ขอหมายจับ”บอล บางแก้ว”จากไฟไหม้บ้านทำแฟนสาวตาย

กทม.3 ม.ค.- ตำรวจจ่อขอหมายจับ”บอล บางแก้ว”และผู้เกี่ยวข้องจากเหตุเพลิงไหม้บ้าน ทำแฟนสาวเสียชีวิตในพื้นที่ สภ.คูคต ปทุมธานี


 

นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม นำครอบครัวนางสาวสุภาณี สินอนันต์ตระกูล หรือ น้องเบนซ์ ผู้เสียชีวิตจากเหตุเพลิงไหม้บ้านนายพงษ์เพชร สินสุวรรณ์ หรือ บอล บางแก้ว เข้าขอความเป็นธรรมต่อ พลตำรวจเอกศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้ช่วยคลี่คลายคดีที่ผู้ตายมีบาดแผลก่อนเสียชีวิต และมีการเปลี่ยนแปลงที่เกิดเหตุ


นายบัญญัติ สินอนันต์ตระกูล พ่อน้องเบนซ์ กล่าวว่า ต้องการขอความเป็นธรรมต่อการเสียชีวิตของลูกสาว และทราบความจริงรวมทั้งรายละเอียดการเสียชีวิตที่แท้จริง 

นายอัจฉริยะ เพิ่มเติมว่า ทางครอบครัวสงสัยว่าผู้เสียชีวิตบาดเจ็บก่อนเสียชีวิต และสงสัยสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ รวมทั้งบาดแผลตามร่างกายผู้เสียชีวิต โดยวันเกิดเหตุไม่มีการกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลภายนอกเข้า รวมถึงมีข้อมูลการใช้โทรศัพท์มือถือของผู้ตายหลังการเสียชีวิตด้วย จึงอยากให้แพทย์ และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ชี้แจงรายละเอียด

ด้านแพทย์สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ ระบุ จากการตรวจสอบศพผู้เสียชีวิต เบื้องต้นพบบาดแผล 2 ส่วน ส่วนแรกเป็นรอยไหม้ผิวหนังที่เกิดจากไฟไหม้ 5 ตำแหน่ง และพบบาดแผลอื่น 7 ตำแหน่ง ซึ่งไม่ได้เกิดจากไฟไหม้ เป็นรอยถลอกฟกช้ำก่อนหัวใจหยุดเต้น คาดผู้ตายดิ้นทุรนทุราย 1-2 นาที ก่อนหมดสติเสียชีวิตในเวลา 3-5 นาทีต่อมา และบาดแผลไม่สามาถเกิดขึ้นจากการกระทำของตนได้


ขณะที่พลตำรวจเอกศรีวราห์ ระบุหลังรับข้อมูลจากตำรวจ สภ.คูคต ปทุมธานี เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช และนายอัจฉริยะ ได้จัดชุดสืบสวนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไปทำการสืบสวนร่วมกับตำรวจในพื้นที่ พร้อมสั่งการพนักงานสอบสวน นำนายอัจฉริยะ บิดาน้องเบนซ์ และพยานที่เห็นเหตุการไปชี้ที่เกิดเหตุอีกครั้ง และนำหลักฐานที่พบในที่เกิดเหตุมาตรวจสอบใหม่ว่ามีใครเกี่ยวข้องกับที่เกิดเหตุบ้าง นอกจากนี้ได้สั่งการให้ตำรวจสอบสวน และขอหมายจับบุคคลที่เกี่ยวข้อง รวมถึงนายพงษ์เพชร สินสุวรรณ์ หรือ บอล บางแก้ว ในข้อหาที่ทำให้เกิดเพลิงไหม้ ซึ่งเป็นอาญาแผ่นดิน โดยให้ขอหมายจับให้เสร็จสิ้นภายในเย็นนี้ พร้อมสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนตำรวจกรณีไม่ออกเลขคดีเพื่อขอหมายจับผู้เกี่ยวข้องในข้อหา วางเพลิง หรือ ประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายเนื่องจากเป็นคดีอาญาแผ่นดิน และตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงเพื่อเอาผิดกับเจ้าหน้าที่ที่ความเกี่ยวข้องกับทำลายหลักฐานทางคดีด้วย นอกจากนี้ยังกำชับให้พนักงานสอบสวนรายงานสรุปผลการตรวจพิสูจน์ทุก 7 วัน ต่อตนเอง ซึ่งช่วงบ่ายวันนี้(3 ธ.ค.)ตนจะลงพื้นที่ สภ.คูคต เพื่อตรวจสอบการสวมทะเบียนรถของนายบอลด้วย

นายอัจฉริยะยังได้นำหลักฐานรถยนต์ 3 คันของนายบอลที่เชื่อว่าผิดกฎหมาย มอบให้พลตำรวจเอกศรีวราห์ เพื่อขอดำเนินคดีด้วย โดยเบื้องต้นตำรวจ สภ.คูคต ได้อายัดรถยนต์ยี่ห้อบีเอ็มดับบลิว ซึ่งเป็นรถสำแดงเท็จสวมทะเบียนไว้แล้ว 1 คัน ส่วนอีก 2 คันอยู่ระหว่างตรวจสอบ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คลอดลูกแฝดตกตึก

หญิงวัย 31 เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น รพ.ดัง เสียชีวิต

สลด! หญิงวัย 31 ปี เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น โรงพยาบาลดัง เสียชีวิต ด้านโรงพยาบาลแถลงแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมทบทวนมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุแบบนี้ขึ้นอีก

ทหารควง M16 ยิงเพื่อนตำรวจดับคาบ้านพัก

ทหารพรานควง M16 บุกยิงเพื่อนตำรวจเสียชีวิตภายในบ้านพัก ก่อนขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านผู้ตาย เข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.เมืองปัตตานี เบื้องต้นคนก่อเหตุให้การวกวน เนื่องจากอยู่ในอาการหลอน

ลูกน้องปืนโหดรัวยิงหัวหน้างานดับคา สนง.ปฏิรูปที่ดินฯ

ลูกน้องชักปืนกระหน่ำยิงหัวหน้างานดับกลางห้องทำงาน สำนักงานปฏิรูปที่ดิน จ.น่าน ก่อนลั่นไกยิงตัวเอง ปมเหตุขัดแย้งเรื่องงาน

จนท.ปะทะเดือด! เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ

ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง นำกำลังปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ อ.กรงปินัง จ.ยะลา เกิดการปะทะ เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ ยึดอาวุธสงคราม 3 กระบอก

ข่าวแนะนำ

นักวิชาการชี้เลือกตั้งนายก อบจ.ไม่ใช่ภาพสะท้อนเลือกตั้งใหญ่

การเลือกตั้งนายกและสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด ผ่านพ้นไปแล้วทั้ง 47 จังหวัด ขณะนี้รอประกาศผลอย่างเป็นทางการจาก กกต. แต่ผลที่ออกมาชี้ให้เห็นว่าผู้สมัครที่มีเครือข่ายพรรคการเมืองใหญ่สนับสนุนได้ชัยชนะหลายจังหวัด แต่นักวิชาการชี้ว่ายังไม่สามารถสะท้อนให้เห็นภาพชัดถึงผลสนามเลือกตั้งใหญ่ในอนาคตได้

เปิดใจ 5 ตัวประกันคนไทย บอกเหมือนตายแล้วเกิดใหม่

เปิดใจ 5 ตัวประกันคนไทย บอกเหมือนตายแล้วเกิดใหม่ ได้ชีวิตใหม่ ไม่สิ้นเคยหวัง เชื่อว่าต้องได้กลับบ้านในสักวัน เผยอยากกินลาบ-ซอยจุ๊

ดาวเทียมพบฝุ่นหนักในอาเซียน หลายประเทศทะลุ 190 AQI

ดาวเทียมพบฝุ่นหนักในอาเซียน “เมียนมา ลาว กัมพูชา มาเลเซีย” หลายประเทศทะลุ 190 AQI ส่วนไทย อีก 2 วัน มีลมแรงช่วยพัดฝุ่นกระจายตัวดีขึ้น ด้าน ปภ.ช. สั่งพรุ่งนี้ (3 ก.พ.) ดีเดย์ ทุกหน่วยทั่วประเทศเคาะประตูบ้าน “ห้ามเผา” ฝ่าฝืนจับสถานเดียว