“อุตตม” เคาะมาตรการเร่งด่วนช่วยภาคใต้

ก.อุตฯ 6 ม.ค. –  รมว.อุตสาหกรรมสั่งประชุมฉุกเฉินระดมมาตรการช่วยเหลือพี่น้องภาคใต้ เอสเอ็มอีและวิสาหกิจชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากพายุปาบึก ทั้งพักหนี้ อัดฉีดเติมทุนเสริมสภาพคล่อง เตรียมออกกองทุนพิเศษพลิกฟื้นกิจการ  รวมถึงปรับเปลี่ยน ซ่อมแซม ปรับปรุงเครื่องจักรอุปกรณ์ในการผลิต โดยทุกมาตรการจะต้องทำทันที ลงพื้นที่แบบปูพรม


นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า เดิมมีภารกิจงานด้านการเมืองที่กำหนดไว้แล้วล่วงหน้า แต่ตนได้สั่งยกเลิกทั้งหมด เพราะเห็นว่าเรื่องการช่วยเหลือพี่น้องภาคใต้ที่ได้รับผลกระทบจากพายุปาบึกจำเป็นเร่งด่วนมากกว่า ดังนั้น จึงได้เรียกประชุมฉุกเฉินกับปลัดกระทรวงและผู้บริหารทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงและหน่วยงานในกำกับทั้งหมด เพื่อระดมจัดทำแพ็กเก็จเยียวยาช่วยเหลือพี่น้องชาวใต้ที่ได้รับผลกระทบครั้งนี้ให้ครอบคลุมทุกกลุ่ม  โดยก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 4 มกราคมก่อนพายุปาบึกจะขึ้นฝั่งที่นครศรีธรรมราชได้มอบหมายสั่งการให้ปลัดกระทรวงกำชับไปยังทุกหน่วยงานในพื้นที่ภาคใต้ที่อยู่ในข่ายได้รับผลกระทบจากพายุดังกล่าวเข้าให้ความช่วยเหลือกับพี่น้องประชาชนและผู้ประกอบการอย่างเต็มที่ตลอด 24 ชม.  ซึ่งทุกหน่วยได้ทุ่มเททำงานอย่างหนักและหลังจากสถานการณ์เริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ทางกระทรวงจะต้องรีบเร่งออกมาตรการให้ความช่วยเหลือต่อเนื่องทันกาล และต้องทำทันที เพื่อซ่อมสร้างฟื้นฟูพลิกฟื้นความเป็นอยู่ของพี่น้องและผู้ประกอบการภาคใต้ทุกกลุ่มโดยเร็วที่สุด

นายอุตตม กล่าวว่า วันนี้ผู้บริหารทุกหน่วยงานมาโดยพร้อมเพรียงและร่วมกันระดมจัดทำแพ็กเก็จชุดความช่วยเหลือแบบครบวงจร  ซึ่งมีทั้งเรื่องมาตรการทางการเงิน การพักหนี้ เติมทุนหมุนเวียน และการปรับปรุงซ่อมแซมเครื่องจักรเครื่องมือการผลิตของผู้ประกอบการโรงงานต่าง ๆ ให้กลับมาพร้อมใช้งานโดยเร็ว การปรับปรุงสถานประกอบการแก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีและวิสาหกิจชุมชนที่ได้รับความเสียหาย และมาตรการช่วยเหลือด้านอื่นที่จะบรรเทาความเดือดร้อนและเยียวยาให้พี่น้องประชาชน ผู้ประกอบการและวิสาหกิจชุมชนภาคใต้ทุกราย 


สำหรับแพ็กเก็จ ประกอบด้วย มาตรการเริ่มทำทันที ได้แก่ ยกเว้นค่าธรรมเนียมรายปี 5 ปีให้กับโรงงานที่ได้รับความเสียหาย ซึ่งกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.)จะออกประกาศได้ทันทีในสัปดาห์หน้า การร่วมกับ Big Brother นำเครื่องจักรขนาดใหญ่ลงพื้นที่ช่วยทำความสะอาดสถานประกอบการซึ่งได้ประสานงานไว้เรียบร้อยแล้ว การร่วมมือกับผู้ประกอบการค่ายรถยนต์/รถจักรยานยนต์ทุกค่ายเปิดศูนย์บริการซ่อมแซมตรวจเช็คเครื่องยนต์ให้กับเจ้าของรถยนต์/รถจักรยานยนต์ของพี่น้องประชาชน ผู้ประกอบการและบุคคลทั่วไปทุกพื้นที่ เป็นต้น

มาตรการทางการเงิน  ได้แก่ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) ประกาศพักชำระหนี้ให้กับลูกค้าที่ได้รับความเสียหายวงเงินประมาณ 3,200 ล้านบาท ซึ่งจะทำการสำรวจอย่างละเอียดและมีวงเงินเพิ่มให้เป็นเงินทุนหมุนเวียนอีกรายละ 1-5 ล้านบาทอัตราดอกเบี้ยเพียงร้อยละ 0.415 ต่อเดือน ส่วนของเงินกู้ยืมของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมมีเงินกู้ฉุกเฉิน 50,000 ถึง 200,000 บาทปรับลดดอกเบี้ยจากร้อยละ  4 เหลือร้อยละ 1 ต่อปี เตรียมวงเงินไว้ 30 ล้านบาท  ในส่วนของกองทุนฟื้นฟูเอสเอ็มอีจากสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) มีมาตรการยืดชำระหนี้ออกไปนาน 6 เดือน เป็นต้น 

มาตรการต่อเนื่อง  ได้แก่ การช่วยเหลือด้านการตลาดให้ผู้ประกอบการกลับมาจำหน่ายสินค้าและบริการให้มีรายได้เพิ่มขึ้น โดย สสว.มีช่องทางการตลาดสนับสนุนทั้งปกติและตลาดออนไลน์หลายเครือข่าย กรมส่งเสริมอุตสาหกรรมจะส่งผู้เชี่ยวชาญด้านต่าง ๆ ลงพื้นที่ทำหน้าที่ให้คำปรึกษาแนะนำผู้ประกอบการทั้งวิสาหกิจชุมชนและเอสเอ็มอี  นอกจากนี้ จะมีการพิจารณานำเงินทุนจากกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐที่เหลืออยู่จำนวนหนึ่งมาปรับใช้ปล่อยกู้ให้กับผู้ประกอบการที่จำเป็นต้องลงทุนปรับปรุงสถานประกอบการโดยจะกำหนดเงื่อนไขผ่อนปรนพิเศษ


“ทุกมาตรการจะลงมือทำทันที โดยมุ่งซ่อมสร้างฟื้นฟูคืนความเป็นอยู่ปกติให้เร็วที่สุดแก่พี่น้องประชาชนและผู้ประกอบการทุกระดับตั้งแต่โรงงานไปจนถึงเอสเอ็มอีคนตัวเล็กและวิสาหกิจชุมชน  ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเดินเครื่องนำมาตรการเหล่านี้ลงไปช่วยเหลือให้ถึงมือแก่ผู้ประสบภัยในทุกพื้นที่โดยเร็วและรายงานผลให้ผมทราบเป็นระยะ  โดยงานนี้ได้มอบหมายให้ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมเป็นแม่งานใหญ่นำพาความปรารถนาดีและความห่วงใยจากกระทรวงอุตสาหกรรมไปช่วยเหลือแก่พี่น้องและผู้ประกอบการชาวใต้ทุกคน” นายอุตตม กล่าว

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบแล้ว! มือปืนโหดสวมชุดไรเดอร์ ตามยิงซ้ำที่ รพ. ดับ 2

ปทุมธานี 5 มิ.ย.- จับแล้ว! มือปืนโหดสวมชุดไรเดอร์ รัวกระสุนใส่หน้าบ้าน ก่อนตามไปยิงซ้ำที่ รพ. เสียชีวิต 2 ราย สารภาพอ้างแค้นถูกตีท้ายครัว ความคืบหน้าเหตุมือปืนชายแต่งกายไรเดอร์ ใช้รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะ ยิงใส่กลุ่มวัยรุ่นชายหญิง ที่นั่งจับกลุ่มกันอยู่หน้าบ้าน ในพื้นที่ ต.ระแหง อ.ลาดหลุมแก้ว ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย หลังเกิดเหตุกลุ่มเพื่อนได้นำคนเจ็บไปส่งโรงพยาบาล แต่คนร้าย ได้ขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบ ใช้อาวุธปืนตามยิงซ้ำถึงในโรงพยาบาล ส่งผลให้ผู้ได้รับบาดเจ็บที่อยู่ท้ายกระบะเสียชีวิต 2 ราย ล่าสุดเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวมือปืน ทราบชื่อนายสมยศ อายุ 32 ปี พร้อมของกลางอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่ใช้ในการก่อเหตุ โดยให้การรับสารภาพว่าตนเองจะมายิงนายมานะ หรือไอซ์ อายุ 33 ปี เพียงคนเดียว ซึ่งก่อนเกิดเหตุตนได้นั่งกินเบียร์มาก่อน และที่ทำไปนั้น เพราะจับได้ว่าผู้ตายเป็นชู้กับภรรยาตน หลังก่อเหตุขับรถหนีไปจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม .-สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” รับกัมพูชาล้ำ 200 ม. จริง แต่เป็นจุด No Man’s Land

ทำเนียบ 5 มิ.ย.- “ภูมิธรรม” รับกัมพูชาล้ำ 200 เมตร จริง แต่เป็นจุด No Man’s Land ย้ำใช้เวที JBC เจรจา บอกไม่ใช่เรายอมศิโรราบ แต่ไทยมีข้อมูลหลักฐาน รอชัดเจน 14 มิ.ย. ขณะที่กองทัพเตรียมพร้อมตรึงกำลังแนวชายแดน ลั่นไม่ยอมใคร ยืนยันไทยเริ่มต้นจากสันติ ชี้หากประกาศกฏอัยการศึก แม่ทัพภาค 2 มีอำนาจสั่งได้ทันที นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการลงพื้นที่ชายแดน ไทย-กัมพูชา บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานีเมื่อวานนี้ ว่า ตนได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่สอง ถึงข้อมูลที่ออกไปในปัจจุบัน ผิดไปจากสิ่งที่เป็นอยู่ ในปัจจุบันมากพอสมควร จึงอยากให้ระมัดระวังเรื่องข้อมูลข่าวสาร ยืนยันว่า ในพื้นที่ไม่ได้มีการวางทุ่นระเบิด จะเป็นภาพเก่าในอดีต ซึ่งตนมองว่าเป็นการสร้างความสับสน และทำลายศรัทธาความร่วมมือของประชาชน นายภูมิธรรม กล่าวถึงการรุกล้ำ 200 เมตร ว่า ทั้งหมดนี้อยู่ที่คณะกรรมการ JBC ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่ชายแดนกำหนดแต่ละฝ่ายมีจุดที่ค่อมกัน ดังนั้นจึงกำหนดให้เป็น […]

ดรามานิติไล่ไรเดอร์รับลูกค้าหน้าคอนโดฯ

5 มิ.ย. – สาวเรียกรถผ่านแอปฯ มารับหน้าคอนโดฯ หัวหน้าวินมอเตอร์ไซค์ถือวิทยุสื่อสารพร้อมไล่ให้ลงรถ ขู่ไม่อนุญาตให้เรียกรถผ่านแอปฯ ด้านไรเดอร์รู้ข่าวบุกรวมตัว ลั่นถ้าคู่กรณีไม่ออกมาก็อย่าหวังว่าแยกย้าย คลิปจากผู้โดยสารคนหนึ่งถ่ายไว้ขณะเรียกรถมารับบริเวณด้านหน้าคอนโดฯ ย่านสาทร แต่กลับถูกชายรายหนึ่งถือวิทยุสื่อสาร ไล่ให้ลงจากรถ พร้อมพูดขู่ว่าไม่ใช่วินห้ามเข้า แฟนเพจเฟซบุ๊กอยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 6 ได้รับเรื่องร้องเรียนจากลูกบ้านคอนโดฯ แห่งหนึ่ง โพสต์ไว้หลังจากเรียกรถผ่านแอปพลิเคชัน แต่กลับถูกขัดขวาง ระบุว่า “เราได้เรียกรถจักรยานยนต์ผ่านแอปพลิเคชันเพื่อไปทำงานตามปกติ แต่มีชายคนหนึ่ง (คาดว่าเป็นวินในหมู่บ้าน มีวิทยุสื่อสารด้วย) เข้ามาไล่ให้ลงจากรถ พร้อมพูดในลักษณะข่มขู่ว่า “ไม่ให้เรียกผ่านแอปฯ เพราะที่นี่มีวินอยู่แล้ว” และยังไล่คนขับกลับไปทันที เหตุการณ์นี้ทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัยและเสียเวลาในการเดินทาง รบกวนช่วยตรวจสอบ ขอความชัดเจนว่าในหมู่บ้านมีข้อกำหนดห้ามเรียกรถผ่านแอปฯ หรือไม่ หากมีรบกวนขอเอกสารหรือประกาศที่เป็นทางการด้วย หากไม่มีรบกวนช่วยดำเนินการกับบุคคลดังกล่าว เพราะพฤติกรรมที่เกิดขึ้นเข้าข่ายคุกคามและไม่เหมาะสม” หลังจากโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ ปรารกฏว่าวานนี้ (4 มิ.ย.) มีไรเดอร์จำนวนมานัดรวมตัวกันและเดินทางไปยังคอนโดฯ ดังกล่าว โดยมีตำรวจเข้ามาพูดคุย ขณะที่ทางตัวแทนไรเดอร์ระบุว่า ถ้าคู่กรณีไม่ออกมาก็อย่าหวังว่าแยกย้าย และนิติคอนโดฯ ต้องออกมาพูดให้ชัดเจนว่าไรเดอร์เข้าไปรับผู้โดยสารได้ไหม” ต่อมาที่ สน.บางขุนเทียน เจ้าหน้าที่เรียกตัวนายพงษ์ อายุ 52 […]

คนขับหลับใน รถทัวร์เสียหลักตกร่องถนน ดับ 2 สาหัส 5

ประจวบคีรีขันธ์ 4 มิ.ย. – รถทัวร์ตกร่องกลางถนนชนเสาไฟ บนถนนเพชรเกษม อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ผู้โดยสารเสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บสาหัส 5 คน คนขับยอมรับหลับใน วงจรปิดจับภาพขณะเกิดเหตุรถทัวร์ขับมาดีๆ จู่ๆ ไถลลงร่องกลางถนน โดยไม่มีคู่กรณี เหตุเกิดประมาณตี 04.30 น.ที่ผ่านมา (4 มิ.ย.) บนถนนเพชรเกษม บริเวณหน้าค่ายพระมงกุฎเกล้า อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ รถที่เกิดเหตุเป็นรถบัสโดยสารปรับอากาศ สายระยอง-มุกดาหาร พลิกตะแคงอยู่ในร่องกลาง มีร่องรอยชนกับเสาไฟและการ์ดเลนถนน สภาพรถด้านหน้าพังยับเยิน กระจกหน้าและด้านข้างแตกร้าว หลังคาฉีกขาด ที่เกิดเหตุมีผู้เสียชีวิต 2 คน เป็นชาย และอาการสาหัส 5 คน นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บอีกจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ปฐมพยาบาลเบื้องต้นและเร่งนำตัวนำส่งโรงพยาบาล ขณะที่ผู้โดยสารต่างอยู่ในอาการตกใจ บอกว่าก่อนเกิดเหตุรู้สึกว่ารถส่ายไปมา คนขับรถคือ นายทศพร อายุ 51 ปี ให้การว่า ในรถมีผู้โดยสารรวมคนขับแล้ว 28 คน รับผู้โดยสารจาก จ.ระยอง […]

ข่าวแนะนำ

รวมพลังหยุดเหมืองพิษ คืนชีวิตคนลุ่มน้ำชายแดน

5 มิ.ย. – วันนี้เป็นวันสิ่งแวดล้อมโลก ซึ่งขณะนี้ผู้คนตามลุ่มน้ำชายแดนไทย-เมียนมา ทางภาคเหนือของไทย กำลังเผชิญกับวิกฤติสิ่งแวดล้อม หลัง 2 เดือนมานี้พบสารหนูปนเปื้อนเกินมาตรฐานในลำน้ำกกและน้ำสาย รวมถึงแม่น้ำรวกและแม่น้ำโขง เชื่อว่าเป็นผลมาจากการทำเหมืองแร่หลายแห่งบริเวณต้นน้ำในเมียนมา วันนี้ชาวเชียงใหม่และเชียงราย ร่วมกันออกมาแสดงพลังเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ โดยเฉพาะการเจรจาให้หยุดเหมืองพิษและคืนชีวิตให้กับลุ่มน้ำต่างๆ .-สำนักข่าวไทย

แฉชนวนเหตุ ไรเดอร์บุกยิงดับ 2 ศพคา รพ.

ปทุมธานี 5 มิ.ย. – จากเหตุระทึกขวัญที่ลาดหลุมแก้ว ปทุมธานี เมื่อคืนที่ผ่านมา ไรเดอร์บุกยิงคนถึงในบ้าน แล้วยังขับรถตามไปยิงซ้ำที่โรงพยาบาลจนเสียชีวิต วันนี้ตำรวจจับกุมตัวได้แล้ว ชนวนเหตุมาจากอะไร ติดตามจากรายงาน.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ โพสต์หารือประเมินปมชายแดนไทย-กัมพูชา

ทำเนียบ 5 มิ.ย.-นายกฯ โพสต์หารือประเมินปมชายแดนไทย-กัมพูชา ยึดหลักการสันติวิธี ยันไทยไม่ยอมรับอำนาจศาลโลก ชี้ต้องคุยเฉพาะพื้นที่เป็นปัญหา ไม่ขยายประเด็น นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ถึงการหารือสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า “จากกรณีที่ทางรัฐบาลกัมพูชาออกแถลงการณ์เกี่ยวกับสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ดิฉันได้หารือร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ และท่านรองนายกรัฐมนตรี นายภูมิธรรม เวชยชัย ซึ่งได้โทรศัพท์เข้ามารายงานเรื่องการลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ ณ จังหวัดอุบลราชธานี อย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินภาพรวมอย่างรอบด้าน รัฐบาลไทยขอยืนยันในหลักการแก้ไขปัญหาด้วยแนวทางสันติวิธี ภายใต้ความเคารพในอธิปไตยและดินแดนของกันและกัน ในกรณีที่กัมพูชาประสงค์จะเสนอให้ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) เข้ามามีบทบาท รัฐบาลไทยขอเรียนว่า ประเทศไทยไม่ได้ให้การยอมรับเขตอำนาจศาล ICJ ในกรณีพิพาทต่างๆ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2503 จนถึงปัจจุบัน และขอย้ำว่า ประเด็นที่เกิดขึ้นควรได้รับการแก้ไขปัญหาในบริเวณที่มีการกระทบกระทั่งกันเท่านั้น ไม่ขยายประเด็นปัญหาออกไป ประเทศไทยยังยึดมั่นในกลไกการหารือทวิภาคีที่ทั้งสองฝ่ายตกลงกันไว้มาโดยตลอด เพื่อรักษาความสัมพันธ์อันดีระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศค่ะ.-315.-สำนักข่าวไทย

ไทยไม่ยอมรับเขตอำนาจศาลโลก ย้ำขอใช้กรอบ JBC

ทำเนียบ 5 มิ.ย.-รัฐบาลออกแถลงการณ์กรณีไทย-กัมพูชา ยืนยันประเทศไทยไม่ยอมรับเขตอำนาจศาลโลกมาตั้งแต่ พ.ศ. 2503 จนถึงปัจจุบันแล้ว ย้ำขอใช้กรอบ JBC ในทุกระดับแก้ปัญหาระหว่างกัน นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ภายหลังเกิดแหตุการณ์ที่บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมานั้น เวลา 16.30 น. รัฐบาลได้ออกแถลงการณ์กรณีดังกล่าว เป็นฉบับที่ 2 ดังนี้ นับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ปะทะที่บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 ทั้งสองฝ่ายได้หารือและตกลงกันที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา ได้แก่ คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (Joint Border Commission: JBC) คณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา (General Border Committee: GBC) และคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (Regional Border Committee: RBC) บนพื้นฐานของความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างไทย-กัมพูชา ซึ่งเป็นผลมาจากการหารือระหว่างผู้บัญชาการทหารบกของทั้งสองฝ่าย เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม […]