สำนักข่าวไทย 7 ม.ค.-ยอดบริจาครายการรวมน้ำใจไทย ช่วยวาตภัยใต้ ช่วยผู้ประสบภัยพายุปาบึก ล่าสุดพุ่ง 132 ล้านบาท นายกฯ ร่วมมอบเงิน 1 เเสนบาท พร้อมนั่งรับสายบริจาคด้วยตนเอง ขอบคุณประชาชนที่ร่วมส่งน้ำใจ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เดินทางมาเป็นประธานรับบริจาคเงินรายการ”รวมน้ำใจไทย ช่วยวาตภัยใต้” ที่สำนักนายกรัฐมนตรี ร่วมกับบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) จัดขึ้นเพื่อระดมความช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนเเละสร้างขวัญกำลังใจให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่ 16 จังหวัดภาคใต้ ที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาวาตภัยพายุปาบึก อีกทั้งเพื่อเปิดโอกาสให้หน่วยงานต่างๆ ทุกภาคส่วน ได้เเสดงน้ำใจร่วมบริจาคเงิน โดยได้ร่วมบริจาคเงินส่วนตัว 1 เเสนบาท เเละได้ร่วมรับสายบริจาคด้วยตนเอง ขณะที่มีหน่วยงานทั้งภาครัฐเเละเอกชนเดินทางมาร่วมบริจาคเงินจำนวนมาก อาทิ กระทรวงแรงงาน 2,150,000 บาท กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 1 ล้าน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 4,100,000 บาท กลุ่มบริษัท ปตท. จำกัด(มหาชน) ร่วมกับกลุ่มบริษัท ไทยออยล์ เอนเนอร์ยี เซอร์วิส จำกัด 30 ล้านบาท ธนาคารเพื่อการเกษตรเเละสหกรณ์การเกษตร 1 ล้าน สำนักงานสลากกินเเบ่งรัฐบาล 5 ล้านบาท การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค 2 ล้านบาท การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย 10 ล้านบาท การไฟฟ้านครหลวง 1 ล้านบาท กระทรวงการคลัง 10,450,000 บาท การกีฬาแห่งประเทศไทย 1 แสน บริษัท คิง เพาเวอร์ 5 ล้านบาท บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด 1 ล้านบาท การประปานครหลวง 5 เเสนบาท การประปาภูมิภาค 5 แสนบาท บริษัท น้ำดื่มรีเจนซี่ จำกัด 2 ล้านบาท บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด(มหาชน) 5 ล้านบาท และบริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง 2 ล้านบาท
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้เเม้พายุปาบึกจะได้สลายตัวไปเเล้ว เเต่ยังส่งผลกระทบในหลายพื้นที่ อาทิ จ.สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราชเเละชุมพร โดยรัฐบาลได้สั่งให้สรุปความเสียหายเร่งด่วน เพื่อช่วยเหลือประชาชนให้กลับคืนสู่สภาวะปกติโดยเร็ว ซึ่งปัจจุบันจากการสำรวจความเสียหายล่าสุด พบว่าส่งผลกระทบในด้าน อาทิ ด้านชีวิต มีผู้เสียชีวิต 4 ราย บ้านเรือนเสียหาย 11,849 หลัง รัฐบาลจะจัดสร้างให้ใหม่ เเละซ่อมแซมให้ครอบคลุม ความเสียหายด้านการประกอบอาชีพเกษตรเเละประมง ความเสียหายของถนน 55 สาย สะพาน 5 แห่ง เป็นต้น ซึ่งเเนวทางการช่วยเหลือ คือเร่งฟื้นฟู่ให้สภาพความเป็นอยู่ของประชาชนกลับมาปกติโดยเร็วที่สุด ขณะเดียวกันเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างสูง ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 ได้นำเงินรายได้จากการจัดงานอุ่นไอรัก คลายความหนาวมาช่วยเหลือประชาชน เเละสมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปรินายก มอบเงินช่วยเหลือ 1 ล้านบาท เเละตนขอขอบคุณคนไทยทุกคนที่แสดงน้ำใจช่วยเหลือพี่น้องที่ได้รับผลกระทบทุกคน
สำหรับยอดการบริจาคล่าสุดเวลา 22.14 น.รวมทั้งสิ้น 132 ล้านบาท ทั้งนี้ประชาชนเเละหน่วยงานต่างๆ ยังคงบริจาคเงินได้ต่อเนื่อง โดยโอนเงินเข้ากองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี บัญชีธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สาขาทำเนียบรัฐบาล เลขที่บัญชี 067-0-06895-0 โดยกองทุนจะเป็นศูนย์กลางในการรวบรวมเงินบริจาคของประชาชนทั่วประเทศ และนำไปบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ผู้ได้รับผลกระทบจากวาตภัยในครั้งนี้ หรือหากจะไปบริจาคด้วยตนเอง สามารถเดินทางไปที่เรือนพอเพียง สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล ในวันเวลาราชการ โดยผู้บริจาคเงินสามารถนำหลักฐานในการบริจาคไปใช้แสดงการลดหย่อนภาษีได้ ส่วนหากต้องการบริจาคเครื่องอุปโภคบริโภค สามารถนำไปบริจาคได้ที่สำนักงานป้องกันเเละบรรเทาสาธารณภัยของเเต่ละจังหวัด.-สำนักข่าวไทย