กระบี่ 3 ม.ค.-ชาวสวนยาง อ.ปลายพระยา จ.กระบี่ โค่นต้นยางพาราบางส่วนทิ้ง แบ่งพื้นที่มาสร้างโรงเรือนเลี้ยงแพะเป็นอาชีพเสริม ทดแทนรายได้จากราคายางพาราตกต่ำ
โดยโรงเรือนเลี้ยงแพะที่สร้างขึ้นกลางสวนยางพารานี้ เจ้าของคือ ศราวุธ มาฆะโว เกษตรกรชาวสวนยาง ที่ตัดสินใจโค่นต้นยางพาราบางส่วนทิ้ง เพื่อแบ่งพื้นที่ราว 1 ไร่ สร้างโรงเรือนเลี้ยงแพะ ส่วนอีก 2 ไร่ ปลูกหญ้าเนเปีย เพื่อเป็นอาหารให้กับแพะ
แพะที่ศราวุธเลี้ยงปัจจุบันมีทั้งแพะนมและแพะเนื้อ จำนวนหลายสิบตัว มีทั้งที่เลี้ยงไว้ขายพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ และแบบขายเนื้อ ราคาขึ้นอยู่กับน้ำหนัก ศราวุธบอกทุกวันนี้แพะที่เลี้ยงไว้ไม่พอขาย เพราะตลาดผู้บริโภคมีสูงมาก ขายเฉพาะในจังหวัดกระบี่ ที่เดียวก็หมดแล้ว ที่สำคัญคือ การเลี้ยงแพะ ทำรายได้ให้กับผู้เลี้ยงได้ทุกทาง กระทั่งมูลแพะก็สามารถเก็บขายชาวสวนทุเรียนได้ราคาดีมาก
ส่วนเคล็ดลับการเลี้ยงแพะของศราวุธ บอกว่าอยู่ที่ความใส่ใจดูแล ต้องให้เแพะอารมณ์ดี โรงเรือนที่เลี้ยงต้องถูกสุขลักษณะ โดยในหนึ่งวันจะมีช่วงที่ปล่อยแพะออกไปกินหญ้าในสวนยางพารา ให้แพะได้วิ่งเล่นคลายเคลียด
ทั้งนี้ นอกจากหญ้าที่ปลูกไว้เลี้ยงแพะโดยเฉพาะแล้ว ศราวุธยังคิดสูตรอาหารเสริมให้กับแพะที่เลี้ยงด้วย เป็นการนำทางปาล์มที่มีในสวนมาบดผสมกับกากถั่วเหลือง ทำให้แพะที่เลี้ยงอ้วนท้วน น้ำหนักตัวดี
ขณะที่นายพิสิฐ สุขอนันต์ ผู้อำนวยการการยางแห่งประเทศไทย จังหวัดกระบี่ ระบุว่า สำหรับกรณีของศราวุธ มาฆะโว ถือเป็นหนึ่งในเกษตรกรที่ กยท.จังหวัดกระบี่ ได้เข้าไปให้การสนับสนุนเงินทุนกู้ยืมแบบปลอดดอกเบี้ย บรรเทาความเดือดร้อนจากราคายางพาราตกต่ำ ขณะนี้ทาง กยท. ตั้งเป้าส่งเสริมให้เกษตรกรชาวสวนยางพาราในจังหวัดกระบี่ หันมาเลี้ยงแพะให้มากยิ่งขึ้น เนื่องจากตลาดในจังหวัดกระบี่ และในกลุ่มอันดามัน มีความต้องการบริโภคเนื้อแพะเป็นอาหารเป็นจำนวนมาก
โดยเฉพาะจังหวัดกระบี่ ซึ่งมียุทธศาสตร์ของจังหวัด คือการผลักดันให้จังหวัดกระบี่เป็นเมืองแพะ โดยในปี 2567 ตั้งเป้าให้เกษตรกรเลี้ยงแพะได้ถึง 100,000 ตัว เพื่อตอบสนองนักท่องเที่ยวกลุ่มที่บริโภคอาหารฮาลาล โดยเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่ปัจจุบันพบว่าเกษตรกรในพื้นที่อำเภอปลายพระยา ได้รวมกลุ่มกันหันมาเลี้ยงแพะมากยิ่งขึ้น ส่วนเกษตรกรชาวสวนยางพารารายอื่นๆ ที่สนใจ ต้องการเงินทุนสนับสนุน สามารถติดต่อขอรับความช่วยเหลือได้จากการยางแห่งประเทศไทย จังหวัดกระบี่.-สำนักข่าวไทย