‘อาชีพส่วนตัว’ อาชีพในฝันเด็กไทย ยุคดิจิทัล

กทม.11 ม.ค.-ผลสำรวจพบอาชีพในฝันที่เด็กไทยอยากเป็นมากที่สุดในยุคดิจิทัล คืออาชีพส่วนตัว (ค้าขาย เสริมสวยฯลฯ) ครู/อาจารย์, รับราชการ (ไม่ระบุสาขา) ขณะที่ผู้ปกครองส่วนใหญ่อยากให้รับราชการ ส่วนของขวัญวันเด็กด้านการศึกษา คือกระจายโอกาสให้เสมอภาคเท่าเทียม และเรียนฟรีถึงระดับปริญญาตรี  


ศูนย์สำรวจความคิดเห็น ‘นิด้าโพล’ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง“เด็กและเยาวชนไทยในยุคดิจิทัล”ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 7 – 9 มกราคม 2562 จากประชาชนที่มีอายุ12 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา และอาชีพ รวมทั้งสิ้น 1,270 หน่วยตัวอย่าง  เกี่ยวกับเด็กและเยาวชนไทยในยุคดิจิทัล 


จากการสำรวจเมื่อถามถึงอาชีพในฝันที่เด็กและเยาวชนไทยอยากเป็น ในยุคดิจิทัล (5 อันดับแรก) พบว่าอันดับ1 ร้อยละ 15.83 ระบุว่าเป็น อาชีพส่วนตัว (ค้าขาย เสริมสวย ฯลฯ) อันดับ 2 ร้อยละ 12.40 ระบุว่าเป็น อาชีพครู/อาจารย์ อันดับ 3 ร้อยละ 11.87 ระบุว่าเป็นอาชีพรับราชการ (ไม่ระบุสาขา) อันดับ 4 ร้อยละ 11.61 ระบุว่าเป็นอาชีพแพทย์/พยาบาล และอันดับ 5 ร้อยละ 6.86 ระบุว่าเป็น อาชีพวิศวะ/สถาปนิก/นักออกแบบดีไซน์


ด้านความคิดเห็นเกี่ยวกับอาชีพที่ผู้ปกครองอยากให้บุตรหลานเป็น ในยุคดิจิทัล (5 อันดับแรก) พบว่าผู้ปกครองส่วนใหญ่ อันดับ 1  ร้อยละ 30.08 ระบุว่าเป็นอาชีพรับราชการ(ไม่ระบุสาขา) อันดับ 2 ร้อยละ 15.82 อาชีพแพทย์/พยาบาล อันดับ 3 ร้อยละ 13.36 อาชีพส่วนตัว (ค้าขาย เสริมสวย ฯลฯ) อันดับ 4 ร้อยละ 7.30 อาชีพครู/อาจารย์ และอันดับ 5 ร้อยละ 7.18  อาชีพนักธุรกิจ  

สำหรับคุณสมบัติที่ดีของเด็กไทยในยุคดิจิทัลตามความคิดเห็นของประชาชน พบว่าร้อยละ 39.69 ระบุว่ามีระเบียบวินัย เคารพกฎระเบียบ รองลงมา ร้อยละ 38.03 ระบุว่ามีคุณธรรมจริยธรรม ช่วยเหลือสังคม ไม่เห็นแก่ตัว ร้อยละ 36.38 ระบุว่ามีความอดทน อดกลั้น ร้อยละ 27.17 ระบุว่า รู้จักการคิดวิเคราะห์ แยกแยะข้อมูลที่ได้รับ ร้อยละ 26.69 ระบุว่า มีความคิดสร้างสรรค์ คิดนอกกรอบ ร้อยละ 19.21 ระบุว่า หมั่นศึกษาหาข้อมูลหรือนวัตกรรมใหม่ๆ มาใช้ในการเรียน ร้อยละ16.61 ระบุว่า มีทักษะในการใช้ภาษาต่างประเทศได้ดี และร้อยละ 12.83 ระบุว่า ไม่ใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับโลกอินเทอร์เน็ต

เมื่อถามถึงของขวัญวันเด็กด้านการศึกษาที่ประชาชนต้องการจากรัฐบาลชุดใหม่ พบว่าส่วนใหญ่ร้อยละ 30.00 ระบุว่า กระจายโอกาสให้เข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพอย่างเสมอภาคและเท่าเทียม รองลงมาร้อยละ 29.76 ระบุว่าโครงการเรียนฟรีถึงระดับปริญญาตรี ร้อยละ 19.69 ระบุว่า ส่งเสริม พัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา ร้อยละ 6.85 ระบุว่า พัฒนาหลักสูตรการศึกษาระดับอาชีวศึกษา ร้อยละ 3.23 ระบุว่า การพัฒนาระบบอินเทอร์เน็ต (จัดหา High Speed Internet ในโรงเรียน) ร้อยละ 2.99 ระบุว่าแก้ปัญหาระบบแอดมิชชั่น ร้อยละ 2.83  ระบุว่ากำจัดค่าแป๊ะเจี๊ยะ และร้อยละ 4.65 ระบุอื่น ๆ ได้แก่ พัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอนให้ทันสมัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และให้การสนับสนุนด้านอุปกรณ์กีฬา สื่อการเรียนการสอนที่ทันสมัย ขณะที่บางส่วนระบุว่า ไม่ต้องการของขวัญอะไรจากรัฐบาลชุดใหม่ 

ส่วนปัจจัย/เหตุผล ของผู้ปกครองในการเลือกโรงเรียนให้กับบุตรหลาน พบว่า ผู้ปกครองส่วนใหญ่ร้อยละ 35.13 ระบุว่า การเดินทาง รองลงมา ร้อยละ 27.83 ระบุว่าบุคลากรในโรงเรียน (ครู และ ผู้บริหาร) ร้อยละ 24.69 ค่าใช้จ่ายการเรียน ร้อยละ 21.66 ระบุว่า สถานที่และสภาพแวดล้อมดี ร้อยละ 20.20 ความปลอดภัย ร้อยละ 14.93 ชื่อเสียงโรงเรียน ร้อยละ 12.46 หลักสูตรมีการสอนภาษาต่างประเทศ ร้อยละ 12.23 ขึ้นอยู่กับความต้องการของบุตรหลานเอง ร้อยละ 11.67 โรงเรียนรัฐบาลหรือโรงเรียนเอกชน  ร้อยละ 10.77 สิ่งอำนวยความสะดวกและการบริการ ร้อยละ 1.12 เครื่องแบบนักเรียน และร้อยละ 1.01 ระบุอื่น ๆ ได้แก่             มีหลักสูตรการเรียนการสอนที่มีคุณภาพ   

ท้ายที่สุดเมื่อถามถึงความคิดเห็นของผู้ปกครองเกี่ยวกับการห้ามไม่ให้มีการสอบคัดเลือกเข้าประถมศึกษาปีที่1หากฝ่าฝืนจะถูกปรับไม่เกิน 5 แสนบาท เข้ากองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา พบว่า ผู้ปกครองส่วนใหญ่ ร้อยละ 52.41 ระบุว่า เห็นด้วย รองลงมา ร้อยละ 25.25 ระบุว่า ไม่เห็นด้วย ร้อยละ 18.86 ระบุว่า เห็นด้วยอย่างยิ่ง ร้อยละ 2.58 ระบุว่า ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง และร้อยละ 0.90 ระบุว่า ไม่แน่ใจ  .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

แจ้งความผู้ว่าสตง.

2 พิธีกรดังเข้าแจ้งความกล่าวโทษผู้ว่าฯ สตง. เหตุตึก สตง.ถล่ม

สองพิธีกรชื่อดัง เข้าแจ้งความกล่าวโทษ ผู้ว่าฯ สตง. และอดีตผู้ว่าฯ สตง. เหตุตึก สตง.แห่งใหม่ถล่ม แต่ไม่มีใครรับผิดชอบ มองอาจไม่ชอบมาพากล หวั่นเวลาผ่านไปเอาผิดใครไม่ได้

ก้อนปูนตกใส่รถ

กทพ. แจงก้อนปูนตกใส่รถผู้ใช้ทาง มีคนโยนลงมาจากสะพานลอย

กทพ. ชี้แจงกรณี ก้อนปูนตกใส่รถผู้ใช้ทาง ไม่ได้เกิดจากการกระเทาะของโครงสร้างทางพิเศษบูรพาวิถี แต่มีผู้โยนลงมาจากสะพานลอย จ่อประสานตำรวจตามตัวดำเนินคดี

ปล่อยกู้ดอกโหด

บุกทลาย “บ้านเสี่ยโน้ต” ปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยมหาโหด 1,825% ต่อปี

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) บุกทลาย “บ้านเสี่ยโน้ต” ปล่อยเงินกู้เฉพาะผู้หญิง คิดดอกเบี้ยมหาโหดร้อยละ 1,825 ต่อปี ไม่จ่ายโดนข่มขู่ประจานไม่เลือกหน้า

ข่าวแนะนำ

โรคแอนแทรกซ์

สธ.เฝ้าระวังโรคแอนแทรกซ์ ย้ำประชาชนอย่าเพิ่งตระหนกตกใจ

หลังมีผู้เสียชีวิตและติดเชื้อแอนแทรกซ์ รวมถึงยังต้องเฝ้าระวังตรวจคัดกรองหลายร้อยคน การระบาดในพื้นที่ภาคอีสานรอบนี้ ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า กรมควบคุมโรคเร่งเฝ้าระวังและควบคุมโรคแอนแทรกซ์ ย้ำพี่น้องประชาชนอย่าเพิ่งตระหนกตกใจ

ประณามยิงประชาชน

แม่ทัพภาคที่ 4 ประณามคนร้ายยิงประชาชนเสียชีวิต-สั่งปรับแผนความปลอดภัย

แม่ทัพภาคที่ 4 ลงพื้นที่ติดตามเหตุยิงประชาชนใน อ.จะแนะ และ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส สั่งปรับแผนการปฏิบัติในพื้นที่ล่อแหลม เสี่ยงต่อการก่อเหตุรุนแรง สร้างความปลอดภัยสูงสุดในการดูแลประชาชน พร้อมประณามการกระทำโหดเหี้ยม

แอนแทรกซ์

สธ.เผยติดเชื้อแอนแทรกซ์โอกาสตายสูงถึง 80%

สธ. เผยแอนแทรกซ์ เป็นโรคติดต่อร้ายแรง โอกาสเสียชีวิตสูงถึง 80% ส่วน จ.เลย ชาวบ้านพบวัวตายตัว สำนักงานปศุสัตว์ฯ ลงพื้นที่ตรวจสอบเบื้องต้น คาดกินเชือกไนล่อนมัดฟางเข้าไป ทำให้อุดตันทางเดินอาหาร ไม่น่าเกิดจากโรคระบาดสัตว์ เนื่องจากวัวในฝูงที่เหลืออยู่ ยังมีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงดี