สุราษฎร์ธานี 5 ม.ค.- น้ำป่าไหลหลากจากนครศรีธรรมราชมาถึงสุราษฎร์ธานี ชาวบ้านในพื้นที่อำเภอรอยต่อได้รับผลกระทบหลายร้อยหลังคาเรือน โดยเฉพาะพื้นที่หมู่ 6 ต.ดอนสัก อ.ดอนสัก จ.สุราษฎร์ธานี ระดับน้ำบางจุดสูงถึงเกือบเมตรครึ่ง ขณะที่ท่าเรือโดยสารที่จะข้ามไปยังเกาะสมุย ซึ่งมีอยู่ 2 แห่ง เริ่มเปิดบริการอีกครั้ง
นี่เป็นสภาพบ้านเรือนในพื้นที่หมู่ 6 ตำบลดอนสัก อ.ดอนสัก ที่ได้รับผลกระทบจากพายุปาบึก ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ มีอยู่ทั้งหมด 137 หลังคาเรือน น้ำหลากเข้าท่วมบ้านเรือน สวนปาล์ม สวนยางพารา เมื่อคืนที่ผ่านมา โดยเป็นพื้นที่รับน้ำจาก อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช ไหลผ่าน อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี ไหลมายัง อ.ดอนสัก มาตามคลองธาตุทอง ก่อนเอ่อเข้าท่วมบ้านเรือนริม 2 ฝั่งคลอง บางจุดระดับน้ำท่วมสูงถึงเมตรครึ่ง กระแสน้ำยังไหลแรง ชาวบ้านบางส่วนอพยพออกไปก่อนหน้านี้แล้ว แต่บางหลังที่บ้านยกสูงยังคงอาศัยอยู่ภายในบ้าน โดยประชาชนนำรถมาจอดไว้ริมถนนที่น้ำท่วมไม่ถึง รวมทั้งน้ำทรัพย์สิน และสัตว์เลี้ยงมาเก็บไว้บนรถด้วย
ชาวบ้านที่นี่ส่วนใหญ่ทำสวนปาล์ม ยางพารา ซึ่งก็ได้รับความเสียหายเช่นกัน โดยเฉพาะสวนปาล์ม ประมาณ 700-800 ไร่ แต่ว่าที่เสียหายหนักคือสวนปาล์มที่กำลังโต อายุ 3 ปี สูงประมาณ 1 เมตรครึ่ง ถูกน้ำท่วมเสียหายหลายร้อยไร่
น้ำป่ายังทำให้เส้นทางสัญจรเชื่อมระหว่างหมู่บ้าน บ้านชลคราม และบ้านไชยคราม สัญจรไม่ได้ ชาวบ้านต้องเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่น ตอนนี้เจ้าหน้าที่เข้ามาให้ความช่วยเหลือชาวบ้านแล้ว
ขณะที่ท่าเรือโดยสารที่จะข้ามไปยังเกาะสมุย ซึ่งมีอยู่ 2 แห่ง วันนี้จะเริ่มเปิดทำการอีกครั้ง โดยผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานีออกประกาศให้เรือโดยสาร เรือเฟอร์รี่ เปิดทำการได้ ตั้งแต่เวลา 12.00 น. แต่เรือเล็กยังห้ามออกจากฝั่ง หลังมีประกาศ ท่าเรือที่จะข้ามจากเกาะสมุยมีกำหนดออกจากท่าเรือแล้ว โดยเรือโดยสารส่วนใหญ่ ที่ไปหลบลมหลังเกาะสมุย จะรับผู้โดยสารจากเกาะสมุยเที่ยวแรก เวลา 12.00 น. ส่วนท่าเรือโดยท่าเรือราชาจะเริ่มเปิดเดินเรือเที่ยวแรก เวลา 14.00 น.
อย่างไรก็ตาม สำหรับเรือที่เห็นเดินทางกลับเข้าฝั่ง ก่อนเวลา 12.00 น. เป็นเรือที่ไปหลบลมอยู่บริเวณปากน้ำธาตุทอง หรือปากน้ำ อ.เมือง ซึ่งเป็นจุดที่ไม่ได้รับผลกระทบ แล้วเตรียมนำเรือกลับมารอรับผู้โดยสารข้ามไปเกาะสมุย.-สำนักข่าวไทย