ชาวบ้านกว่า 500 คน เดินรณรงค์ต่อต้านความรุนแรง

นราธิวาส 1 ม.ค.-ชาวบ้านกว่า 500 คน เดินต้านความรุนแรง ประณามคนร้ายยึดโรงพยาบาล เป็นฐานโจมตีถล่มเจ้าหน้าที่ชุดคุ้มครองตำบลกาลิซา 


เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2562 ที่บริเวณถนน ทางเข้าหมู่บ้านกาหนั๊วะ หมู่ 5 ต.กาลิซา อ.ระแงะ จ.นราธิวาส กลุ่มพลังมวลชน กว่า 500 คน ประกอบด้วย กลุ่มแม่บ้าน กลุ่มเสื้อเขียว ชุดเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) อาสาสมัครสาธารณสุข (อสม) ผู้นำศาสนา กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้านในพื้นที่ ต.กาลิซา อ.ระแงะ ได้รวมตัวเดินรณรงค์ต่อต้านความรุนแรง โดยมีการเขียนข้อความต่อต้านความรุนแรงทุกรูปแบบ จากกรณีคนร้ายก่อเหตุความไม่สงบในห้วงที่ผ่านมา เช่น ข้อความ “พวกเราต้องการความสงบ ไม่ต้องการให้เกิดเหตุร้ายซ้ำซาก ”หยุดทำร้ายผู้บริสุทธิ์“ หนูไม่ต้องการความรุนแรง” เราต้องการความสันติสุข และปากท้อง” โดยกิจกรรมในครั้งนี้ ริเริ่มโดยชาวบ้านที่ต้องการความสงบมาสู่พื้นที่ และไม่เห็นด้วยกับการใช้กำลังแก้ปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยได้เดินจากหมู่บ้าน ถึงหน้าฐานปฏิบัติการของชุดคุ้มครองตำบล (ชคต.) กาลิซา บ้านกาหนั๊วะ ที่ถูกคนร้ายบุกโจมตีฐาน เมื่อวันที่ 28 ธ.ค.2561 ที่ผ่านมา พร้อมกันนี้ชาวบ้าน ได้ส่งเสียง คำว่า สู้ๆ พร้อมชูกำปั้น เพื่อเป็นสัญลักษณ์ แห่งการต่อสู้ ต้านความรุนแรง และประณามการยึดโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล เพื่อก่อความไม่สงบและข่มขู่บุคลากรสาธารณสุขชายแดนใต้ในทุกกรณี  โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝายปกครอง อำนวยความปลอดภัย ในบริเวณกิจกรรม ต้านความรุนแรงดังกล่าว


ต่อมานายสังคม เกิดก่อ นายอำเภอระแงะ พ.อ.อิศรา จันทะกระยอม ผบ.ฉก.ทหารพรานที่ 45 พ.ต.อ.สุรพงษ์ ชาติสุทธิ์ ผกก.สภ.ระแงะ เรียกประชุมกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ในพื้นที่ ต.กาลิซา อ.ระแงะ เพื่อหารือกรณีคนร้ายยึดโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลกาลิซา บุกจับเจ้าหน้าที่ และใช้เป็นฐานที่มั่น ในการยิงและปาระเบิด เข้าใส่ฐาน ชคต. ซึ่งคนร้ายปฎิบัติผิดหลักสากล ที่ห้ามยึดหรือใช้โรงพยาบาล หรือโรงเรียน เพื่อก่อการร้าย หรือก่อความไม่สงบ นอกจากนี้ยังพบว่า คนร้ายยังใช้กลยุทธ์ ที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง คือ ใช้เสียงอาซาน ที่เป็นสัญญาณเสีใยงเรียกชาวมุสลิมเข้ามัสยิด เพื่อปฏิบัติศาสนากิจ ละหมาด เป็นสัญญาณลงมือโจมตีฐาน สร้างความเสื่อมเสีย ซึ่งไม่ควรนำหรือแอบอ้างประเด็นที่เกี่ยวข้องกับศาสนา เพราะการกระทำของคนร้ายเป็นเรื่องเลวร้ายต่อชีวิตมนุษย์ ในส่วนมาตรการดูแลประชาชน และความปลอดภัยบุคลากรสาธารณสุข เจ้าหน้าที่จะเพิ่มความเข้มข้นในมาตรการรักษาความปลอดภัยให้มากขึ้น และร่วมกันกำลังประชาชนในทุกส่วน เพื่อนำความสงบมาสู่พื้นที่โดยเร็ว

โดยเหตุรุนแรงในพื้นที่ 3 อำเภอของ จ.นราธิวาส ช่วงค่ำวันศุกร์ที่ 28 ธ.ค.61 ไม่ได้มีแค่เหตุลอบวางระเบิดพร้อมกันหลายจุด แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบว่าคนร้ายใช้ปฏิบัติการทางทหารที่วางแผนมาอย่างดี เตรียมอาวุธและวัตถุระเบิดจำนวนมาก รวมทั้งมีการยึดโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบางเป็นฐานที่มั่นในการโจมตี คล้ายคลึงกับเหตุการณ์คนร้ายบุกยึดโรงพยาบาลเจาะไอร้อง จ.นราธิวาส เพื่อใช้โจมตีฐานทหารพราน เมื่อวันที่ 13 มี.ค.59


จุดยุทธศาสตร์ใหญ่ที่สุดที่คนร้ายเข้าโจมตี อยู่ที่ฐานปฏิบัติการของชุดคุ้มครองตำบล (ชคต.) กาลิซา ตั้งอยู่ที่บ้านกาหนั๊วะ หมู่ 5 ต.กาลิซา อ.ระแงะ สภาพของฐาน ชคต.ช่วงที่เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจที่เกิดเหตุเมื่อวันเสาร์ที่ 29 ธ.ค. พบว่าตัวฐานที่ปลูกสร้างด้วยอิฐบล็อก มุงหลังคาด้วยกระเบื้อง ถูกเพลิงไหม้ได้รับความเสียหาย 2 หลัง คลังเก็บน้ำมันเชื้อเพลิงอีก 1 หลัง คาดว่าเพราะโดนปาระเบิดแสวงเครื่องแบบขว้างที่คนร้ายผลิตเอง โดยบรรจุใส่ไว้ในท่อแป๊ปเหล็กทรงกลม เส้นผ่าศูนย์กลาง 2 นิ้ว ยาว 5 นิ้ว น้ำหนักประมาณ 400 กรัม (ไปป์บอมบ์) และเจ้าหน้าที่ยังตรวจพบระเบิดไปป์บอมบ์ที่ไม่ระเบิด ตกกระจายเกลื่อนภายในฐานอีก 22 ลูก กระเดื่องระเบิด 13 อัน และวงจรระเบิด 22 ชุด 

ฐาน ชคต.แห่งนี้ตั้งอยู่ติดกับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลกาลิซา ปรากฏว่าบริเวณกำแพงอิฐบล็อกของโรงพยาบาลที่อยู่ติดกับฐาน ชคต. มีร่องรอยคล้ายถูกคนร้ายใช้ของแข็งทุบจนเป็นรูโหว่ใหญ่พอที่คนสามารถลอดเข้าไปในฐาน ชคต.ได้ และบริเวณด้านหลังและด้านข้างของฐาน ชคต. เจ้าหน้าที่ตรวจพบปลอกกระสุนปืนเอ็ม 16 อาก้า และลูกซอง ตกอยู่เป็นจำนวนมาก

เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า คนร้ายกลุ่มแรกมาประมาณ 7-8 คน พร้อมอาวุธปืนครบมือ แฝงตัวเข้าไปอาคารที่ทำการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลกาลิซา และควบคุมตัวเจ้าหน้าที่ 4 คนที่กำลังทำงานล่วงเวลาเอาไว้ มีทั้งหมออนามัยและลูกจ้าง โดยนำตัวไปกักไว้ในอาคาร พร้อมยึดโทรศัพท์มือถือ จากนั้นคนร้ายได้ใช้ของแข็งทุบกำแพงโรงพยาบาล พร้อมใช้อาคารโรงพยาบาลเป็นที่กำบังยิงโจมตีฐาน ชคต. และปาระเบิดไปป์บอมบ์เข้าใส่ คาดว่าปาเข้าไปทั้งหมด 32 ลูก ระเบิดทำงาน 10 ลูก สลับกับยิงด้วยอาวุธสงคราม

คนร้ายกลุ่มที่ 2 มีประมาณ 10 คน พร้อมอาวุธปืนครบมือ แฝงตัวออกมาจากด้านข้างและด้านหลังของฐาน ชคต. พร้อมยิงปืนถล่มเข้าไปในฐาน จนเกิดการปะทะกับกำลังของ ชคต. ต่อมานายมาหามะ เจ๊ะแม อดีตกำนันตำบลกาลิซา ได้ยินเสียงปืนและระเบิด จึงได้ระดมกำลังชุุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน หรือ ชรบ. และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านจำนวน 12 คน นำอาวุธปืนลูกซองเดินทางไปสนับสนุนชุดคุ้มครองตำบล และเปิดฉากยิงปะทะกับกลุ่มคนร้าย ใช้เวลานานเกือบ 1 ชั่วโมง คนร้ายเห็นจวนตัว จึงอาศัยความชำนาญพื้นที่ล่าถอยไป

ระหว่างที่มีการยิงปะทะ ยังมีคนร้ายอีก 3 ชุด แยกย้ายกับตัดต้นไม้ขวางถนน 3 สายที่มุ่งหน้าไปยังฐานปฏิบัติการ ชคต.กาลิซา เพื่อสกัดกั้นการสนับสนุนกำลังเข้าไปช่วยเหลือด้วย เมื่อเสียงปืนสงบลง พบผู้บาดเจ็บ 1 ราย ถูกสะเก็ดระเบิดของคนร้าย และเมื่อเข้าไปตรวจสอบในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลกาลิซา ก็ได้พบเจ้าหน้าที่ 4 คนที่ถูกจับ อยู่ในสภาพเสียขวัญ จึงพาตัวออกมาฟื้นฟูสภาพจิตใจ ก่อนส่งกลับบ้าน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เก๋งซิ่งแหกโค้งชนเสาเหล็ก ไฟลุกไหม้คลอกคนขับดับสลด

ลพบุรี 6 มิ.ย. – เก๋งหรูซิ่งเสียงดังลั่น หมุนโชว์กลางสี่แยก ก่อนแหกโค้งชนเสาเหล็กป้ายข้างทางไฟลุกไหม้เสียหายทั้งคัน คลอกคนขับดับสลด เมื่อเวลา 03.30 น.ที่ผ่านมา ร.ต.ท.ชาตรี ทรัพย์นิยมพงศ์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองลพบุรี รับแจ้งรถเก๋งชนเสาข้างถนน ไฟลุกไหม้ทั้งคัน บนถนนทางเข้าบ้านหนองน้ำทิพย์ หมู่ 7 ต.เขาพระงาม อ.เมืองลพบุรี พร้อมแจ้งรถน้ำดับเพลิงป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลตำบลเขาพระงาม รุดไปดับไฟ และเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบ จุดเกิดเหตุพบไฟกำลังลุกไหม้โหมทั่วไปทั้งคันรถ สังเกตดูเบื้องต้นคนขับติดอยู่ที่เบาะนั่งสภาพหมดสติ เจ้าหน้าที่เร่งระดมฉีดน้ำใช้เวลาประมาณ 15 นาที เพลิงสงบ จากการตรวจสอบด้านซ้ายรถชนอัดอยู่กับเสาเหล็กป้ายบอกทาง สภาพเหลือแต่ซาก เบื้องต้นพบเป็นรถเก๋งยี่ห้อยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยู ไม่ทราบสี-ทะเบียน ถูกไฟไหม้ เหลืออยู่ครึ่งป้าย ภายในรถพบร่างชายถูกไฟไหม้เกรียม ยังไม่ทราบชื่อว่าเป็นใครมาจากไหน สอบถามนางเล็ก ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองนั่งเฝ้าเครื่องสูบน้ำใกล้จุดเกิดเหตุ ได้ยินเสียงรถเก๋งคันดังกล่าวขับซิ่งมาจากแยกเขาพระงาม มุ่งหน้าไปทางโคกสำโรง เสียงท่ออย่างดังลั่น พอมาถึงสามแยกบ้านหนองน้ำทิพย์ ได้หมุนโชว์กลางแยก 1 รอบ จากนั้นขับไปยูเทิร์นกลับมาอีกรอบ เลี้ยวเข้าทางแยกหนองน้ำทิพย์ได้ประมาณ 300 เมตร […]

ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงิน 12 ล้าน วางทิ้งข้างถังขยะ

นนทบุรี 6 มิ.ย. – ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงินสด 12 ล้าน ในกล่องพลาสติก วางทิ้งข้างถังขยะคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จากกรณีพลเมืองดีพบธนบัตรไทยจำนวนมาก ถูกซุกซ่อนอยู่ภายในกล่องพลาสติก บริเวณคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จ.นนทบุรี เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบเอกสารเกี่ยวกับหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายและซองจดหมาย ปรากฏชื่อบุคคลและหน่วยงานรัฐในเอกสาร จึงได้ยึดธนบัตรดังกล่าวมาที่ สภ.ปากเกร็ด เพื่อพิสูจน์ว่าเป็นเงินอะไร ได้มาถูกต้องหรือไม่ และใครเป็นเจ้าของที่แท้จริง เบื้องต้นพบเป็นเงินสดจำนวน 12 ล้านบาท และเมื่อเจ้าหน้าที่นำสายรัดของธนบัตรดังกล่าวไปตรวจสอบ พบว่ามีการจ่ายเงินออกมาจำนวนดังกล่าวตั้งแต่ปี 2563    พลเมืองดีเล่าว่า เวลาประมาณ 20.00 น. ของเมื่อวานนี้ (5 มิ.ย.) ตนและเพื่อนเดินไปลิฟต์ที่ชั้น 4 ซึ่งข้างลิฟต์เป็นที่ทิ้งขยะ เห็นกล่องสภาพดีวางอยู่ ก็จะเก็บไปใช้ ซึ่งกล่องถูกเปิดแง้มเอาไว้และมีเสื้อผ้าวางทับด้านบน จึงเปิดดูพบเงินสดฉบับละ 1,000 บาท เป็นมัดๆ จำนวนมาก จึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบ ความคืบหน้าในการติดตามหาตัวคนที่นำกล่องเงินมาทิ้ง ตำรวจสืบสวน สภ.ปากเกร็ด ได้ลงพื้นที่ไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณจุดที่พบเพื่อหาเบาะแสคนที่นำกล่องพลาสติกมาทิ้ง เบื้องต้นยังไม่พบผู้ต้องสงสัย นอกจากนี้ยังได้พยายามติดต่อกับ นายทวีวัฒน์ […]

น้ำมันรั่วลงทะเล

สั่งเจ้าท่าระงับเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar

ชลบุรี 6 มิ.ย.- “มนพร” สั่งการกรมเจ้าท่าตั้งศูนย์ประสานงานแก้ไขปัญหาและควบคุมสถานการณ์น้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar บริเวณท่าเรือบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ศรีราชา จังหวัดชลบุรี นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม สั่งการให้ นายกริชเพชร ชัยช่วย อธิบดีกรมเจ้าท่า ดำเนินการจัดตั้งศูนย์ประสานงานป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน เพื่อ ระงับเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar ซึ่งเป็นเรือบรรทุกน้ำมันดิบสัญชาติสิงคโปร์ หมายเลข IMO 9828962 โดยเหตุเกิดบริเวณทุ่นรับน้ำมันกลางทะเล (SBM2) ของบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ในเขตพื้นที่ศรีราชา จังหวัดชลบุรี เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลา 00.54 น. โดยมีสาเหตุมาจากท่อส่งน้ำมันที่ชำรุด ส่งผลให้น้ำมันดิบรั่วไหลลงสู่ทะเลในปริมาณประมาณ 20 คิว หรือราว 20 ตัน กรมเจ้าท่าได้ดำเนินการประเมินสถานการณ์โดยเร่งดำเนินการจัดตั้งศูนย์ประสานงานฯ ณ โรงกลั่นน้ำมันของบริษัทไทยออยล์ จังหวัดชลบุรี เพื่อเป็นศูนย์กลางในการควบคุมเหตุการณ์ ทั้งนี้กรมเจ้าท่าในฐานะเลขานุการศูนย์ประสานงาน ได้ประสานกองทัพเรือจัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ในการขจัดคราบน้ำมัน จากการสำรวจพื้นที่ พบว่าลักษณะของคราบน้ำมันเป็นคราบสีดำหรือน้ำตาลบาง ๆ […]

นักศึกษาเจอคอลเซ็นเตอร์ปั่นหัวถือมีดบุกโรงพัก

เชียงใหม่ 5 มิ.ย. – แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกนักศึกษาเชียงใหม่ สูญกว่า 2 ล้านบาท พ่อแม่เครียดหมดเนื้อหมดตัว บางรายถูกปั่นหัวให้ถือมีดบุกโรงพักเย้ยตำรวจ พบเฉพาะ สภ.ภูพิงค์ฯ มีเหยื่อโดนหลอกลักษณะนี้แล้วกว่า 300 ราย กล้องวงจรปิดบันทึกภาพนักศึกษาสาว ชั้นปีที่ 4 ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดภายใน สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ จากนั้นเดินไปเข็นวีลแชร์ที่อยู่ตรงหัวมุมอาคาร แล้วก็เข็นไปเข็นมาอยู่อย่างนั้น ก่อนจะถือมีดไปที่บริเวณห้องรับแจ้งความ และอ้างว่า จะมาขอพบตำรวจนายหนึ่ง แต่ไม่มีชื่อนี้อยู่ที่โรงพัก จึงขอพบ พันตำรวจเอก มนัสชัย อินทร์เถื่อน ผู้กำกับ สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ เพราะไปฆ่าคนตายมา ขณะนั้น ตำรวจสืบสวนสังเกตเห็นว่า นักศึกษาสาวมีท่าทางหวาดระแวงใส่หูฟังเหมือนกับทำตามคำสั่งใครสักคนที่สั่งการจากปลายสาย ด้านตำรวจจึงชวนพูดคุยสอบถามสักพัก จนยอมวางมีดลง จากนั้น ตำรวจจึงขอให้ดึงหูฟังออก ปรากฏว่า นักศึกษาสาวกลับได้สติขึ้นมาว่า ชายที่สั่งการทางโทรศัพท์ไม่ใช่ตำรวจจริง เป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สั่งให้มาป่วนตำรวจ เนื่องจากไม่มีเงินโอนให้ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 มิ.ย. ที่ผ่านมา ตำรวจจึงตรวจสอบพบว่า ในวันเดียวกัน […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ เผยหารือกัมพูชา ตกลงปรับกำลังทหารทั้ง 2 ฝ่าย ลดเผชิญหน้า

ทำเนียบรัฐบาล 8 มิ.ย. – นายกฯ เผยหารือกับรัฐบาลกัมพูชา ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงจะร่วมกันปรับกำลังทหาร จุดที่มีการกระทบกระทั่ง เพื่อลดการเผชิญหน้า เดินหน้าใช้กลไก JBC 14 มิ.ย.นี้ นำพาความสัมพันธ์เข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า ความพยายามคลี่คลายสถานการณ์ความขัดแย้งตามแนวชายแดน โดยการปฏิบัติงานของทั้งระดับนโยบาย โดยรัฐบาล ฝ่ายความมั่นคง กองทัพ กระทรวงการต่างประเทศ และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีพัฒนาการในทางที่ดีขึ้นเป็นลำดับค่ะ ดิฉันได้หารือกับรัฐบาลกัมพูชา มีข้อสรุปที่ส่งผลดีต่อสถานการณ์ โดยทั้ง 2 ฝ่ายตกลงจะร่วมกันปรับกำลังทหาร ณ จุดที่มีการกระทบกระทั่ง เพื่อลดบรรยากาศการเผชิญหน้า และจะพัฒนาความร่วมมือโดยใช้กลไก JBC ในวันที่ 14 มิถุนายนนี้ และจะมีการพูดคุยกันในทุกระดับ เพื่อนำพาความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็วค่ะ ขอให้พี่น้องประชาชนติดตามสถานการณ์และข้อเท็จจริงจากรัฐบาล พร้อมทั้งเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานจนประสบผลสำเร็จต่อไป สุดท้ายนี้ ขอให้พี่น้องประชาชนได้โปรดคลายความกังวล และมีความมั่นใจในการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลว่า จะไม่มีเหตุกระทบกระทั่งที่รุนแรงเกิดขึ้นแน่นอนค่ะ.-316-สำนักข่าวไทย

โฆษก ทบ. ยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลัง-กลบคูเลต ลดตึงเครียด

8 มิ.ย. – โฆษก ทบ. ยืนยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลังกลับไปอยู่จุดเดิม พร้อมกลบคูเลตให้คืนสู่สภาพเดิม หลังบรรลุข้อตกลงการหารือ เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก ลดความตึงเครียด วันนี้ (8 มิ.ย.68)​ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ฝ่ายกัมพูชา นำโดย พล.ท.สรัย ดึก รองผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 ได้เชิญฝ่ายทหารไทย โดย พล.ต.สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี เข้าร่วมหารือ เพื่อเจรจาเกี่ยวกับกรณีปัญหาการรุกล้ำดินแดนในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก จากการหารือเบื้องต้น ทั้งสองฝ่ายได้บรรลุข้อตกลงในประเด็นสำคัญ คือ ฝ่ายทหารกัมพูชายินยอมถอนกำลังกลับไปยังจุดที่เคยประจำการอยู่เดิม ซึ่งอยู่ห่างจากบริเวณที่เกิดเหตุปะทะ หรือแนวต้นพญาสัตบรรณ ลึกเข้าไปในเขตแดนของประเทศกัมพูชา จุดดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่ฝ่ายกัมพูชาเคยใช้เป็นแนววางกำลังฐานมาโดยตลอดในอดีต นอกจากนี้ ฝ่ายกัมพูชายังแสดงความยินยอมที่จะดำเนินการกลบคูเลตให้กลับคืนสู่สภาพธรรมชาติตามเดิม ตามข้อเสนอของฝ่ายไทย เพื่อเป็นการลดความตึงเครียด และสร้างบรรยากาศแห่งความร่วมมือ ภายหลังจากนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันที่จะใช้กลไกระดับคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น เป็นช่องทางในการหารือแนวทางบริหารจัดการพื้นที่อย่างเหมาะสมและยั่งยืนต่อไป.-313-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 สั่งกองกำลังสุรนารี ปรับเวลาเปิด-ปิด จุดผ่านแดนกัมพูชา 

8 มิ.ย.- เกาะติดสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา แม่ทัพภาค 2 ลงนามคำสั่งให้อำนาจผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี พิจารณาปรับเวลาเปิด-ปิด ด่านถาวรและจุดผ่อนปรนการค้า 4 ด่าน มีผลทันทีเมื่อคืนนี้ กองทัพภาคที่ 2 ออกหนังสือคำสั่ง การควบคุมการเปิด-ปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี ตามคำสั่งกองทัพบก เพื่อความปลอดภัยของประชาชน ให้กองทัพภาคที่ 2 โดยกองกำลังกำลังสุรนารีมีอำนาจการควบคุมการเปิด-ปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี วิธีการและเงื่อนไขหรือเงื่อนเวลา ที่จำเป็นเหมาะสม ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี ดังนี้

วุ่นแต่เช้า! ด่านคลองลึก “ไทย-กัมพูชา” เปิดไม่พร้อมกัน

สระแก้ว 8 มิ.ย.- ด่านคลองลึก วุ่นแต่เช้า! “ไทย-กัมพูชา” เปิดด่านชายแดนไม่พร้อมกัน หลังปรับเวลาวันแรก ทำคนรอหน้าด่านจำนวนมาก ด่าน ตม.อรัญประเทศ จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เปิดประตูด่านพรมแดนคลองลึก บริเวณสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา มีความวุ่นวายเกิดขึ้น เนื่องจากวันนี้นับเป็นวันแรกที่เริ่มใช้มาตรการเปิดด่านเวลา 08.00 น. พอถึงเวลา 08.00 น. เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยได้ทำการเปิดประตูด่านพรมแดน บริเวณสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา แต่ทางฝั่งกัมพูชา ไม่มีทีท่าว่าจะเปิดด่านแต่อย่างใด โดยมีชาวกัมพูชาและแรงงานชาวกัมพูชาจำนวนมากจากฝั่งไทยที่จะเดินทางกลับประเทศกัมพูชา พร้อมทั้งพนักงานกาสิโนชาวไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ต้องมายืนรอกัมพูชาเปิดด่าน ต่อมา พ.ต.อ.ณภัทรพงศ สุภาพร ผกก.ตม.จว.สระแก้ว และ ร.ท.สาโรจน์ โยธา ผบ. ร้อย ทพ.1201 ได้เดินเข้าไปสอบถามเจ้าหน้าที่กัมพูชาบริเวณประตูพรมแดนฝั่งกัมพูชาถึงสาเหตุที่กัมพูชายังไม่เปิดด่าน ซึ่งเจ้าหน้าที่ ตม.และตำรวจกัมพูชา แจ้งมาว่าเป็นคำสั่งของผู้บังคับบัญชาของกัมพูชาให้เปิดด่านเวลา 09.00 น. ซึ่งไม่ตรงกับไทย ทำให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยต้องออกประชาสัมพันธ์ให้ชาวกัมพูชาและนักท่องเที่ยวต่างชาติ รวมถึงคนไทยที่จะไปทำงานในฝั่งกัมพูชาทราบว่าด่านไทยเปิดเวลา 08.00 น. แต่ด่านกัมพูชา เปิด 09.00 น. […]