กรุงเทพฯ 10 ม.ค.- ตำรวจ สน.สายไหมคุมคนขับรถมาสด้าเฉี่ยวชน 2 วันรุ่นขับขี่รถ จยย.จนเสียหลักและเสียชีวิตในเวลาต่อมาสอบสวน ส่วนประเด็นมีการทำร้ายร่างกายด้วยหรือไม่นั้นกำลังสอบขยายผล
พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผย ความคืบหน้ากรณีสื่อนำเสนอข่าว อุบัติเหตุรถชนแล้วหลบหนีและภายหลังได้มีการลงมาทำร้ายกัน เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตจำนวน 2 รายและทรัพย์สินเสียหาย เหตุเกิดท้องที่ สน.สายไหม ว่า ได้รับรายงานจาก สน.สายไหม ว่าวันนี้ 10 มกราคม 2562 เวลาประมาณ 02.30 น. พนักงานสอบสวน สน.สายไหม ได้รับแจ้งอุบัติเหตุรถชนมีผู้บาดเจ็บและและเสียชีวิต ถนนพหลโยธินฝั่งขาเข้า หน้าโรงพยาบาลภูมิพล แขวงคลองถนน เขตสายไหม กรุงเทพฯ จากนั้นพนักงานสอบสวน แพทย์ และเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบศพนายไชยวัฒน์ สังข์เผือก อายุ 23 ปี นอนเสียชีวิต ในที่เกิดเหตุ และนายศิวัช สิบตะภูกาศ อายุ 22 ปี ได้รับบาดเจ็บ ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลและเสียชีวิตในเวลาต่อมา ใกล้กันพบ รถกระบะ ยี่ห้อมิตซูบิชิ สีขาวพร้อมผู้ขับขี่ ตรวจสอบพบว่าบริเวณด้านหน้ารถได้รับความเสียหาย และพบ รถจักรยานยนต์ คันหมายเลขทะเบียน 6 กด 1827 กรุงเทพฯ จอดเสียหลักล้ม ได้รับความเสียหายทั้งคัน ใกล้กับรถเก๋งแท็กซี่ ซึ่งจอดอยู่โดยได้รับความเสียหายบริเวณด้านหน้าของตัวรถยนต์
จากการสอบสวนเบื้องต้นได้ความว่า ก่อนเกิดเหตุ นายไชยวัฒน์ฯ ผู้ตาย ได้ขี่รถจักรยานยนต์โดยมีนายศิวัชฯซ้อนท้ายมาด้วย และผู้ขับขี่รถเก๋ง ไม่ทราบชื่อคู่กรณี ได้ขับตามกันมาทางถนนพหลโยธินขาออก จากทางตลาดยิ่งเจริญมุ่งหน้าไปทางรังสิต เมื่อคู่กรณีทั้งสองได้ขับตามกันมาถึงยังบริเวณที่เกิดเหตุนั้น ได้เกิดการเฉี่ยวชนกันเกิดขึ้น เป็นเหตุให้ ร่างของนายไชยวัฒน์ฯ ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ กระเด็นออกจากตัวรถ และไปชนเข้ากับบริเวณด้านหน้ารถกระบะมิตซูบิชิสีขาว ที่ผู้ขับขี่ได้ขับรถมาตามทางถนนพหนโยธินที่สวนทางกันมา ส่วนนายศิวัชฯผู้ซ้อนท้ายได้รับบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตต่อมา ส่วนรถจักรยานยนต์นั้นได้ลื่นไถลไปชนเข้ากับรถเก๋งแท็กซี่ ซึ่งผู้ขับขี่ได้ขับตามหลังกระบะมิตซูบิชิ สีขาว โดยภายหลังเกิดเหตุ มีพยานอ้างว่าผู้ขับขี่รถเก๋งยี่ห้อมาสด้าพร้อมกลุ่มชายที่อยู่ในรถยนต์ได้ลงมาทำร้ายชกต่อยผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ และผู้ซ้อนท้ายก่อนขับรถยนต์หลบหนีไป
จนกระทั่งเวลาประมาณ 09.00 น.วันนี้(10 ม.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตาม ชายผู้ซึ่งอ้างว่าเป็นผู้ขับขี่รถเก๋ง ยี่ห้อ มาสด้า 2 สีดำ คันหมายเลขทะเบียน 7 กฌ 4457 กรุงเทพฯ คู่กรณีมาได้ โดยเบื้องต้นรับว่าได้ขับรถยนต์เก๋งมาเพียงลำพัง จนมาถึงที่เกิดเหตุ ได้เกิดการเฉี่ยวชนกับรถจักรยายนต์คู่กรณีขึ้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำรถยนต์คันดังกล่าวตรวจพิสูจน์ร่องรอยการเฉี่ยวชน รวมถึงดำเนินการตรวจสอบเปรียบเทียบ เพื่อยืนยันตัวผู้ขับขี่ จากลายนิ้วมือแฝง และสอบสวนขยายผลเพื่อแจ้งข้อกล่าวหาและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ในส่วนของกรณีที่มีการกล่าวอ้างถึงการทำร้ายร่างกายผู้ขับขี่และผู้ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ภายหลังเฉี่ยวชนเป็นเหตุให้ทั้งสองเสียชีวิตนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้สืบสวนสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง รวมไปถึงการตรวจสอบกล้องวงจรปิด ผลการชันสูตรพลิกศพบาดแผลผู้ตายทั้งสองมาประกอบคดี
รอง โฆษก ตร. กล่าวต่ออีกว่า คดีนี้อยู่ระหว่าง สืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน โดยในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นได้ทราบถึงกลุ่มผู้ก่อเหตุทั้งหมดแล้ว ซึ่งหากการกระทำนั้นมีความผิดจริงก็จะดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างถึงที่สุดและเด็ดขาด
ที่ผ่านมา พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ให้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนในทุกคดี ด้วยความรอบครอบ รวดเร็ว ตามกรอบระยะเวลา ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และอาศัยพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์และพยานหลักฐานที่เชื่อมโยงกับผู้กระทำผิดเป็นสำคัญ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับพี่น้องประชาชน และตอบคำถามสังคมได้.-สำนักข่าวไทย