การเดินรถไฟ 3 จว.ใต้ยังชะงัก คาดใช้เวลา 10 วัน กู้โบกี้-รางรถไฟ


หาดใหญ่ 5 ก.ย. – การเดินรถไฟใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ยังชะงัก ทำให้การใช้บริการรถไฟเส้นทางภาคใต้ค่อนข้างเงียบเหงา จนท.คาดใช้เวลา 10 วัน กู้โบกี้และรางรถไฟ

13 14   17 22


บรรยากาศที่สถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ซึ่งรถไฟทุกขบวนยังคงตั้งต้นและสิ้นสุดการเดินทางที่สถานีหาดใหญ่ พบว่าช่วงเช้าวันนี้มีผู้โดยสารลดลงมากกว่าครึ่ง ส่วนใหญ่หันไปใช้บริการระบบขนส่งอื่น ๆ แทน อย่างไรก็ตาม ทางสถานีรถไฟหาดใหญ่ยังคงให้บริการรถบัสและรถตู้บริการรับ-ส่งผู้โดยสารที่เดินทางมากับขบวนรถสายยาวกรุงเทพฯ เพื่อไปส่งยังปลายทางใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

15 16

ขณะที่การรักษาความปลอดภัยเป็นไปอย่างเข้มงวด โดยนายบรรหาร โกบยาหยัง ผู้อำนวยการศูนย์ภาคใต้ การรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ได้ขอความอนุเคราะห์หน่วยงานที่เกี่ยวข้องปรับเพิ่มมาตรการในการรักษาความปลอดภัยด้วยการเพิ่มความถี่และเพิ่มช่วงเวลาในการตรวจสอบเส้นทางรถไฟมากขึ้น ส่วนการซ่อมทางรถไฟคาดว่าจะใช้เวลาไม่น้อยกว่า 1 สัปดาห์ เนื่องจากมีไม้หมอนรถไฟได้รับความเสียหาย 1,600 ท่อน ต้องใช้เวลาในการเปลี่ยนและซ่อมทางให้มีความสมบูรณ์ ก่อนจะเปิดเดินรถตามปกติอีกครั้ง


18 19

ด้านคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติออกแถลงการณ์ประณามการก่อเหตุดังกล่าว ทำให้ผู้บริสุทธิ์เสียชีวิตและบาดเจ็บ เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนและหลักมนุษยธรรม ซึ่งเป็นหลักสากลที่ทุกฝ่ายพึงยึดถือ เป็นการทำลายบรรยากาศในการร่วมกันสร้างสังคมไทยให้เกิดสันติสุข พร้อมเรียกร้องให้ทุกภาคส่วนร่วมกันแก้ไขปัญหา

20 21

ขณะ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยอมรับว่า หลังจากนี้ต้องดูแลพื้นที่และทำงานร่วมกันมากขึ้นไปอีก ขณะนี้ กอ.รมน.ได้รับเรื่องไปแล้วว่าจะทำอย่างไรให้เกิดความปลอดภัยทั้งชีวิตและทรัพย์สิน ทั้งนี้ ในส่วนของการถอนกำลังพลทหารบางส่วนออกจากพื้นที่เชื่อว่าไม่ส่งผลกระทบ เนื่องจากมีผู้ปฏิบัติงานเข้าไปดูแลพื้นที่อยู่แล้ว รวมทั้ง กอ.รมน.ก็มีการวางแผนเรื่องจัดกำลัง นอกจากนี้ พล.อ.ประวิตร ยังได้ระบุถึงความคืบหน้าการจัดตั้งรัฐบาลส่วนหน้าพื้นที่ภาคใต้ว่าขณะนี้ยังไม่แล้วเสร็จ แต่ยืนยันว่าจะมีการดำเนินการอย่างแน่นอน. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

แจ้งข้อหาเพิ่ม “ทนายตั้ม” คดี 39 ล้านบาท รวม 7 ข้อหา

แจ้งข้อหาเพิ่ม “ทนายตั้ม” คดี 39 ล้านบาท รวม 7 ข้อหา จ่อแจ้งข้อหา “นุ-แซน” เพิ่มเติม และเชื่อว่ามีบุคคลอื่นที่ต้องถูกดำเนินคดีอีก ส่วน “ฟิล์ม รัฐภูมิ” ยังไม่ประสานเข้าพบหลังออกหมายเรียก

วิสามัญมือยิงประธานสภา อบต.โพนจาน ยิงสู้ จนท.

วิสามัญมือยิงประธานสภา อบต.โพนจาน จ.นครพนม หลังหนีข้ามมา จ.ขอนแก่น เจ้าหน้าที่ปิดล้อมเกลี้ยกล่อมให้วางอาวุธ แต่ไม่สำเร็จ คนร้ายยิงต่อสู้

ขู่ยื่นเอาผิด รมว.ดีอี ปล่อยโฆษณาหลอกหลวง ปชช.

รัฐสภา 3 ธ.ค. – กมธ.ไอซีที สว. ขู่ ยื่น ม.157 เอาผิด รมว.ดีอี ฉุนเกียร์ว่าง ปล่อยโฆษณาหลอกหลวง ประชาชน – ปล่อย “หมอบุญ” หนีลอยนวล จี้รัฐยกปราบหลอกลวงออนไลน์เป็นวาระแห่งชาติ นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ สว. ฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการเทคโนโลยีสารสนเทศ การสื่อสาร และการโทรคมนาคม คนที่หก วุฒิสภา แถลงผลการประชุมกมธ. เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. ซึ่งตรวจสอบกรณีการโฆษณาผ่านสื่อสังคมออนไลน์ให้ลงทุนในสินทรัพย์ ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าชี้แจงอาทิ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กรณีของนพ.บุญ วนาสิน ผู้ก่อตั้งโรงพยาบาลธนบุรี ที่พบกรณีฉ้อโกงและฟอกเงิน เป็นมูลค่าสูงกว่า 7,500 ล้านบาท อย่างไรก็ดีในคดีดังกล่าวถูกแจ้งความดำเนินคดีที่ สน.ห้วยขวาง แล้วปี 2566 แต่ไม่มีการดำเนินการใดๆ จนกระทั่งนพ.บุญเดินทางออกไปนอกประเทศและไม่มีการอายัดทรัพย์ ทั้งนี้ในการหลอกหลวงผ่านโฆษณาชวนเชื่อนั้น ทำผ่านโบรกเกอร์ที่หลอกลงทุน ทั้งนี้เชื่อว่าจะเป็นนักลงทุนที่เคยลงทุนที่คุ้นเคยกับเครือโรงพยาบาลธนบุรี “จากการชี้แจงกรณี นพ.บุญของหน่วยงานที่ชี้แจง พบเป็นการโยนกลองกันไปมา ไม่มีหน่วยงานใดที่รับผิดชอบจริงจัง […]

ข่าวแนะนำ

บุญทรงรายงานตัว

“บุญทรง” รายงานตัวครั้งแรกหลังได้พักโทษ

“บุญทรง” รายงานตัวกับเจ้าหน้าที่คุมประพฤติครั้งแรก หลังได้รับการพักโทษจากคดีทุจริตจำนำข้าว ด้านลูกชายเผยพ่อตั้งใจบวชหลังพ้นโทษ

ชุมนุมเกาหลีใต้

นายกฯ ขอคนไทยในเกาหลีใต้ เลี่ยงพื้นที่ชุมนุม

“นายกฯ แพทองธาร” ขอคนไทยในเกาหลีใต้ ระมัดระวังหลีกเลี่ยงพื้นที่ชุมนุม ติดตามข่าวสถานทูตใกล้ชิด หวังสถานการณ์คลี่คลายโดยเร็ว

อัญเชิญพระเขี้ยวแก้ว

อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) จากจีนสู่ไทย

“ชูศักดิ์” นำคณะผู้แทนไทยเดินทางไปยังวัดหลิงกวง กรุงปักกิ่ง อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) มาประดิษฐานในไทยเป็นการชั่วคราว ณ ท้องสนามหลวง ระหว่าง 5 ธ.ค. 67 – 14 ก.พ. 68