3 เดือนรู้ผลเหตุอาคารย่านรามคำแหงถล่ม

สำนักข่าวไทย 8 มค .-สภาวิศวกร เตรียมเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องกับการรื้อถอนอาคารย่านรามคำแหง เข้าให้ข้อมูล คาด 3 เดือนรู้ผล โทษสูงสุดเพิกถอนใบอนุญาต 


เจ้าหน้าที่กรมโยธาธิการและผังเมือง สำนักการโยธา กรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยทีมสภาวิศวกร และวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) ลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุอาคาร 3 ชั้น บริเวณปากซอยรามคำแหง 51/2 เขตบางกะปิ ที่ทรุดตัวลงมา ขณะกำลังรื้อถอน จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บเมื่อวานนี้ (7ม.ค.) โดยมีผู้รับเหมาโครงการรื้อถอน เข้าให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ ใช้เวลาตรวจสอบร่วมกันเกือบชั่วโมง


รศ.เอนก ศิริพานิชกร ประธานสาขาวิศวกรรมโยธา วสท. กล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น ผู้รับเหมาได้นำรถแบ็กโฮเข้ามารื้อถอน ขณะทำการรื้อถอนจากด้านในตัวระเบียงนั้น แผ่นปูนที่เป็นกำแพงผนังของชั้น 2 รับแรงกระแทกไม่ไหว จึงหลุดลงมากระแทกกับกันสาดด้านล่าง เป็นเหตุให้เกิดการถล่มลงมา จนมีผู้ได้รับบาดดังกล่าว ซึ่งระหว่างการรื้อถอนต้องห้ามคนเดินผ่านบริเวณทางเท้าหน้าอาคารเด็ดขาด ส่วนธนาคารออมสิน ที่ติดกับอาคารดังกล่าว ต้องตรวจสอบความมั่นคงของตัวอาคาร เพื่อความปลอดภัย

ด้าน รศ.สิริวัฒน์ ไชยชนะ ที่ปรึกษา วสท. กล่าวว่าอาคารดังกล่าวมีอายุเก่าแก่ 40-50 ปี การดำเนินการรื้อถอนเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งต่อความปลอดภัยของประชาชน ต้องมีวิศวกรควบคุมการรื้อถอน ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้น ยอมรับว่า มันเป็นอุบัติเหตุ สาเหตุอาจเกิดจากความบกพร่องของโครงสร้างอาคาร ที่ไม่สามารถมองได้ด้วยตาเปล่า ดังนั้นการดำเนินการรื้อถอนต้องเริ่ม ตั้งแต่ การวิเคราะห์ เพื่อวางแผนรื้อถอน วิธีการรื้อถอน อุปกรณ์เครื่องจักรที่นำมาใช้ต้องเหมาะสมและปลอดภัย มีการป้องกันฝุ่นละอองและเศษซาก เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้


ขณะที่ ศ.อมร พิมานมาศ เลขาธิการสภาวิศวกร ระบุว่า เบื้องต้นต้องตรวจสอบแผนการรื้อถอน ว่าเป็นไปตามมาตรฐานหรือไม่ // ตรวจสอบวิศวกรผู้ควบคุมงานว่ามีความเชี่ยวชาญในการรื้อถอนอาคารที่มีอายุเก่าถึง 40 ปีหรือไม่ // โดยหลังจากนี้ จะเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเข้าให้ข้อมูล คาดว่าจะใช้ระยะเวลาสอบสวนไม่เกิน 3 เดือน หากพบข้อผิดพลาด ที่เกิดขึ้นจากตัวบุคคล มีโทษสูงสุด คือ การเพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพวิศวกรรม

ซึ่งก่อนหน้านี้สำนักงานเขตบางกะปิ เคยมีคำสั่งระงับการรื้อถอนเมื่อช่วงเดือนตุลาคม ที่ผ่านมา เนื่องจาก เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบแผนการป้องกันอุบัติเหตุไม่เป็นไปตามที่ยื่นต่อสำนักงานเขต จึงสั่งให้ดำเนินการให้ถูกต้อง แต่เรื่องกลับเงียบ จนเกิดเหตุอาคารพังถล่มดังกล่าว 

สำหรับพื้นที่ดังกล่าว เป็นของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย ซึ่งได้ทำการเวนคืนพื้นที่เมื่อปี 2560 ที่ผ่านมา เพื่อใช้ก่อสร้างสถานีรามคำแหง โดยว่าจ้างผู้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างตั้งแต่เดือนธ.ค.2561 จนถึงวันเกิดเหตุ ก่อนส่งมอบพื้นที่ให้กับบริษัท ช.การช่าง จำกัด(มหาชน) และบริษัท ชิโนทัยเอ็นเจียเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้รับเหมาก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มต่อไป .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ฆ่าควักหัวใจ

รวบชายชาวจีนฆ่าโหดคู่ขา กรีดหน้าอก ควักหัวใจ-ปอด

ตำรวจรวบชายชาวจีน ก่อเหตุสะเทือนขวัญฆ่าขู่ขาหมกห้องน้ำอพาร์ตเมนต์ กลางเมืองพัทยา พบร่องรอยถูกกรีดหน้าอก ควักหัวใจ ปอดหายไปข้างหนึ่ง

อุทาหรณ์! จอดรถยนต์ติดเครื่องไว้ เจอขโมยขับหนีหาย

อากาศร้อนเป็นเหตุ หนุ่มสตาร์ทเครื่องเปิดแอร์รถยนต์จอดไว้ ก่อนลงไปซื้อของ เดินออกมาอีกที เจอคนขโมยรถ ขับหนีหายไปแล้ว

ดับแล้ว 8 ราย รถชนบนมอเตอร์เวย์ อัดก๊อปปี้พังยับ

เกิดอุบัติเหตุใหญ่ช่วงกลางดึก บนมอเตอร์เวย์ สาย 7 มุ่งหน้าชลบุรี รถเทรลเลอร์ 2 คัน กับเอสยูวีอีก 1 คัน คนในรถเอสยูวี เสียชีวิต 8 ราย

ข่าวแนะนำ

ราคาไข่ไก่พุ่งไม่หยุด เจ้าของร้านขนมไทยโอด ต้นทุนสูง กำไรลด

พุ่งไม่หยุด! ไข่ไก่ปรับขึ้นอีก ถือเป็นการปรับราคาครั้งที่ 2 ในรอบ 1 เดือน กระทบการค้าที่ใช้ไข่ไก่เป็นวัตถุดิบ เจ้าของร้านขายขนมไทย โอดต้นทุนสูง กำไรลด กำลังซื้อหดหาย แทบอยู่ไม่ได้

นายกฯ สวมเสื้อศรีโคตรบูร สักการะพญาศรีสัตตนาคราช

นายกฯ สวมเสื้อศรีโคตรบูร เผยอาการป่วยดีขึ้นแล้ว ก่อนสักการะพญาศรีสัตตนาคราช พร้อมจุดเรือไฟบก ผลักดันสู่ประเพณีไหลเรือไฟโลก ด้านประชาชนตะโกน ขอบคุณที่มานครพนม

ครบ 1 เดือน ตึก สตง.ถล่ม ทุกร่างต้องได้กลับบ้าน

บรรดาญาติๆ ของแรงงานอาคาร สตง.พังถล่มขณะก่อสร้าง ยังคงเฝ้ารอร่างลูกหลานกลับบ้าน แม้วันนี้คงไม่มีปาฏิหาริย์แล้ว ตลอด 30 วันที่ผ่านมา ทุกภาคส่วนพยายามทุ่มเท หวังลบเลือนฝันร้ายที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์

นายกฯ ไข้กลับอ่อนเพลีย หลังลงพื้นที่ท่ามกลางอากาศร้อนอบอ้าว

นายกฯ ไข้กลับ มีอาการอ่อนเพลีย หลังลงพื้นที่ท่ามกลางอากาศร้อนอบอ้าวทั้งวัน ก่อนนั่งหัวโต๊ะประชุมแก้ปัญหายาเสพติดข้ามแดน บอก ราคายาเสพติดแพงขึ้น สะท้อนผลการปราบปราม เน้นย้ำ ให้ความรู้ – โทษ แก่เด็ก และเยาวชน พร้อมให้โอกาสผู้เสพกลับคืนสังคม