อุตุฯ เตือนรับมือพายุ ‘ปาบึก’ ลามถึงคนกรุง

กรมอุตุฯ 2 ม.ค.-กรมอุตุฯ เตือน ภาคใต้รับมือพายุโซนร้อน “ปาบึก” ตั้งแต่วันที่ 3-4 ม.ค. มีฝนตกหนักสะสมถึง 200 มิลลิเมตร กระทบถึงคนกรุงเจอฝนตกหนักบางแห่ง



นายภูเวียง ประคำมินทร์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา กล่าวถึงสถานการณ์พายุโซนร้อน “ปาบึก” (PABUK) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่าง ซึ่งขณะนี้ความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และพายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกด้วยความเร็ว 10 กิโลเมตรต่อชั่วโมงนั้น คาดว่าจะเคลื่อนผ่านปลายแหลมญวน และเคลื่อนลงอ่าวไทย ตั้งแต่ช่วงเย็นวันนี้ (2ม.ค.) จะมีผลกระทบต่อภาคใต้ในช่วงวันที่ 3-5 ม.ค.นี้  โดยในช่วงวันที่ 3-4 ม.ค. จะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งกับมีลมแรงบริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส กระบี่ ตรัง และสตูล ปริมาณฝนสะสมอาจสูงถึง  200 มิลลิเมตร 

และในช่วงวันที่ 4-5 ม.ค. บริเวณภาคใต้จะมีฝนตกเป็นบริเวณกว้าง และจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งกับมีลมแรง บริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง สตูล และส่งผลกระทบต่อกรุงเทพมหานคร อาจมีฝนตกหนักบางแห่ง 


นายภูเวียง กล่าวอีกว่า สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทย และทะเลอันดามันจะมีกำลังแรง โดยอ่าวไทยมีคลื่นสูง3-5 เมตร ส่วนทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งภาคใต้ฝั่งตะวันออกระวังอันตรายจากลมแรงและคลื่นลมแรงที่พัดเข้าหาฝั่ง ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยควรงดออกจากฝั่งตั้งแต่วันนี้ไปจนถึง วันที่ 5 ม.ค. โดยเฉพาะบริเวณเกาะสมุย เกาะเต่า เสี่ยงได้รับผลกระทบสูง เนื่องจากเป็นจุดศูนย์กลางที่พายุพัดผ่าน

นายภูเวียง ยอมรับว่า พายุปาบึก เป็นพายุโซนร้อนลูกแรกในรอบกว่า 30 ปี ที่พัดเข้าอ่าวไทยในช่วงเดือนมกราคม ถือเป็นเรื่องผิดปกติ ซึ่งความแรงของพายุลูกนี้เทียบเท่าพายุโซนร้อนแฮเรียตเมื่อปี2505 ที่เคยพัดเข้าแหลมตะลุมพุก แต่ประชาชนอย่าตื่นตระหนก เนื่องจากกรมอุตุฯ มีระบบการเตือนภัย ที่ทันสมัยและรวดเร็วกว่าอดีตที่ผ่านมา จึงขอให้ติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด 

พร้อมยืนยัน พายุลูกนี้ ไม่มีโอกาสพัฒนาเป็นพายุโซนร้อนกำลังแรง หรือพายุไต้ฝุ่นอย่างแน่นอน ซึ่งในช่วง 1-2 เดือนนี้ ยังคงต้องเฝ้าระวังพายุลูกใหม่ ที่ก่อตัวอยู่นอกฝั่งฟิลิปปินส์ แต่คาดการณ์เบื้องต้น เชื่อว่า ไม่กระทบต่อไทย .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ศาลตัดสินพิรงรอง

“พิรงรอง” รับกังวลใจ วันนี้ศาลตัดสิน คดีทรูฟ้องหลุดเก้าอี้ กสทช.

“พิรงรอง” ถึงศาล รับกังวลใจ คดีทรูฟ้องหลุดเก้าอี้ กสทช. ปมส่งใบเตือนทีวีดิจิทัลมีโฆษณาแทรก ยืนยันทำหน้าที่อย่างถูกต้อง

ผู้สมัคร นายก อบจ.สมุทรปราการ หอบหลักฐานทุจริตเลือกตั้ง ร้อง ปธ.สภา

ผู้สมัคร นายก อบจ. สมุทรปราการ พรรคประชาชน หอบหลักฐานทุจริตเลือกตั้ง อบจ.ร้องประธานสภา จี้ กกต.สอบให้ความเป็นธรรม ลั่นจะไม่ปล่อยให้เรื่องเงียบ

พิรงรองคุก2ปี

คุก 2 ปี “พิรงรอง” กสทช. คดี “ทรู” ฟ้องกลั่นแกล้ง

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี “พิรงรอง” กรรมการ กสทช. ไม่รอลงอาญา ผิดมาตรา 157 ชี้มีเจตนากลั่นแกล้ง “ทรูไอดี” ให้ได้รับความเสียหาย กรณีออกหนังสือเตือนโฆษณาแทรกในทีวีดิจิทัล

บุกรวบ 2 บิ๊กบอสแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีน

ตำรวจนครบาลบุกรวบ 2 บิ๊กบอสแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีน สร้างเพจปลอมเป็นหน่วยงานตำรวจ และ ปปง. หลอกเหยื่อว่าสามารถติดตามทรัพย์สินที่ถูกหลอกคืนได้ ค้นบ้านพบซิมบ็อกซ์โทรศัพท์ และ QR Code ปลอม จำนวนมาก

ข่าวแนะนำ

ปล้นร้านสะดวกซื้อ

รวบ 6 เยาวชน ก่อเหตุปล้นร้านสะดวกซื้อปัตตานี

รวบแล้ว 6 โจร ปล้นร้านสะดวกซื้อ อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี ได้เงินกว่า 4,000 บาท พบผู้ก่อเหตุทั้งหมด เป็นเยาวชนอายุระหว่าง 14-16 ปี

พิรงรองคุก2ปี

คุก 2 ปี “พิรงรอง” กสทช. คดี “ทรู” ฟ้องกลั่นแกล้ง

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี “พิรงรอง” กรรมการ กสทช. ไม่รอลงอาญา ผิดมาตรา 157 ชี้มีเจตนากลั่นแกล้ง “ทรูไอดี” ให้ได้รับความเสียหาย กรณีออกหนังสือเตือนโฆษณาแทรกในทีวีดิจิทัล

นายกฯพบสีจิ้นผิง

นายกฯ เข้าเยี่ยมคารวะ “สี จิ้นผิง”

นายกฯ เข้าเยี่ยมคารวะ “สี จิ้นผิง” ย้ำความสัมพันธ์ทางการทูตและหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ ด้านจีนหนุนไทยมีบทบาทในเวที ระดับโลกและภูมิภาค

ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์

“ภูมิธรรม” ลงพื้นที่แม่สอด ชี้ยังสรุปไม่ได้ หลังตัดไฟเมื่อวาน

“ภูมิธรรม” ลงพื้นที่แม่สอด ชี้ยังสรุปไม่ได้ หลังตัดไฟแก้ปัญหาคอลเซ็นเตอร์ ขอทำไปประเมินไป อย่าทำให้เป็นประเด็น มองเป็นสิทธิฝั่งเมียนมาซื้อไฟฟ้าจากลาว ลั่นเดี๋ยวต้องคุยอีก ย้ำตัดไฟครั้งนี้ไม่ได้ใช้อารมณ์ รู้อยู่กระทบเศรษฐกิจบ้าง แต่แค่ 0.1%