เร่งสร้างถนนยางพารา ก.พ.นี้ทั่วประเทศ

กรุงเทพฯ 11 ม.ค. –  ก.เกษตรฯ เดินหน้าโครงการถนนยางพารา เร่งสร้าง 80,000 หมู่บ้าน พร้อมกันทั่วประเทศ ก.พ.นี้ หลัง อปท.เปิดสมัยประชุมสภาท้องถิ่นเพื่ออนุมัติงบประมาณก่อสร้าง คาดจะผลักดันราคายางพาราสูงขึ้นไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 50 บาท  


นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า การจัดประชุมหารือการดำเนินโครงการ 1 หมู่บ้าน 1 กิโลเมตรครั้งนี้ได้เชิญผู้แทนจากองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.)  77 จังหวัด มารับทราบแบบ สูตรก่อสร้าง ราคากลาง การใช้งบประมาณในการสร้างถนนดินซีเมนต์ปรับปรุงคุณภาพด้วยยางพารา คาดว่าจะดำเนินก่อสร้างได้อย่างรวดเร็วพร้อมกันทั่วประเทศต้นเดือนกุมภาพันธ์ เนื่องจากผู้บริหาร อบจ.ต้องเสนอสภา อบจ.อนุมัติงบประมาณ ซึ่งสภา อบจ.ส่วนใหญ่เกือบทั้งประเทศจะเปิดสมัยประชุมเดือนกุมภาพันธ์นี้ ส่วนระยะทางที่จะก่อสร้างไม่จำเป็นต้องสร้างเพียง 1 กิโลเมตรต่อ 1  หมู่บ้าน/ชุมชน สามารถสร้างได้ตามงบประมาณที่มีและความจำเป็นในการปรับปรุงถนน ซึ่งเป็นหน้าที่ของ อบจ. อยู่แล้ว  

ดังนั้น โครงการนี้นอกจากจะทำให้ได้ถนนในหมู่บ้านหรือระหว่างชุมชนมีคุณภาพดีกว่าถนนลูกรังที่ทำกันอยู่เดิม ซึ่งในช่วงหน้าแล้งผิวจราจรแห้งทำให้ฝุ่นคลุ้ง แต่เมื่อนำน้ำยางพาราสดกับปูนซีเมนต์ผสมเข้าไป แล้วบดอัด ทำให้ลดฝุ่น รวมทั้งยังมีความยืดหยุ่นและความทนทานกว่า จึงเป็นโครงการที่เหมือนยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว คือ ได้ถนนที่มีคุณภาพใช้สัญจรและขนส่งสินค้าการเกษตร และช่วยเกษตรกรชาวสวนยาง เนื่องจากหากสร้างถนนดินซีเมนต์ปรับปรุงคุณภาพด้วยยางพาราทั่วประเทศ ซึ่งจะมีระยะทางรวมอย่างน้อย 75,032 กิโลเมตร ใช้น้ำยางสดปริมาณกว่า 1.4 ล้านตัน หรือคิดเป็นน้ำยางข้นประมาณ 72,000 ตัน คิดเป็นมูลค่าน้ำยางสดกว่า 16,000 ล้านบาท ขณะนี้ราคาน้ำยางสดปรับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจากกิโลกรัมละ 33 บาท เป็น 39 บาทแล้ว หากมีการใช้ในประเทศจำนวนมาก คาดว่าจะยกระดับราคายางอยู่ที่ระดับไม่ต่ำกว่า 50 บาทต่อกิโลกรัม


นอกจากนี้ กระทรวงเกษตรฯ ยังเร่งส่งเสริมสถาบันเกษตรกรให้มีบทบาทรักษาเสถียรภาพราคายางพารา โดย ครม. อนุมัติวงเงินสินเชื่อ 5,000 ล้านบาท ซึ่งธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) คิดดอกเบี้ยร้อยละ 4 ต่อปี ส่วนสหกรณ์รับภาระดอกเบี้ยเพียงร้อยละ0.01 ต่อปี เพื่อสนับสนุนให้สหกรณ์การเกษตรแปรรูปยางสำหรับส่งออก รับผิดชอบโดยกรมส่งเสริมสหกรณ์ซึ่งคัดเลือกมา 18 สหกรณ์ มี 6 สหกรณ์ที่มีศักยภาพสูงทั้งรวบรวมผลผลิตยาง แปรรูป และส่งออกได้เอง ส่วนอีก 12 สหกรณ์สามารถรวบรวมน้ำยางและแปรรูปได้ แล้วส่งให้ภาคเอกชนส่งออก ซึ่งเป็นการเพิ่มช่องทางการจำหน่ายยางพาราไปยังต่างประเทศ 

นายกฤษฎา กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ทาง กยท.กำลังจะเสนอให้คณะกรรมการ กยท.เห็นชอบการใช้แผ่นปูพื้นแบบต่าง ๆ เพื่อทำสนามฟุตซอล ลานกีฬา และทางเท้า สัปดาห์หน้า หากบอร์ด กยท.เห็นชอบจะเร่งประชาสัมพันธ์ให้หน่วยงานภาครัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โรงเรียนนำผลิตภัณฑ์เหล่านี้ซึ่งผ่านการรับรองจากสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมหรือ มอก.แล้วไปจัดสร้าง โดยหน่วยงานที่ต้องการใช้สามารถจัดซื้อจัดจ้างได้ทันที นอกจากนี้ กำลังศึกษาแนวทางการใช้ยางพาราขึ้นรูปเป็นแผ่นรองทางรถไฟ ทดแทนของเดิมที่ใช้อยู่ ซึ่งทำจากพลาสติก แม้พลาสติกจะถูกกว่า แต่ยางพารามีความยืดหยุ่นและคงทนกว่า ทำให้การเดินรถระบบรางมีความสะดวกสบายสำหรับผู้โดยสารมากขึ้น คาดว่าจะใช้เวลาศึกษาประมาณ 1 – 2 เดือน หากมีความเหมาะสมจะนำเสนอรัฐบาลกำหนดให้เป็นมาตรฐานว่าจากนี้ไปแผ่นรองรางรถไฟที่จะจัดหามาใหม่หรือทดแทนของเดิมผู้รับว่าจ้างต้องใช้ผลิตภัณฑ์จากยางพารา 

“กระทรวงเกษตรฯ จะเร่งดำเนินการมาตรการใช้ยางพาราภาครัฐทั้งหมดนี้โดยเร็วที่สุด เพื่อยกระดับราคายางพารา ทำให้ชาวสวนยางมีรายได้มากขึ้นและมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น” นายกฤษฎา กล่าว


ทางด้านนายธเนศ สุขโต ผู้จัดการแผนกวิจัยและพัฒนา (อาร์แอนด์ดี) บริษัท ไอ อาร์ ซี (เอเซีย) รีเสิร์ช เปิดเผยว่า บริษัทพัฒนานวัตกรรมเพื่อเพิ่มมูลค่ายางธรรมชาติสู่ผลิตภัณฑ์ “แผ่นรองรางรถไฟ” เพื่อรองรับโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งจะช่วยเพิ่มมูลค่าให้แก่ยางพาราไทย และสามารถชดเชยการนำเข้าผลิตภัณฑ์จากต่างประเทศได้ เพราะมีคุณสมบัติการใช้งาน รวมถึงราคาใกล้เคียงกัน และได้รับมาตรฐาน มอก.2667-2558  สามารถนำมาใช้ในงานเกี่ยวกับการซ่อมแซมรางรถไฟ หรือการเปลี่ยนยางเก่าที่เสื่อมสภาพได้ โดยกลุ่มลูกค้าเป้าหมายจะเป็นทั้งการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) 

สำหรับการพัฒนางานวิจัยแผ่นรองรางรถไฟได้ร่วมมือกับนักวิจัยในประเทศ ทั้งศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ หรือเอ็มเทค (MTEC) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) เชื่อมั่นว่ามีโอกาสจะพัฒนาและขยายตลาดในประเทศได้อย่างดี แผ่นรองรางรถไฟมีรูปแบบเป็นแผ่นสี่เหลี่ยมหน้าประมาณ 2-12 มิลลิเมตร ความยาวประมาณ 18 เซนติเมตร และความกว้างประมาณ 10 เซนติเมตร โดยต้นแบบผลิตภัณฑ์ที่พัฒนาได้ มีน้ำหนักประมาณ 175 กรัม/ชิ้น

ทั้งนี้ มีการประเมินว่าความต้องการใช้แผ่นยางรองรางรถไฟจากยางพาราในระบบราง ซึ่งในระยะทาง 1 กิโลเมตร คาดว่าจะใช้แผ่นยางรองรางรถไฟประมาณ 3,300 ชิ้น และจะมีปริมาณการใช้ยาง ประมาณ 290 กิโลกรัม ปัจจุบันระบบรางระยะทางประมาณ 4,300 กิโลเมตร จึงจะมีปริมาณการใช้ยางพาราประมาณ 1,200 ตัน โดยอนาคตหากมีการขยายระบบรางในระยะทางประมาณ 8,400 กิโลเมตร จึงจะมีปริมาณการใช้ยางพาราประมาณ 2,400 ตัน ซึ่งจะเพิ่มปริมาณการใช้ยางพาราภายในประเทศได้อย่างมาก.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เขมรยิงจรวดตกใส่ชาวบ้านกันทรลักษ์ เสียชีวิตอีก 1 ราย

ศรีสะเกษ 27 ก.ค. – ไม่เลือกเป้าหมาย! กัมพูชายิงจรวดตกใส่บ้านเรือนประชาชน ต.บึงมะลู อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ชาวบ้านเสียชีวิตอีก 1 ราย บาดเจ็บ 1 คน ด้าน ผบ.ตร.ลงพื้นที่ศรีสะเกษ กำชับดูแลทรัพย์สินประชาชน ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ทำหน้าที่แข็งขัน .-สำนักข่าวไทย

เหตุปะทะชายแดนสุรินทร์รุนแรง ขยายวงกว้าง ยอดอพยพเพิ่ม

สุรินทร์ 27 ก.ค. – สถานการณ์การสู้รบตามแนวชายแดนไทยกัมพูชาด้าน จ.สุรินทร์ มีแนวโน้มรุนแรงขึ้นและขยายวงกว้าง โดยเฉพาะด้านปราสาทตาควาย และปราสาทตาเมือนธม ทำให้มีผู้อพยพตามศูนย์พักพิงชั่วคราวพุ่งทะลุกว่า 50,000 คน เวลาราว 04.30 น. วันนี้มีการเปิดฉากปะทะกันอย่างหนัก ทั้งปืนเล็ก และปืนใหญ่ บริเวณปราสาทตาควาย ต่อด้วยปราสาทตาเมือนธม ที่อยู่ไม่ไกลกัน พื้นที่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ส่งผลให้กระสุนจรวด BM 21 ตกใส่บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายทั้งหลัง ใกล้กัน ฟาร์มวัววากิว ยังมีวัวถูกสะเก็ดตาย 6 ตัว กระสุนยังตกกระจายตามทุ่งนารวม 9 ลูก ในพื้นที่ตำบลบ้านพลวง อำเภอปราสาท ส่วนตำบลตาเมียง และตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก ก็มีกระสุนเข้าไปตกเป็นจำนวนมากเช่นกัน วิถีกระสุนที่มาตกไกลขึ้น ทำให้ศูนย์พักพิงชั่วคราวในตัวอำเภอปราสาทจังหวัดสุรินทร์ ต้องยุบเพิ่มเติมอีก 2 จุด ขณะที่ชาวอำเภอปราสาท ต่างแตกตื่นปิดบ้าน ปิดร้าน อพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัย ทำให้บรรยากาศในตลาดสดที่ปกติมีพ่อค้าแม่ค้ามาขายของจำนวนมาก วันนี้ลดลงถึง 80% โดยนายอำเภอปราสาท ให้ข้อมูลว่า […]

กต. ลั่นจะพูดคุยกัน เขมรต้องจริงใจก่อน ซัดพูดอย่างทำอย่าง แถมบิดเบือน

กระทรวงการต่างประเทศ 27 ก.ค.- กต. ขีดเส้นใต้ จะพูดคุยกันได้ “เขมร” ต้องจริงใจก่อน “นิกรเดช” ซัดพูดอย่างทำอย่าง นอกจากใช้พลเรือนเป็นโล่กำบังแล้ว ยังใช้โบราณสถานกำบังด้วย แถมบิดเบือน-สร้างข้อมูลเท็จ ผู้เชี่ยวชาญยังรู้เป็นภาพเก่า รับทราบพรุ่งนี้ “ภูมิธรรม” บินคุย “ฮุน มาเนต” หลัง “ทรัมป์” ต่อสายคุย เผย “มาริษ” ร่อนแล้ว เอกสารถึง UNICEF-OHCHR ยันกัมพูชาเริ่มก่อน นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ข้อเสนอหยุดยิงตามที่หลายท่านคงทราบอยู่แล้วเมื่อคืนที่ผ่านมา (26 ก.ค.68) นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรี ได้หารือกับนายโดนัล ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา โดยฝ่ายไทยได้ยืนยันอย่างหนักแน่นถึงจุดยืนของไทยในการแก้ไขปัญหาชายแดนกับกัมพูชาด้วยสันติวิธี โดยเฉพาะผ่านการเจรจาทวิภาคี ซึ่งฝ่ายไทยเราได้ย้ำมาโดยตลอดในทุกโอกาส ฝ่ายไทยจึงคาดหวังว่าจะเห็นความตั้งใจจริงจากกัมพูชา ในการยุติการใช้ความรุนแรง โดยเฉพาะเรื่องการโจมตีที่ไม่เลือกเป้าหมาย หากฝ่ายกัมพูชาแสดงความจริงใจและสุจริตใจในการแก้ไขปัญหา ฝ่ายไทยก็พร้อมจะหารือด้วย เพื่อร่วมกันกำหนดมาตรการและกระบวนการที่ชัดเจนอย่างสันติและยั่งยืน นายนิกรเดช กล่าวต่อว่า การโจมตีเป้าหมายพลเรือนโดยกองกำลังกัมพูชาบนแผ่นดินไทยเหตุการณ์เมื่อคืน กัมพูชาได้เปิดฉากโจมตีหลายจุดตามแนวชายแดนไทยอีกครั้ง […]

ปัญหาชายแดนไทยกัมพูชา

ไทยรับคำเชิญ “อันวาร์” ถกปัญหาชายแดน “ภูมิธรรม” นำทีมไทยแลนด์เจรจา

ทำเนียบรัฐบาล 27 ก.ค. – รัฐบาลยืนยัน “อันวาร์” ประธานอาเซียน เชิญผู้นำไทยถกปัญหาไทย-กัมพูชา “ภูมิธรรม” นำทีมไทยแลนด์เจรจา ย้ำไม่มีการเจรจาเรื่องแผนที่ ยืนยันการรักษาอธิปไตยของประเทศแม้ตารางนิ้วเดียวก็ให้ใครไม่ได้ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี คณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ. ทก.) เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยได้รับคำเชิญจากนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเชีย ในฐานะประธานอาเชียน ให้เดินทางไปร่วมหารือ แนวทางสันติภาพในภูมิภาคนี้ ในวันพรุ่งนี้ (จันทร์ที่ 28 กรกฎาคม 2568) ณ ทำเนียบนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย กรุงกัวลาลัมเปอร์ โดยคณะจะออกเดินทางจากกองทัพอากาศเวลาประมาณ 10.30น และเข้าหารือ เวลา 15.00 น.ตามเวลาประเทศมาเลเซีย คณะของทีมไทยแลนด์นำโดยนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาราชการนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม นายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรีและตนในฐานะกรรมการ ศบ.ทก. ทั้งนี้ ได้รับแจ้งว่า […]