ภูมิภาค 3 ม.ค. – เกาะติดพายุปาบึก คาดขึ้นฝั่งพรุ่งนี้ หลายจังหวัดเร่งอพยพชาวบ้าน สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส แจ้งยกเลิกทุกเที่ยวบินที่เข้า-ออกเกาะสมุยแล้ว
กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสุราษฎร์ธานี ห้ามเรือทุกชนิดออกจากฝั่ง ตั้งแต่วันที่ 3 ม.ค.62 เวลา 24.00 น.ถึงวันที่ 5 ม.ค.62 เวลา 10.00 น.เพื่อเลี่ยงผลกระทบจากพายุ “ปาบึก” ดังนั้น บริษัทท่าเรือราชาเฟอร์รี่ จำกัด (มหาชน) จึงของดให้บริการเดินเรือ วันที่ 4 ม.ค.62 งดให้บริการเดินเรือตลอดทั้งวัน วันที่ 5 ม.ค.62 งดให้บริการเดินเรือตั้งแต่เวลา 05.00-10.00 น.หรือติดต่อที่ Call Center 02-2768211-2
นายสมศักดิ์ ห่มม่วง อธิบดีกรมเจ้าท่า กล่าวว่า สั่งให้จัดตั้งศูนย์ความปลอดภัยและช่วยเหลือผู้ประสบภัยพายุปาบึก รวมทั้งออกประกาศแจ้งเรืองดการเดินเรือ รวมถึงแจ้งให้เรือจอดในบริเวณที่มีกำบังคลื่นลม รวมทั้งเตรียมความพร้อมเรือตรวจการณ์ 130 ฟุต บริเวณท่าเรือจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เรือตรวจการณ์ 80 ฟุต บริเวณเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี
สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส มีการแจ้งยกเลิกทุกเที่ยวบินที่เข้าและออกจากเกาะสมุย ในวันที่ 4 ม.ค.62 ผู้โดยสารที่ได้รับผลกระทบจากการยกเลิกเที่ยวบิน ของวันที่ 4 ม.ค.62 สามารถติดต่อเพื่อขอเปลี่ยนแปลงการเดินทางได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และสามารถตรวจสอบสถานะเที่ยวบินได้ตลอด 24 ชั่วโมงที่ศูนย์บริการลูกค้า โทร 1771
ส่วนทางการบินไทย แจ้งว่า จะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และจะประกาศให้ทราบโดยเร็วที่สุด หากเกิดผลกระทบต่อเที่ยวบิน กรุงเทพ-กระบี่ และ กรุงเทพ-ภูเก็ต ขอให้ผู้โดยสารที่มีกำหนดการเดินทางวันที่ 3-5 ม.ค.62 ตรวจสอบตารางบินที่ 02-356-1111 ตลอด 24 ชั่วโมง
ด้านอธิบดีกรมท่าอากาศยาน สั่งท่าอากาศยานสุราษฎร์ธานี ชุมพร นครศรีธรรมราช ระนอง กระบี่ ตรัง และนราธิวาส จัดตั้งศูนย์ปฏิการกลาง หากมีผลกระทบต่อเที่ยวบินที่จะทำการขึ้นลงจะหารือกับสายการบินนั้นๆ เพื่อปรับเที่ยวบินหรือยกเลิกตามความเหมาะสม เตรียมอุปกรณ์อำนวยความสะดวก เช่น รถยกสูง หรือ เรือลำเลียงพร้อมที่จะลำเลียงออกนอกพื้นที่ ให้ปรับพื้นที่อาคารให้เป็นที่รองรับเพื่อพักอาศัยชั่วคราว ได้ออกประกาศขอความร่วมมือผู้โดยสารและผู้มาใช้บริการท่าอากาศยาน “ห้ามจอดรถค้างคืน” บริเวณลานจอดรถ
ด้านการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สั่งพื้นที่เสี่ยงติดตามสถานการณ์ “พายุปาบึก” อย่างใกล้ชิด นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ให้ ททท.พื้นที่ประเมินความเสี่ยงและแนวทางแก้ไข หากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน พร้อมกับประสานความร่วมมือกับทุกหน่วยงานในการดูแลนักท่องเที่ยวอย่างเต็มที่
ส่วนผลกระทบด้านการท่องเที่ยวนั้นถือว่ายังไม่มีผลกระทบ มีบางที่นักท่องเที่ยวขอเช็กเอาท์ออกจากเกาะสมุย แต่มีเพียง 1-2 รายเท่านั้น ส่วนที่เกาะเต่า ได้รับรายงานว่า เรือลมพระยานำผู้โดยสารออกจากเกาะวันนี้ 4 ลำแล้ว และที่จังหวัดนราธิวาส ยะลา ปัตตานี มีฝนตกปานกลางถึงหนัก มีลมเล็กน้อย ยังไม่มีรายงานผลกระทบรุนแรง
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่ายังไม่จำเป็นต้องตั้งศูนย์เฉพาะกิจขึ้นมาเฉพาะ เพราะในแต่ละพื้นที่ดูแลสถานการณ์อย่างใกล้ชิดอยู่แล้ว และเชื่อว่าพายุปาปึกจะไม่ยืดเยื้อรุนแรง และปัจจุบันเครื่องมือมีความทันสมัย ทำให้แก้ปัญหารวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ
ขณะเดียวกันก็มีการสำรองน้ำมันเต็มที่ ด้านบริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) แจ้งเตือนต่อสถานีบริการน้ำมัน ปตท. ทั้ง 270 แห่งในภาคใต้ สำรองทั้งน้ำมัน สำรองสินค้า ในปั๊มทั้งร้านค้าสะดวกซื้อและอื่นๆ ให้เพียงพอ เพื่อบริการประชาชน ส่วนกระทรวงพลังงานได้จัดตั้งวอร์สั่งการให้ผู้ค้าน้ำมัน สำรองน้ำมันและจัดส่งให้เพียงพอ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่อาจได้รับผลกระทบจากสถานการณ์พายุ ในขณะที่ กฟผ. มีมาตรการเฝ้าระวัง และสำรองน้ำมัน เพื่อทดแทนก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทย คือ แหล่งบงกชที่หยุดผลิต รวมถึงการนำเข้าไฟฟ้าพลังน้ำจาก สปป ลาว ในปริมาณสูงสุด และได้ประสานกับประเทศมาเลเซียเพื่อขอซื้อไฟฟ้าในกรณีฉุกเฉิน
ส่วนผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือเตรียมพร้อมโครงข่ายรับมือฉุกเฉิน พร้อมส่งรถโมบายล์ลงพื้นที่ภาคใต้ให้บริการสื่อสารเพิ่มเติม จัดเตรียมเครื่องปั่นไฟฟ้าฉุกเฉิน และเตรียมน้ำมันสำรองไว้สำหรับกรณีที่มีการตัดกระแสไฟฟ้า ตลอดจนเตรียมจัดตั้งวอร์รูม เพื่อเป็นศูนย์ประสานงานกับทุกหน่วยงาน เกาะติดสถานการณ์พายุปาบึก ดังนั้นขอให้ประชาชนติดตามข่าวสารใกล้ชิด .- สำนักข่าวไทย