ม.รังสิต 27 ธ.ค.-เครือข่ายคนรักกัญชา และ ม.รังสิต จับมือกับเตรียมร้อง ป.ป.ช. เอาผิดอธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญาพรุ่งนี้ ฐานเพิกเฉยไม่ยกเลิกสิทธิบัตรสารสกัดจากกัญชา และเตรียมร้องศาลทรัพย์สินทางปัญญา และศาลปกครองกลางให้ยกเลิกคำขอสิทธิบัตรสารสกัดกัญชาทั้งหมด เพื่อเริ่มกระบวนการใหม่ ให้คนไทยเท่าเทียมต่างชาติ
นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีสถาบันแพทย์แผนบูรณาการและเวชศาสตร์ชะลอวัย มหาวิทยาลัยรังสิต และ ศ.พิเศษ วิชา มหาคุณ อดีตคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ และนางสาวรสนา โตสิตระกูล อดีตสมาชิกวุฒิสภา พร้อมด้วยกลุ่มคนรักกัญชา ออกมาร่วมตัวกันเรียกร้อง กรณีการเพิกเฉยของกรมทรัพย์สินทางปัญญา ต่อเรื่องการจดสิทธิบัตรสารสกัดกัญชาในบริษัทต่างชาติ หลังขีดเส้นกดดัน 15 วัน ว่า วันพรุ่งนี้ (28 ธ.ค.) ทางเครือข่ายฯ จะไปรวมตัวที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อให้ตรวจสอบการทำงานของนายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา ที่เพิกเฉย ไม่ปกป้องสิทธิคนไทยปล่อยให้มีการจดสิทธิบัตร ซึ่งกัญชาเป็นยาเสพติดโดยถือว่ามีความผิดฐานละเว้นปฏิบัติหน้าที่และปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ซึ่งจุดประสงค์ของกลุ่มในขณะนี้ ต้องการให้ทุกอย่างกลับไปเป็นศูนย์ ให้มีการเริ่มต้นจดสิทธิบัตร พร้อมกันทั้งสิทธิบัตรในคนไทย และต่างชาติ ไม่ใช่ให้ต่างชาติได้มีโอกาสมากกว่าคนไทย
นายปานเทพ กล่าวด้วยว่า ผลจากการยื่นเรื่องกัญชากับท่าทีของพรรคการเมือง 6 พรรค ทั้งประชาธิปัตย์, เพื่อไทย, พลังประชารัฐ, ภูมิใจไทย สามัญชนและอนาคตไทย ปรากฎว่ามีแค่พรรคประชาธิปัตย์ที่ตอบรับ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงท่าทีของความจริงใจของพรรคการเมืองอย่างชัดเจน ขอให้ประชาชนนำไปตัดสินใจ ว่าสมควรจะเลือกหรือไม่
นางสาวรสนา กล่าวว่า ร่าง พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษที่ผ่านการพิจารณา ยังกฎหนดให้กัญชาเป็นยาเสพติดอยู่แต่จริงๆ ควรปลดออกจากยาเสพติด และอยู่ในกลุ่มวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท ซึ่งมีการควบคุมรัดกุม และที่สำคัญกัญชา เป็นพืชยาที่อยู่กับคนไทย แต่ต้องถูกตีตราเป็นยาเสพติดเมื่อปี 2522
นายคมสันต์ โพธิ์คง อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวว่า จากนี้กระบวนการทางกฎหมาย จะเริ่มดำเนินการภายในเดือนมกราคม 2562 โดยจะไปยื่นฟ้องต่อศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ และยื่นต่อศาลปกครองกลาง โดยอาจขอให้มีการไตร่สวนฉุกเฉินแบบเร่งด่วน เพื่อให้การคุ้มครองคนไทย เนื่องจากสิทธิบัตรกัญชา ที่ขอมาทั้ง 32 คำขอ ถือว่ามีความผิดอย่างชัดเจน ไม่ใช่สิ่งใหม่ และเป็นสารตามธรรมชาติที่ไม่สามารถจดสิทธิบัตรได้ และตอนขอเป็นยาเสพติดอยู่ ไม่สมควรได้รับการจดสิทธิบัตรตั้งแต่แรก
ศ.สิริวัฒน์ วงษ์สิริ ประธานหลักสูตรสหวิทยาการ บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยแม่โจ้ กล่าวว่า เรื่องของกัญชา ส่งผลให้มหาวิทยาลัยที่สอนเด็กต้องมีการปรับตัว โดยมหาวิทยาลัยแม่โจ้ เตรียมเปิดสอนเด็กวิชากัญชงศาสตร์เพื่อให้มีความรู้เข้าใจสายพันธุ์ เหมาะกับเชิงพาณิชย์
อย่างไรก็ตามยังไม่การแสดงความคิดเห็นเรื่องการปลูกกัญชา ที่ปัจจุบันในแคนาดาสนับสนุนให้มีการปลูกกลางแจ้งแทนการปลูกในโรงเรียนที่มีต้นทุนสูง อีกทั้ง แสงแดดมีผลต่อสารสำคัญในกัญชาอีกด้วย ทั้งนี้การแสดงความเป็นห่วงเรื่องของกฎกระทรวงและประกาศกระทรวงสาธารณสุข ที่จะออก 8 ฉบับเพื่อควบคุมการปลูกการใช้กัญชาระดับวิสาหกิจชุมชน ที่ทำให้ท้ายที่สุด เป็นเรื่องของงานวิจัย ชาวบ้าน อาจไม่ได้ใช้ประโยชน์ได้จริง .-สำนักข่าวไทย