หลายหน่วยงานระดมช่วยเหลือชาวใต้


กรุงเทพฯ 5 ม.ค. –หลายหน่วยงานระดมช่วยเหลือผู้ประภัยจาก”ปาบึก” ธ.ไทยพาณิชย์เปิดบัญชีร่วมบริจาค,กฟภ.ร่วมส่งถุงยังชีพ ,เอสซีจีขายวัสดุก่อสร้างราคาพิเศษ กระทรวงพาณิชย์นำคาราวานสินค้าลงพื้นที่


            วันนี้  นายสมพงษ์  ปรีเปรม ผู้ว่าการ     การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) และพนักงานจิตอาสา PEA จัดถุงยังชีพช่วยผู้ประสบภัย จากพายุโซนร้อน “ปาบึก” ร่วมกันจัดถุงยังชีพในเบื้องต้นจำนวน 1,000 ถุง เพื่อจัดส่งไปยังสำนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคในพื้นที่ประสบภัย มอบให้ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน สำหรับการซ่อมแซมระบบไฟฟ้านั้น PEA ได้ระดมทีมซ่อมแซมระบบไฟฟ้าให้ประชาชนได้มีไฟฟ้าใช้อย่างเร็วที่สุด คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในวันที่ 6 มกราคม 2562 ประชาชนผู้ใช้ไฟฟ้าสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคในพื้นที่ และสายด่วน 1129 PEA Call Center ตลอด 24 ชั่วโมง

                 ด้านธนาคารไทยพาณิชย์ จัดกิจกรรมให้ความช่วยเหลือ         ภายใต้โครงการ “ช่วยผู้ประสบภัยกับไทยพาณิชย์” โดยผู้บริหารและพนักงานธนาคารฯ ในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชและสุราษฎร์ธานีได้ร่วมกับภาคีเครือข่ายจัดเตรียมและส่งมอบถุงยังชีพช่วยผู้ประสบภัยและในส่วนกลาง ในที่ 8 ม.ค.พนักงานจะร่วมเป็นอาสาสมัครจัดถุงยังชีพประทานของมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย จำนวน 5,800 ชุด และที่สำนักงานใหญ่ของธนาคารฯ จะจัดเตรียมถุงยังชีพเพิ่มเติมอีกจำนวน 2,000 ถุง เพื่อส่งมอบแก่กองทัพอากาศ กองทัพเรือ และกองทัพบก เพื่อเตรียมไปใช้บรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชนภาคใต้ที่ประสบภัยจากพายุ “ปาบึก” ต่อไป       


              นอกจากนี้ธนาคารฯ ได้เปิดช่องทางการรับบริจาคเพื่อนำไปช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ผู้ประสบภัยพายุ “ปาบึก” ผ่านช่องทางต่าง ๆ ของธนาคาร ดังนี้

1) บริจาคผ่านบัญชี “มูลนิธิสยามกัมมาจล-ไทยพาณิชย์เพื่อผู้ประสบภัย” เลขที่ 111-3-90911-5 ได้ทุกสาขาธนาคาร หรือทาง SCB Easy

2) บริจาคผ่านปุ่มรับบริจาคอัตโนมัติที่เครื่อง ATM ทั่วประเทศ โดยไม่เสียค่าธรรมเนียมโอนเงินข้ามเขต  

             จึงขอเชิญชวนลูกค้าประชาชนร่วมบริจาคผ่านช่องทางดังกล่าว ทั้งนี้สามารถขอรับใบเสร็จรับเงินเพื่อนำไปใช้ลดหย่อนภาษีได้ โดยระบุชื่อ-ที่อยู่ และเบอร์โทรศัพท์ในสำเนาหลักฐานการโอนเงิน แล้วส่ง Email มาที่ donation@scb.co.th หรือ Fax 02-544-1040 

              นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า “ปาบึก” (PABUK) ส่งผลกระทบหลายพื้นที่ ได้แก่ จังหวัดนครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี สงขลา และชุมพร ประชาชนได้รับความเดือดร้อน บ้านเรือนเสียหาย และขาดแคลนสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นต่อการครองชีพ จึงสั่งการให้กรมการค้าภายในประสานกับภาคเอกชน จัดหาสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นต่อการครองชีพ ได้แก่ ข้าวสาร ไข่ไก่ น้ำมันพืช ปลากระป๋อง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป รวมทั้งจัดหาสินค้าวัสดุก่อสร้าง เพื่อนำไปบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน โดยจะจัดคาราวานรถนำสินค้าอุปโภคบริโภค ลงไปในพื้นที่ประสบภัยในวันจันทร์ที่ 7 มกราคม 2562   และหากประชาชนต้องการซื้อสินค้าวัสดุก่อสร้างเพื่อนำไปซ่อมแซมบ้านเรือน ขอให้ไปติดต่อขอหนังสือรับรองที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดในท้องที่ เพื่อนำไปซื้อสินค้าวัสดุก่อสร้างราคาพิเศษจากร้านค้าในเครือบริษัท SCG ในพื้นที่

               “สั่งกำชับให้เจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและดูแลไม่ให้ประชาชนถูกเอารัดเอาเปรียบจากการฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้า และหากผู้บริโภคพบเห็นการปฏิเสธการจำหน่ายสินค้า กักตุนสินค้าหรือขายราคาสูงเกินสมควร ร้องเรียนสายด่วน กรมการค้าภายใน 1569  หากพบการกระทำผิดจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด”รมว.พาณิชย์กล่าว-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

Chinese foreign ministry in January 2025

ถอดบทเรียนจากจีน แก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 จริงจัง

ปักกิ่ง 23 ม.ค. – สถานการณ์ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่และเร่งด่วนในไทยอยู่ในขณะนี้ หลายฝ่ายกำลังหาทางแก้ไขด้วยการมุ่งไปที่ต้นตอที่ทำให้เกิดฝุ่น จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ในปี พ.ศ. 2542 ประชากรโลกมากถึง 92% ได้รับฝุ่น PM2.5 ในระดับความเข้มข้นสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกกำหนด และถ้ารัฐบาลทุกประเทศไม่เร่งแก้ปัญหาอย่างเอาจริงเอาจัง ภายในอีก 7 ปีข้างหน้า หรือ พ.ศ. 2573 คุณภาพชีวิตคนทั่วโลกจะยิ่งเลวร้ายสุดขีด เพราะปริมาณ PM2.5 จะเพิ่มขึ้นจากเดิม 50% และประเทศที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า หากรัฐบาลตั้งใจจริงจัง ทุ่มสรรพกำลังความพยายาม จะสามารถกำจัดปัญหาฝุ่นควันพิษได้อย่างแน่นอนนั่นก็คือ จีน   จีนเคยมีคนเสียชีวิตเพราะมลพิษในอากาศปีละหลายล้านคน แต่ทุกวันนี้แม้แต่ธนาคารโลกยังยกย่องจีนว่า เป็นแบบอย่างของความพยายาม สามารถพลิกฟ้าหม่นเพราะฝุ่น PM2.5 ให้กลับเป็นฟ้าใสได้สำเร็จ ความพยายามของเหมา เจ๋อตุง ผู้นำจีนที่มุ่งเปลี่ยนสังคมเกษตรกรรมเป็นสังคมอุตสาหกรรม ทำให้จำนวนโรงงานในจีนเพิ่มขึ้นทวีคูณภายใน พ.ศ. 2502 แน่นอนว่า นโยบายเศรษฐกิจของผู้นำจีนช่วยให้คนจีนหลายล้านหลุดพ้นจากขีดความยากจน แต่ก็ต้องแลกกับชีวิตและสุขภาพ เพราะควันพิษจากโรงงานทำให้ฝุ่น PM2.5 พุ่งในระดับเกินกว่าจะรับไหว กว่ารัฐบาลจะรู้ตัวว่าปัญหามาถึงขั้นวิกฤต […]

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ผู้ป่วยเสียชีวิต

รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก-เสียชีวิต จากเหตุชายผิวสีคลุ้มคลั่ง

ผอ.รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก หรือเสียชีวิต จากเหตุต่างชาติผิวสีคลุ้มคลั่ง มีเพียงเจ้าหน้าที่ รพ.บาดเจ็บจากการถูกต่อยเล็กน้อย

ข่าวแนะนำ

ตร.ทางหลวงไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าไทย

ระทึก! ตำรวจทางหลวงขับรถไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าว 2 คัน สุดท้ายไม่รอด จนมุมบริเวณ ต.หาดท่าเสา อ.เมือง จ.ชัยนาท ตรวจสอบพบแรงงานต่างด้าวจำนวนมาก จึงนำตัวทั้งหมด พร้อมกับคนขับรถทั้ง 2 คัน ส่งดำเนินคดีที่ สภ.เมืองชัยนาท

คุมพ่อชาวรัสเซียฝากขัง จับลูกชายวัย 13 โยนลงทะเลเสียชีวิต

ตำรวจคุมตัว “หนุ่มรัสเซีย” ฝากขัง หลังก่อเหตุโยนลูกวัย 13 ปี ออกจากเรือ บริเวณหมู่เกาะสุรินทร์ จ.พังงา จนถูกใบพัดเรือบาดเจ็บสาหัส ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา อ้างเสียความทรงจำ ไม่รู้ทำอะไรลงไป

ดีเอสไอจ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ สืบคดี “แตงโม”

ดีเอสไอ นำผู้เชี่ยวชาญหลายด้านเปิดประชุมนัดแรก ลุยสืบสวน “คดีแตงโม” จ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ หาพยานหลักฐานใหม่ และบินเก็บข้อมูลระบบ Cloud ในมือถือทุกคนบนเรือ-นอกเรือ

แก้ปัญหาฝุ่น

นายกฯ สั่งการด่วนคมนาคมออกมาตรการหยุด PM 2.5

นายกฯ สั่งการคมนาคมออกมาตรการเร่งด่วน หยุด PM 2.5 ให้ประชาชนนั่งรถไฟฟ้าทุกสาย-ขสมก.ฟรี 7 วัน 25-31 ม.ค.นี้ เตรียมใช้งบกลางกว่า 140 ล้านบาท ชดเชยผู้ประกอบการ เข้มตั้งจุดตรวจควันดำ 8 จุด รอบ กทม.-ปริมณฑล