เกษตรกรยโสธรปลูกกะหล่ำปลีปลอดสารด้วยระบบสายน้ำพุ่ง

ยโสธร 2 ม.ค.-เกษตรกร จ.ยโสธร ปลูกกะหล่ำปลีปลอดสาร บนเนื้อที่ 2 งาน ด้วยระบบสายน้ำพุ่ง ขายดิบขายดี เป็นที่ต้องการของผู้บริโภค จำหน่ายหัวละ 25-30 บาท ขึ้นอยู่กับขนาด


ครอบครัวของนางปิยฉัตร พิจารณ์ เกษตรกรบ้านเหล่าโป่ ตำบลทุ่งมน อำเภอคำเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร พลิกพื้นที่รกร้างจำนวน 2 งาน ปลูกกะหล่ำปลีปลอดสาร จำหน่ายให้กับลูกค้า หัวละ 25-30 บาท ขึ้นอยู่กับขนาดของหัวกะหล่ำปลี ขายดิบขายดี เป็นที่ต้องการของผู้บริโภค เนื่องจากเป็นกะหล่ำปลีปลอดสาร ใช้ปุ๋ยมูลสัตว์และน้ำหมักชีวภาพที่ทำใช้เอง เพื่อบำรุงดินและบำรุงกะหล่ำให้เจริญเติบโต ใช้เวลาปลูกเพียง 2 เดือน สามารถตัดกะหล่ำปลีขายให้กับลูกค้าได้ทันที โดยเจาะน้ำใต้ดินรดผักด้วยระบบสายน้ำพุ่ง เพิ่มความชุมชื้นให้กับดิน

นางปิยฉัตร กล่าวว่า ยิ่งตอนนี้เป็นช่วงเทศกาลปีใหม่ ทำให้ผักขายดิบขายดี เป็นที่ต้องการของลูกค้าเป็นอย่างมาก ช่วงนี้ตัดกะหล่ำปลีขายให้กับลูกค้าสูงถึงวันละ 50 หัว ทุกวัน.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ใบประกอบวิชาชีพครู

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู”

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู” แนะรีบต่ออายุใบอนุญาต หลังคุรุสภาออกมาตรการ 5 ต. คุมเข้มทุกโรงเรียนทั่วไทย

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล หรือ TDAC ล่วงหน้า อย่างน้อย 3 วันก่อนเดินทาง ตามกฎใหม่ ตม.

พีชเรียกอาต่าย

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” โอ้อวดเรียก “อาต่าย” ลั่นไม่ใช่ญาติ

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” คู่กรณีรถกระบะ โอ้อวดเรียก “อาต่าย” รู้จักคนในรัฐบาล หวังผลคดี ลั่นไม่ใช่ญาติ สอนลูกเสมออย่าทำตัวเป็นขยะสังคม บอกประชาชนใช้วิจารณญาณเลือกตั้ง

“นายกเบี้ยว” ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้-ดูแลลุงคู่กรณี

“นายกเบี้ยว” รับจบแทนลูก ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้ ดูแลลุงคู่กรณี ระบุสอนลูกไม่ดี ไม่มีเวลาให้ลูก ปฏิเสธไม่สนิทกับ ผบ.ตร. อย่าเอาท่านมาแปดเปื้อน ส่วนที่ลูกชายยังไม่ไปเยี่ยมลุงคู่กรณี เนื่องจากกลัวโดนถูกโวยวาย

ข่าวแนะนำ

ปล่องลิฟต์ตึกถล่ม

กทม.เดินหน้าเจาะปล่องลิฟต์ ค้นหาผู้สูญหายตึก สตง.

ผู้ว่าฯ กทม. เผยปฏิการค้นหาร่างผู้สูญหายจากเหตุตึก สตง.ถล่ม วันนี้เน้นเจาะปล่องลิฟต์-บันไดหนีไฟ หลังวานนี้ (18 เม.ย.) พบผู้เสียชีวิตในจุดดังกล่าวเพิ่มอีก 6 ราย ยืนยัน กทม. ให้ความร่วมมือกับทุกหน่วยงานในการเข้า เก็บพยานหลักฐาน เพื่อหาตัวผู้รับผิดชอบกับเหตุการณ์ดังกล่าว