กรมชลฯ เตรียมรับสถานการณ์น้ำจากปาบึก

กรุงเทพฯ 3 ม.ค. – กรมชลประทานเตรียมพร้อมรับสถานการณ์น้ำจากพายุปาบึก คาดขึ้นฝั่งที่จังหวัดนครศรีธรรมราชค่ำพรุ่งนี้


นายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวถึงประกาศฉบับล่าสุดของกรมอุตุนิยมวิทยาที่ระบุว่า ทิศทางเคลื่อนตัวของพายุจะปรับลงกว่าที่คาดการณ์ไว้เดิมเล็กน้อย จากที่ประเมินว่าจะขึ้นฝั่งอ่าวไทยบริเวณรอยต่อจังหวัดชุมพรและสุราษฎร์ธานี ขณะนี้คาดการณ์ว่าจะขึ้นฝั่งที่จังหวัดนครศรีธรรมราชค่ำวันพรุ่งนี้ (4 ม.ค.) ซึ่งกรมชลประทานพร้อมรับสถานการณ์อย่างเต็มที่ เนื่องจากได้วางแผนไว้ล่วงหน้าแล้ว แม้ว่าทิศทางการเคลื่อนตัวของพายุจะขยับไปขึ้นฝั่งที่จังหวัดใดก็ตาม 

สำหรับจังหวัดนครศรีธรรมราชมีพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยและดินโคลนถล่ม  95 แห่ง โดยพื้นที่เฝ้าระวังในความรับผิดชอบของกรมชลประทาน 6 จุดในอำเภอเชียรใหญ่ ชะอวด ลุ่มน้ำปากพนังตอนล่าง ร่อนพิบูลย์ หัวไทร เฉลิมพระเกียรติ และอำเภอเมือง


ส่วนพื้นที่เตือนภัยน้ำหลาก-ดินถล่ม ซึ่งกรมทรัพยากรน้ำรับผิดชอบมี  51 แห่ง ใน 188 หมู่บ้านได้แก่ อำเภอลานสกา 4 แห่ง ฉวาง 5 แห่ง ท่าศาลา 2 แห่ง พิปูน 7 แห่ง พรหมคีรี 2 แห่ง สิชล 2 แห่ง ร่อนพิบูลย์ 3 แห่ง  บางขัน 4 แห่ง นบพิตำ 3 แห่ง จุฬาภรณ์ 1 แห่ง ทุ่งสง 5 แห่ง ขนอม 2 แห่ง ช้างกลาง 2 แห่ง และอำเภอเมือง 1 แห่ง และพื้นที่เสี่ยงน้ำหลาก-ดินถล่ม ซึ่งรับผิดชอบโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) 29 แห่ง โดยพื้นที่เสี่ยงน้ำหลากได้แก่ อำเภอชะอวด 10 แห่ง บางขัน 2 แห่ง หัวไทร 4 แห่ง เชียรใหญ่ 1 แห่ง จุฬาภรณ์  2 แห่ง ช้างกลาง 1 แห่ง ทุ่งสง 3 แห่ง และร่อนพิบูลย์ 2 แห่ง อีกทั้งมีพื้นที่เสี่ยงดินโคลนถล่ม 6 แห่งในอำเภอร่อนพิบูลย์ ทุ่งสง ช้างกลาง ลานสกา นบพิตำ และสิชล

นายทองเปลว กล่าวเพิ่มเติมว่า จังหวัดนครศรีธรรมราชเป็นจุดพักหลักเครื่องจักรกลของสำนักงานโครงการชลประทานที่ 15 มีทั้งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ เครื่องผลักดันน้ำ รถขุด รถแทรกเตอร์ รถบรรทุก และเครื่องจักร-เครื่องมืออื่น ๆ เตรียมไว้จำนวนมาก ขณะนี้ได้นำเครื่องสูบน้ำไปติดตั้งตามพื้นที่ลุ่มต่ำ นำเครื่องผลักดันน้ำไปติดตั้งในลำน้ำ เพื่อเร่งพร่องน้ำในลำน้ำต่าง ๆ ส่วนสิ่งกีดขวางทางน้ำได้ดำเนินการไว้ล่วงหน้าแล้วทั้งขุดลอก ขยายทางน้ำ ทำคลองลัดเพื่อเร่งระบายน้ำออกทะเล ซึ่งจะทำให้ลำน้ำต่าง ๆ มีพื้นที่รองรับน้ำจากฝนที่จะตกหนัก ส่วนในอ่างเก็บน้ำขนาดเล็กและขนาดกลางได้พร่องน้ำไว้แล้ว


สำหรับพื้นที่เขตเมืองนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นเขตชุมชนและเขตเศรษฐกิจสำคัญนั้น กรมชลประทานได้เร่งดำเนินโครงการบรรเทาอุทกภัยเมืองนครศรีธรรมราช-อันเนื่องมาจากพระราชดำริ  เป็นโครงการที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชบรมนาถบพิตร ทรงพระราชทานแนวทางแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช  เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่ตั้งอยู่ระหว่างเทือกเขาหลวงและอ่าวไทย มีลักษณะพื้นที่ทอดยาวขวางทิศทางการไหลของน้ำ เมื่อเกิดฝนตกหนักบริเวณเทือกเขานครศรีธรรมราช น้ำจะไหลผ่านเมืองลงทะเล แต่ระบบการระบายน้ำผ่านคลองท่าดีลงสู่คลองท่าชักและคลองท่าเรือออกสู่ทะเล มีขีดความสามารถในการระบายได้เพียง 268 ลบ.ม./วินาที แต่มีปริมาณน้ำที่ต้องระบายถึง 750 ลบ.ม./วินาที อักทั้งมีสิ่งกีดขวางทางน้ำ ทำให้น้ำเอ่อท่วมพื้นที่ เกิดอุทกภัยซ้ำซาก ส่งผลกระทบอย่างมากต่อชุมชนและเศรษฐกิจของเมืองนครศรีธรรมราช

 กรมชลประทานได้ทำการศึกษาความเหมาะสมในการแก้ไขและบรรเทาปัญหาอุทกภัยเมืองนครศรีธรรมราชแล้วเสร็จตั้งแต่ปี 2545  โดยจะครอบคลุมทั้งในและนอกเขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราชอย่างเป็นระบบ มีแผนการปรับปรุงระบบระบายน้ำ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ ด้วยการขุดคลองผันน้ำใหม่  3 สาย ความยาวประมาณ 18 กิโลเมตร พร้อมกับขุดขยายคลองเดิมคือ คลองวังวัว ความยาวประมาณ 5.90 กิโลเมตร และคลองท่าเรือ- หัวตรุด ความยาวประมาณ 11.90 กิโลเมตร นอกจากนี้ ยังมีการก่อสร้างประตูระบายน้ำอีก 7 แห่ง ซึ่งใช้ระยะเวลาในการก่อสร้าง 3 ปี (2561-2563) 

ปัจจุบันกรมชลประทานได้ดำเนินการเข้าไปปักหลักเขตชลประทานในส่วนของ คลองระบายน้ำสาย 3    คลองระบายน้ำหัวตรุด-ท่าเรือ คลองระบายน้ำคลองวังวัว คลองระบายน้ำสาย 2 และคลองระบายน้ำสาย 1(บางส่วน) เสร็จเรียบร้อยแล้ว และเริ่มงานก่อสร้างในส่วนของคลองระบายน้ำท่าเรือ-หัวตรุด งานเพิ่มประสิทธิภาพคลองท่าเรือ- หัวตรุด และงานก่อสร้างคลองระบายสาย 3 ช่วง กม.1+000-3+990 ซึ่งหากโครงการฯ แล้วเสร็จจะสามารถบรรเทาอุทกภัยในเขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราชและลดพื้นที่น้ำท่วมได้ร้อยละ 90 ครอบคลุมพื้นที่ 12 ตำบล ในเขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราชและพื้นที่ใกล้เคียง มีครัวเรือนได้รับประโยชน์ 32,253 ครัวเรือน ทั้งยังสามารถเก็บกักน้ำไว้ใช้ในช่วงฤดูแล้งได้ประมาณ 5.5 ล้าน ลบ.ม. และมีพื้นที่การเกษตรได้รับผลประโยชน์กว่า 17,400 ไร่.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สาวซิ่งรถหรูชนท้าย จยย. ทำแม่ลูกดับ 3 ศพ

แม่ขี่ จยย.ไปรับลูก 2 คน กลับจากเรียนพิเศษ ถูกสาวขับรถหรูซิ่งชนท้าย ร่างกระเด็นตกสะพานข้ามรางรถไฟ เสียชีวิตทั้ง 3 คน ส่วนผู้ก่อเหตุอุ้มแมว ทิ้งรถ หลบหนีไป

ปิดล้อมล่ามือปืนคลั่งสังหาร 3 ศพ

ตำรวจเร่งไล่ล่ามือปืนคลั่งก่อเหตุยิง 3 ศพ ในพื้นที่ จ.หนองบัวลำภู ล่าสุดปิดล้อมพื้นที่กว่า 1,000 ไร่ รอยต่อ จ.เลย หลังพบเบาะแสคนร้ายหนีไปซ่อนตัว ขณะที่ชนวนสังหารยังไม่แน่ชัด

ลูกชายมือปืนคลั่งยิง 3 ศพ พาครอบครัวหนีตาย พ่อโพสต์ขู่ฆ่าล้างครัว

ลูกชายมือปืนคลั่งยิงดับ 3 ศพ ต้องพาภรรยาและลูก รวมถึงพ่อตา-แม่ยาย หนีไปอยู่ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง หลังพ่อโพสต์ข้อความขู่จะฆ่าล้างครัว เหตุจากปัญหาในครอบครัว

ชายคลั่งยิง3ศพ

ชายคลั่งยิงดับ 3 ศพ โผล่วัดที่ จ.เลย ขอข้าวกิน ก่อนหนีเข้าป่า

แม่ครัววัดภูคำเป้ ต.ผาสามยอด อ.เอราวัณ จ.เลย เผยพบชายคลั่งยิงดับ 3 ศพ เดินเข้ามาในวัดด้วยสภาพอิดโรย ขอข้าวกิน ลักษณะรีบกินเหมือนวิตกกังวล หลังกินเสร็จรีบเดินเข้าป่าหายไป ก่อนมาทราบภายหลังว่าเป็นผู้ก่อเหตุยิงคนเสียชีวิต

ข่าวแนะนำ

เตรียมรื้อถอนคานถล่ม ถ.พระราม 2-กู้ร่างผู้สูญหาย

ช่วงบ่ายนี้ (29 พ.ย.) จนท.กรมทางหลวง สภาวิศวกรรมสถาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมนำรถเครนรื้อถอนเหล็กถักที่ถล่มบน ถ.พระราม 2 โดย ปภ.สมุทรสาคร ไม่มั่นใจว่าการดำเนินการจะจบภายในวันเสาร์-อาทิตย์นี้หรือไม่

คานถล่มพระราม2

ตร.ทางหลวง แนะเลี่ยงถนนพระราม 2 หลังการจราจรเข้าขั้นวิกฤต

ตำรวจทางหลวง เผยการจราจรถนนพระราม 2 เข้าขั้นวิกฤต แนะเส้นทางเลี่ยงทั้งขาเข้าและขาออกกรุงเทพมหานคร ยังไม่ชัดเปิดการจราจรได้ตามปกติเมื่อใด

คานถล่มพระราม2

“สุริยะ” สั่งผู้รับเหมาหยุดก่อสร้าง ถนนพระราม 2 ตัดสิทธิ์รับงาน 2 ปี

“สุริยะ” รมว.คมนาคม เผยเย็นวันนี้เตรียมกลับไปตรวจสอบสาเหตุคานเหล็กก่อสร้างบนถนนพระราม 2 ถล่ม สั่งการผู้รับเหมาหยุดก่อสร้าง รวมทั้งตัดสิทธิ์รับงาน 2 ปี และขอให้เพิ่มความเข้มงวดมาตรการลดชั้นผู้รับเหมา เพื่อลดจำนวนอุบัติเหตุ

น้ำท่วมยะลา

น้ำท่วมยะลาวันที่ 3 ระดับน้ำเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง กระทบ 8 อำเภอ

วิกฤตน้ำท่วมยะลาวันที่ 3 ระดับน้ำเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ย่านการค้าเศรษฐกิจ พื้นที่รอบนอกยังอ่วม ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์อุทกภัย สรุปกระทบ 8 อำเภอ ประชาชนเดือดร้อน 131,685 คน