นครศรีฯอ่วม พิษปาบึก เร่งระบายน้ำท่วมขัง-ชาวบ้านเดือดร้อนหนัก

นครศรีฯ 5 ม.ค.-สถานการณ์ในพื้นที่ของตัวเมืองนครศรีธรรมราช ซึ่งอิทธิพลจากพายุปาบึก แม้จะเคลื่อนผ่านไปแล้ว แต่ก็ยังทำให้มีน้ำท่วมตามมาในวันนี้ โดยเฉพาะในพื้นที่ชั้นในของตัวเมืองนครศรีธรรมราช ทำให้มีชาวบ้านหลายร้อยหลังคาเรือนได้รับผลกระทบ 


ตั้งแต่ช่วงเที่ยงเป็นต้นมา น้ำจากเทือกเขาหลวงได้ไหลงมายังคีรีวงซึ่งเป็นพื้นที่ต้นน้ำก่อนจะไหลลมาท่วมในพื้นที่ถนนพัฒนาการคูขวาง ย่านการค้าและเศรษฐกิจของเมืองนคร โดยในพื้นที่ลุ่มต่ำระดับน้ำท่วมบ้านเรือนของชาวบ้าน ระดับความสูงราว 50 เซ็นติเมตร ขณะที่พื้นที่ต้นน้ำในคีรีวง อำเภอลานสกาเองคืนนี้ชาวบ้านยังต้องอยู่ท่ามกลางความมืด ไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้ หลังจากพายุปาบึกได้พัดถล่มเสาไฟฟ้าลมเป็นแนวยาวตั้งแต่วานนี้ 


ที่ถนนพัฒนาการคูขวางซึ่งเป็นที่ตั้งของร้านค้าหลายร้อยร้าน รวมถึงบ้านเรือนของประชาชนตามซอยต่างๆ ต้องจมอยู่ใต้น้ำหลังจากเมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมา น้ำจากเทือกเขาหลวงคีรีวงได้ไหลลงมาท่วมเต็มพื้นที่ของถนนพัฒนาการคูขวางเป็นระยะทางยาว ทำให้การจราจรติดขัด รถเคลื่อนที่ได้อย่างช้าๆ เนื้องจากน้ำมีความสูงตั้งแต่ 20-50 เซนติเมตรในพื้นที่ลุ่มต่ำ 


โดยน้ำท่วมในครั้งนี้เกิดจากผลกระทบของพายุปาบึกที่ได้เคลื่อนที่พัดถล่มจังหวัดนครศรีธรรมราชวานนี้ส่งผลให้มีฝนตกหนักนาย ปริญญา สักคะนายก ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานจังหวัดนครศรีธรรมราชระบุว่า วานนี้สามารถวัดปริมาณน้ำฝนได้สูงสุดถึง  606 ลูกบาศก์เมตร/วินาทีซึ่งมากกว่าช่วงกลางเดือนธันวาคมปีที่แล้ว ที่วัดได้ 514 ลูกบาศก์เมตร/วินาที ซึ่งครั้งนั้นทำให้มีน้ำท่วมสูงในพื้นที่ถนนพัฒนาการคูขวางมาแล้วรอบหนึ่ง

โดยขณะนี้ทางชลประทานได้เร่งผลักดันน้ำออกจากพื้นที่โดยติดตั้งเครื่องระบายน้ำ 18 เครื่อง เครื่องผลักดันน้ำ 17 เครื่อง เพื่อเร่งระบายน้ำที่ล้นยังล้นตลื่งคลองนครน้อย ลงสู่ทะเลให้ได้โดยเร็วที่สุด 

แต่ยังมีอุปสรรคสำคัญคือน้ำทะเลหนุนสูงประกอบกับมีเศษขยะจำนวนมากเข้าไปติดในเครื่องสูบน้ำและเครื่องระบายน้ำ ทำให้ต้องมีการหยุดเดินเครื่องเป็นระยะ อย่างไรก็ตามคาดว่าจะสามารถระบายน้ำออกจากพื้นที่บนถนนพัฒนาการคูขวางได้หมดภายในคืนนี้ ส่วนพื้นที่ลุ่มต่ำตามซอยต่างๆ อาจต้องใช้เวลาอีกราว 1-2 วัน

ขณะที่บรรยากาศในพื้นที่คีรีวง อำเภอลานสกาซึ่งเป็นพื้นที่ต้นน้ำ ล่าสุดน้ำลดระดับลงปกติแล้ว หลังจากชาวบ้านในพื้นที่บอกว่าวานนี้ น้ำนั้นสูงมากถึงระดับคอสะพาน นับเป็นภาพที่ไม่เคยปรากฏให้เห็นมาก่อน

โดยในพื้นที่คีรีวงเองมีชาวบ้านและผู้ประกอบการรีสอร์ทโฮมสเตย์จำนวนหลายรายได้รับผลกระทบจากความรุนแรงของพายุปาบึก ที่พัดต้นไม้หักโค่น ล้มทับบ้านและโฮมสเตย์หลายหลังจนต้องปิดให้บริการ เช่นเดียวกับ สวนผลไม้ทั้งทุเรียน มังคุด และยางพาราที่ถูกพายุปาบึก พัดถล่มชนิดถอนรากถอนโคนเสียหายเป็นวงกว้าง เสาไฟฟ้าในพื้นที่ก็ถูกลมพัดล้มระเนระนาดต่อเนื่องกันเป็นแนวยาว ชาวบ้านคีรีวงต้องอยู่แบบไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้ต่อเนื่องกันมาคืนนี้เป็นคืนที่ 2.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

Chinese foreign ministry in January 2025

ถอดบทเรียนจากจีน แก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 จริงจัง

ปักกิ่ง 23 ม.ค. – สถานการณ์ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่และเร่งด่วนในไทยอยู่ในขณะนี้ หลายฝ่ายกำลังหาทางแก้ไขด้วยการมุ่งไปที่ต้นตอที่ทำให้เกิดฝุ่น จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ในปี พ.ศ. 2542 ประชากรโลกมากถึง 92% ได้รับฝุ่น PM2.5 ในระดับความเข้มข้นสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกกำหนด และถ้ารัฐบาลทุกประเทศไม่เร่งแก้ปัญหาอย่างเอาจริงเอาจัง ภายในอีก 7 ปีข้างหน้า หรือ พ.ศ. 2573 คุณภาพชีวิตคนทั่วโลกจะยิ่งเลวร้ายสุดขีด เพราะปริมาณ PM2.5 จะเพิ่มขึ้นจากเดิม 50% และประเทศที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า หากรัฐบาลตั้งใจจริงจัง ทุ่มสรรพกำลังความพยายาม จะสามารถกำจัดปัญหาฝุ่นควันพิษได้อย่างแน่นอนนั่นก็คือ จีน   จีนเคยมีคนเสียชีวิตเพราะมลพิษในอากาศปีละหลายล้านคน แต่ทุกวันนี้แม้แต่ธนาคารโลกยังยกย่องจีนว่า เป็นแบบอย่างของความพยายาม สามารถพลิกฟ้าหม่นเพราะฝุ่น PM2.5 ให้กลับเป็นฟ้าใสได้สำเร็จ ความพยายามของเหมา เจ๋อตุง ผู้นำจีนที่มุ่งเปลี่ยนสังคมเกษตรกรรมเป็นสังคมอุตสาหกรรม ทำให้จำนวนโรงงานในจีนเพิ่มขึ้นทวีคูณภายใน พ.ศ. 2502 แน่นอนว่า นโยบายเศรษฐกิจของผู้นำจีนช่วยให้คนจีนหลายล้านหลุดพ้นจากขีดความยากจน แต่ก็ต้องแลกกับชีวิตและสุขภาพ เพราะควันพิษจากโรงงานทำให้ฝุ่น PM2.5 พุ่งในระดับเกินกว่าจะรับไหว กว่ารัฐบาลจะรู้ตัวว่าปัญหามาถึงขั้นวิกฤต […]

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ผู้ป่วยเสียชีวิต

รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก-เสียชีวิต จากเหตุชายผิวสีคลุ้มคลั่ง

ผอ.รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก หรือเสียชีวิต จากเหตุต่างชาติผิวสีคลุ้มคลั่ง มีเพียงเจ้าหน้าที่ รพ.บาดเจ็บจากการถูกต่อยเล็กน้อย

ข่าวแนะนำ

ตร.ทางหลวงไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าไทย

ระทึก! ตำรวจทางหลวงขับรถไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าว 2 คัน สุดท้ายไม่รอด จนมุมบริเวณ ต.หาดท่าเสา อ.เมือง จ.ชัยนาท ตรวจสอบพบแรงงานต่างด้าวจำนวนมาก จึงนำตัวทั้งหมด พร้อมกับคนขับรถทั้ง 2 คัน ส่งดำเนินคดีที่ สภ.เมืองชัยนาท

คุมพ่อชาวรัสเซียฝากขัง จับลูกชายวัย 13 โยนลงทะเลเสียชีวิต

ตำรวจคุมตัว “หนุ่มรัสเซีย” ฝากขัง หลังก่อเหตุโยนลูกวัย 13 ปี ออกจากเรือ บริเวณหมู่เกาะสุรินทร์ จ.พังงา จนถูกใบพัดเรือบาดเจ็บสาหัส ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา อ้างเสียความทรงจำ ไม่รู้ทำอะไรลงไป

ดีเอสไอจ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ สืบคดี “แตงโม”

ดีเอสไอ นำผู้เชี่ยวชาญหลายด้านเปิดประชุมนัดแรก ลุยสืบสวน “คดีแตงโม” จ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ หาพยานหลักฐานใหม่ และบินเก็บข้อมูลระบบ Cloud ในมือถือทุกคนบนเรือ-นอกเรือ

แก้ปัญหาฝุ่น

นายกฯ สั่งการด่วนคมนาคมออกมาตรการหยุด PM 2.5

นายกฯ สั่งการคมนาคมออกมาตรการเร่งด่วน หยุด PM 2.5 ให้ประชาชนนั่งรถไฟฟ้าทุกสาย-ขสมก.ฟรี 7 วัน 25-31 ม.ค.นี้ เตรียมใช้งบกลางกว่า 140 ล้านบาท ชดเชยผู้ประกอบการ เข้มตั้งจุดตรวจควันดำ 8 จุด รอบ กทม.-ปริมณฑล