นครศรีฯ 5 ม.ค.-หลังพายุปาบึกผ่านพ้นไป สร้างความเสียหายให้กับชาวบ้านชายฝั่งในพื้นที่ อ.ปากพนังอย่างมาก ในขณะนี้ความช่วยเหลือจากหลายหน่วยงานกำลังทยอยเข้าถึงชาวบ้านผู้ประสบภัยในพื้นที่
ความรุนแรงจากพายุปาบึกที่พัดเข้าฝั่งบริเวณชายหาด อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช เมื่อวานนี้สร้างความเสียหายอย่างมาก บ้านเรือนของชาวบ้าน ชาวประมงริมชายฝั่งที่ปลูกติดกันในพื้นที่ม.2 และ ม.3 ต.แหลมตะลุมพุก อ.ปากพนัง กว่า 200 หลัง ถูกคลื่นซัดพังได้รับความเสียหาย
ตลื่นลมจากพายุพัดหอบเอาน้ำทะเล และทรายโคลน เข้ามาถมเต็มพื้นที่ ความแรงลม กระแสน้ำซัดตัวบ้านพัง และข้าวของเครื่องใช้กระจัดกระจาย เครื่องใช้ไฟฟ้าเสียหายทั้งหมด อวนเรือเครื่องมือประกอบอาชีพบางส่วนสูญหายไปกับทะเล หลังคาบ้านปลิวแตกกระจาย และยังไม่รู้ว่าจะนอนหลับได้อย่างไรในคืนนี้ ไม่ต่างจากคุณยายสมนึก แก้วศรีทอง วัย 76 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ ม.1 บ้านปลายทราย ต.ตะลุมพุก ที่ในวันนี้ได้กลับมาบ้าน หลังต้องอพยพออกไปอาศัยศูนย์อพยพชั่วคราวของทางการเมื่อ 2 วันก่อน และทันทีที่คุณยายเห็นความเสียหายภายในบ้าน คุณยายบอกว่ารู้สึกหดหู่ และเสียใจอย่างมาก
ตลอดทั้งวันนี้ เจ้าหน้าที่ทั้งฝ่ายปกครอง ตำรวจ และทหารจากกองทัพภาคที่ 4 ทยอยส่งความช่วยเหลือไปยังชาวบ้านแหลมตะลุมพุกอย่างต่อเนื่อง อาทิ การตัดต้นไม้ที่กีดขวางเส้นทางเป็นอันตราย เร่งซ่อมแซมกระแสไฟฟ้า โดยในช่วงบ่ายที่ผ่านมา แม่ทัพภาคที่ 4 พร้อมด้วยผู้ส่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ลงพื้นที่ให้ความชาวเหบือชาวบ้าน เปิดโรงครัวพระราชทาน นำจิตอาสาพระราชทานออกแจกจ่ายอาหาร น้ำดื่มบรรเทาความเดือดร้อนให้กับผู้ประสบภัย โดยยืนยันว่าขณะนี้กองทัพภาคที่ 4 ได้จัดเตรียมกำลังพล และอุปกรณ์ พร้อมในการช่วยเหลือฟื้นฟูผู้ประสบภัยทุกพื้นที่อย่างเต็มที่
สรุปความเสียหายในพื้นที่ อ.ปากพนัง ในขณะนี้เพียงตำบลเดียวคือที่แหลมตะลุมพุก มีบ้านเรือนได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมและวาตภัย พายุปาบึกแล้วกว่า 300 หลัง ในจำนวนนี้มีบ้านเรือนเสียหายทั้งหลังจำนวนมาก มีผู้เสียชีวิตแล้ว 1 คนจากการจมน้ำ ที่ต.คลองน้อย และมีชาวบ้านในเขตเทศบาลอีกกว่า 6,000 ครัวเรือนหรือ กว่า 20,000 คน ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมและน้ำทะเลหนุนสูง.-สำนักข่าวไทย