ชาวบ้านกว่า 500 คน เดินรณรงค์ต่อต้านความรุนแรง

นราธิวาส 1 ม.ค.-ชาวบ้านกว่า 500 คน เดินต้านความรุนแรง ประณามคนร้ายยึดโรงพยาบาล เป็นฐานโจมตีถล่มเจ้าหน้าที่ชุดคุ้มครองตำบลกาลิซา 


เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2562 ที่บริเวณถนน ทางเข้าหมู่บ้านกาหนั๊วะ หมู่ 5 ต.กาลิซา อ.ระแงะ จ.นราธิวาส กลุ่มพลังมวลชน กว่า 500 คน ประกอบด้วย กลุ่มแม่บ้าน กลุ่มเสื้อเขียว ชุดเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) อาสาสมัครสาธารณสุข (อสม) ผู้นำศาสนา กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้านในพื้นที่ ต.กาลิซา อ.ระแงะ ได้รวมตัวเดินรณรงค์ต่อต้านความรุนแรง โดยมีการเขียนข้อความต่อต้านความรุนแรงทุกรูปแบบ จากกรณีคนร้ายก่อเหตุความไม่สงบในห้วงที่ผ่านมา เช่น ข้อความ “พวกเราต้องการความสงบ ไม่ต้องการให้เกิดเหตุร้ายซ้ำซาก ”หยุดทำร้ายผู้บริสุทธิ์“ หนูไม่ต้องการความรุนแรง” เราต้องการความสันติสุข และปากท้อง” โดยกิจกรรมในครั้งนี้ ริเริ่มโดยชาวบ้านที่ต้องการความสงบมาสู่พื้นที่ และไม่เห็นด้วยกับการใช้กำลังแก้ปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยได้เดินจากหมู่บ้าน ถึงหน้าฐานปฏิบัติการของชุดคุ้มครองตำบล (ชคต.) กาลิซา บ้านกาหนั๊วะ ที่ถูกคนร้ายบุกโจมตีฐาน เมื่อวันที่ 28 ธ.ค.2561 ที่ผ่านมา พร้อมกันนี้ชาวบ้าน ได้ส่งเสียง คำว่า สู้ๆ พร้อมชูกำปั้น เพื่อเป็นสัญลักษณ์ แห่งการต่อสู้ ต้านความรุนแรง และประณามการยึดโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล เพื่อก่อความไม่สงบและข่มขู่บุคลากรสาธารณสุขชายแดนใต้ในทุกกรณี  โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝายปกครอง อำนวยความปลอดภัย ในบริเวณกิจกรรม ต้านความรุนแรงดังกล่าว


ต่อมานายสังคม เกิดก่อ นายอำเภอระแงะ พ.อ.อิศรา จันทะกระยอม ผบ.ฉก.ทหารพรานที่ 45 พ.ต.อ.สุรพงษ์ ชาติสุทธิ์ ผกก.สภ.ระแงะ เรียกประชุมกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ในพื้นที่ ต.กาลิซา อ.ระแงะ เพื่อหารือกรณีคนร้ายยึดโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลกาลิซา บุกจับเจ้าหน้าที่ และใช้เป็นฐานที่มั่น ในการยิงและปาระเบิด เข้าใส่ฐาน ชคต. ซึ่งคนร้ายปฎิบัติผิดหลักสากล ที่ห้ามยึดหรือใช้โรงพยาบาล หรือโรงเรียน เพื่อก่อการร้าย หรือก่อความไม่สงบ นอกจากนี้ยังพบว่า คนร้ายยังใช้กลยุทธ์ ที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง คือ ใช้เสียงอาซาน ที่เป็นสัญญาณเสีใยงเรียกชาวมุสลิมเข้ามัสยิด เพื่อปฏิบัติศาสนากิจ ละหมาด เป็นสัญญาณลงมือโจมตีฐาน สร้างความเสื่อมเสีย ซึ่งไม่ควรนำหรือแอบอ้างประเด็นที่เกี่ยวข้องกับศาสนา เพราะการกระทำของคนร้ายเป็นเรื่องเลวร้ายต่อชีวิตมนุษย์ ในส่วนมาตรการดูแลประชาชน และความปลอดภัยบุคลากรสาธารณสุข เจ้าหน้าที่จะเพิ่มความเข้มข้นในมาตรการรักษาความปลอดภัยให้มากขึ้น และร่วมกันกำลังประชาชนในทุกส่วน เพื่อนำความสงบมาสู่พื้นที่โดยเร็ว

โดยเหตุรุนแรงในพื้นที่ 3 อำเภอของ จ.นราธิวาส ช่วงค่ำวันศุกร์ที่ 28 ธ.ค.61 ไม่ได้มีแค่เหตุลอบวางระเบิดพร้อมกันหลายจุด แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบว่าคนร้ายใช้ปฏิบัติการทางทหารที่วางแผนมาอย่างดี เตรียมอาวุธและวัตถุระเบิดจำนวนมาก รวมทั้งมีการยึดโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบางเป็นฐานที่มั่นในการโจมตี คล้ายคลึงกับเหตุการณ์คนร้ายบุกยึดโรงพยาบาลเจาะไอร้อง จ.นราธิวาส เพื่อใช้โจมตีฐานทหารพราน เมื่อวันที่ 13 มี.ค.59


จุดยุทธศาสตร์ใหญ่ที่สุดที่คนร้ายเข้าโจมตี อยู่ที่ฐานปฏิบัติการของชุดคุ้มครองตำบล (ชคต.) กาลิซา ตั้งอยู่ที่บ้านกาหนั๊วะ หมู่ 5 ต.กาลิซา อ.ระแงะ สภาพของฐาน ชคต.ช่วงที่เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจที่เกิดเหตุเมื่อวันเสาร์ที่ 29 ธ.ค. พบว่าตัวฐานที่ปลูกสร้างด้วยอิฐบล็อก มุงหลังคาด้วยกระเบื้อง ถูกเพลิงไหม้ได้รับความเสียหาย 2 หลัง คลังเก็บน้ำมันเชื้อเพลิงอีก 1 หลัง คาดว่าเพราะโดนปาระเบิดแสวงเครื่องแบบขว้างที่คนร้ายผลิตเอง โดยบรรจุใส่ไว้ในท่อแป๊ปเหล็กทรงกลม เส้นผ่าศูนย์กลาง 2 นิ้ว ยาว 5 นิ้ว น้ำหนักประมาณ 400 กรัม (ไปป์บอมบ์) และเจ้าหน้าที่ยังตรวจพบระเบิดไปป์บอมบ์ที่ไม่ระเบิด ตกกระจายเกลื่อนภายในฐานอีก 22 ลูก กระเดื่องระเบิด 13 อัน และวงจรระเบิด 22 ชุด 

ฐาน ชคต.แห่งนี้ตั้งอยู่ติดกับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลกาลิซา ปรากฏว่าบริเวณกำแพงอิฐบล็อกของโรงพยาบาลที่อยู่ติดกับฐาน ชคต. มีร่องรอยคล้ายถูกคนร้ายใช้ของแข็งทุบจนเป็นรูโหว่ใหญ่พอที่คนสามารถลอดเข้าไปในฐาน ชคต.ได้ และบริเวณด้านหลังและด้านข้างของฐาน ชคต. เจ้าหน้าที่ตรวจพบปลอกกระสุนปืนเอ็ม 16 อาก้า และลูกซอง ตกอยู่เป็นจำนวนมาก

เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า คนร้ายกลุ่มแรกมาประมาณ 7-8 คน พร้อมอาวุธปืนครบมือ แฝงตัวเข้าไปอาคารที่ทำการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลกาลิซา และควบคุมตัวเจ้าหน้าที่ 4 คนที่กำลังทำงานล่วงเวลาเอาไว้ มีทั้งหมออนามัยและลูกจ้าง โดยนำตัวไปกักไว้ในอาคาร พร้อมยึดโทรศัพท์มือถือ จากนั้นคนร้ายได้ใช้ของแข็งทุบกำแพงโรงพยาบาล พร้อมใช้อาคารโรงพยาบาลเป็นที่กำบังยิงโจมตีฐาน ชคต. และปาระเบิดไปป์บอมบ์เข้าใส่ คาดว่าปาเข้าไปทั้งหมด 32 ลูก ระเบิดทำงาน 10 ลูก สลับกับยิงด้วยอาวุธสงคราม

คนร้ายกลุ่มที่ 2 มีประมาณ 10 คน พร้อมอาวุธปืนครบมือ แฝงตัวออกมาจากด้านข้างและด้านหลังของฐาน ชคต. พร้อมยิงปืนถล่มเข้าไปในฐาน จนเกิดการปะทะกับกำลังของ ชคต. ต่อมานายมาหามะ เจ๊ะแม อดีตกำนันตำบลกาลิซา ได้ยินเสียงปืนและระเบิด จึงได้ระดมกำลังชุุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน หรือ ชรบ. และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านจำนวน 12 คน นำอาวุธปืนลูกซองเดินทางไปสนับสนุนชุดคุ้มครองตำบล และเปิดฉากยิงปะทะกับกลุ่มคนร้าย ใช้เวลานานเกือบ 1 ชั่วโมง คนร้ายเห็นจวนตัว จึงอาศัยความชำนาญพื้นที่ล่าถอยไป

ระหว่างที่มีการยิงปะทะ ยังมีคนร้ายอีก 3 ชุด แยกย้ายกับตัดต้นไม้ขวางถนน 3 สายที่มุ่งหน้าไปยังฐานปฏิบัติการ ชคต.กาลิซา เพื่อสกัดกั้นการสนับสนุนกำลังเข้าไปช่วยเหลือด้วย เมื่อเสียงปืนสงบลง พบผู้บาดเจ็บ 1 ราย ถูกสะเก็ดระเบิดของคนร้าย และเมื่อเข้าไปตรวจสอบในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลกาลิซา ก็ได้พบเจ้าหน้าที่ 4 คนที่ถูกจับ อยู่ในสภาพเสียขวัญ จึงพาตัวออกมาฟื้นฟูสภาพจิตใจ ก่อนส่งกลับบ้าน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Joe Biden and Kamala Harris on stage

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่ “แฮร์ริส” พ่ายแพ้

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่นางคอมมาลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครต พ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ให้แก่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน

“ทรัมป์” คว้าชัยเด็ดขาด ครองตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัย

โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน คว้าชัยชนะเด็ดขาดในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เหนือคู่แข่งอย่าง คอมมาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต นับเป็นการกลับมาครองตำแหน่งผู้นำสหรัฐอีกครั้ง หลังต้องออกจากทำเนียบขาวไปเมื่อ 4 ปีก่อน

พบศพไวยาวัจกรวัดดังระยองถูกยิงดับพร้อมหญิงสาวในบ้านพัก

พบศพไวยาวัจกรวัดดัง จ.ระยอง ถูกยิงเสียชีวิตในบ้านพัก พร้อมหญิงสาวหน้าตาดี คาดเสียชีวิตมาแล้ว 3 วัน ตำรวจเร่งหาสาเหตุ

พบเด็กหญิงฝาแฝดวัย 9 ขวบ ดวงตาสีฟ้า

พบเด็กหญิงฝาแฝดชาวนครพนม วัย 9 ขวบ มีดวงตาสีฟ้าสดใส ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรมที่พบได้ยาก อาศัยอยู่กับแม่เลี้ยงเดี่ยว แม่เผยลูกมีปัญหาทางการได้ยิน ใช้ชีวิตลำบาก ถูกบลูลี่ แต่ไม่ขอเปิดรับบริจาค เพราะเคยถูกมิจฉาชีพแอบอ้าง

ข่าวแนะนำ

นำ “ทนายตั้ม-ภรรยา” ฝากขัง เจ้าตัวยกมือไหว้ ปัดตอบทุกประเด็น

กองปราบฯ นำ “ทนายตั้ม-ภรรยา” ฝากขังศาลอาญารัชดา เบื้องต้นท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว ด้านเจ้าตัวยกมือไหว้ ปัดตอบทุกประเด็น

ครูปรีชาทนายตั้ม

“ครูปรีชา” หิ้วกาแฟ-ข้าวผัด เยี่ยม “ทนายตั้ม”

เกือบ 24 ชั่วโมง ที่ตำรวจกองปราบฯ คุมตัว “ทนายตั้ม-ภรรยา” มาสอบปากคำ เบื้องต้นทั้งคู่ยังให้การปฏิเสธ เตรียมส่งตัวฝากขังบ่ายนี้ ส่วนคู่กรณีหวย 30 ล้าน “ครูปรีชา” นำข้าวผัดและกาแฟ เข้าเยี่ยม “ทนายตั้ม” พร้อมยืนยันคำเดิม “ความจริงก็คือความจริง”

นายกฯ เร่งตั้งทีม JTC เจรจา MOU44 คาดชัด 18 พ.ย.นี้

นายกฯ ยันรัฐบาลเร่งตั้งคณะกรรมการ JTC หารือเส้นเขตแดน MOU 44 และพลังงานใต้ทะเล คาด 18 พ.ย.นี้ ชัดเจน “ภูมิธรรม” มั่นใจกัมพูชายึดตามสนธิสัญญาเจนีวา แม้ไม่เข้าร่วม ย้ำมีผลผูกพันทุกประเทศทั่วโลก