันอุบลฯ ไม่โดดเดี่ยว ลั่นจะไม่ให้ใครรุกราน

อุบลราชธานี 8 มิ.ย.- “อนุทิน” ลงพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ยันอุบลราชธานีไม่ได้โดดเดี่ยว ลั่นจะไม่ให้ใครรุกราน ขณะที่ชาวบ้านยอมรับหวาดกลัว แต่อุ่นใจมีทหารคอยดูแลความปลอดภัย นายอนุทิน​ ชาญ​วีระกูล​ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย​ นำคณะปฏิบัติราชการที่จังหวัดอุบลราชธานี จุดแรกที่ศูนย์พัฒนาเขตพื้นที่ชายแดน บ้านทุ่งสมเด็จ หมู่ที่ 17 ตำบลโดมประดิษฐ์ อำเภอน้ำยืน เพื่อมอบสิ่งของให้ทหาร​ ชรบ.​อส. ที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ จากนั้นไปดูหลุมหลบภัย 2 จุด คือหลุมหลบภัย โรงเรียนบ้านแปดอุ้ม และหลุมหลบภัยวัดบ้านค้อ ให้กำลังใจพี่น้องประชาชนในพื้นที่ การลงพื้นที่ครั้งนี้ นายอนุทินเดินทางโดยเครื่องบินส่วนตัวก่อนจะขึ้นเฮลิคอปเตอร์​จากอุบลราชธานี มาพื้นที่ชายแดน​พร้อมกับปลัดกระทรวงมหาดไทยและอธิบดีกรมการปกครอง​ก่อนวันพุธที่ 11 มิถุนายน​ จะเชิญผู้ว่าราชการจังหวัดตามแนวเขตชายแดนไทย-กัมพูชาทั้ง 7 จังหวัดมาประชุมร่วมกันที่อุบลราชธานี​ เพื่อให้เกิดความมั่นใจ​ ถึงแนวทางในการดูแลพี่น้องประชาชนให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด นายอนุทิน แนะนำผู้ว่าฯ และรองผู้ว่าฯ 7 จังหวัด รวมถึงสส. ทั้งของพรรคภูมิใจไทยและต่างพรรคที่มาเป็นกำลังใจให้ทุกคนโดยเฉพาะทหารที่เป็นกำลังสำคัญ​ และรับรองได้ว่าจะไม่ให้ใครรุกรานเข้ามาแม้แต่มิลลิเมตรเดียว​ พร้อมยืนยันอุบลราชธานีไม่ได้โดดเดี่ยว คนไทยทุกคนพร้อมที่จะคอยตรึงแนวหลัง ให้มั่นใจได้ว่าปลอดภัย ชาวบ้านในพื้นที่ ที่มารอต้อนรับคณะของนายอนุทิน ยอมรับว่าหวาดกลัวกับสถานการณ์ในปัจจุบัน เพราะเคยประสบเหตุ เหยียบกับระเบิด […]