ผู้ต้องขังหนีเรือนจำไชยาซุกท่อทนกลิ่นพ่นหมอกควันไม่ไหวถูกจับแล้ว

สุราษฎร์ธานี 25 ธ.ค.-  สุราษฎร์ฯ ระดมกำลังตามจับได้แล้วผู้ต้องขังคดียาเสพติดหนีเรือนจำไชยากลางดึก ซ่อนตัวป่าพรุอยู่นานถึงเช้า ทนกลิ่นพ่นหมอกควันไม่ไหวถูกรวบคาท่อน้ำ ส่วนเพื่อนอีก 2 ถูกไฟช็อตขณะหลบหนีดับ 1 ตกกำแพงเจ็บ 1


กรณีเกิดเหตุผู้ต้องขังชายเรือนจำจังหวัดไชยา จ.สุราษฎร์ธานี หลบหนีเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา (25 ธ.ค.) พ.ต.อ.วันชัย ปะลาวัน รักษาราชการแทน ผกก.สภ.ไชยา  นำชุดเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบเหตุเบื้องต้นพบผู้ต้องขังเสียชีวิต 1 ราย  อายุ 32 ปี  อยู่บริเวณกำแพงด้านหลังเรือนจำที่มีความสูง 6 เมตร สภาพถูกไฟฟ้าช็อตติดอยู่กับสายไฟ  และยังมีผู้ต้องขังบาดเจ็บอีก 1 ราย อายุ 43 ปี แขนหักคาดว่าตกลงมาจากกำแพง ส่วนผู้ต้องขังที่หลบหนีไปได้ 1 ราย  อายุ 26 ปี

ด้าน พล.ต.ต.อภิชาติ บุญศรีโรจน์ ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี สั่งระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งจาก สภ.ท่าฉาง  สภ.ท่าชนะ สภ.เสวียด และชุดปฏิบัติการพิเศษภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี  ร่วมกับเจ้าหน้าที่เรือนจำจังหวัดไชยา และเจ้าหน้าที่เรือนจำกลางสุราษฎร์ธานี พร้อมสุนัขดมกลิ่นจากตำรวจตระเวนชายแดนที่ 41 เร่งค้นหาอย่างกระชั้นชิดในพื้นที่ด้านหลังกำแพงเรือนจำ ซึ่งเป็นพื้นที่ป่าพรุขนาดกว้าง และมีบ้านเรือนประชาชน จนถึงเช้าตรู่ยังไม่พบร่องรอย แต่เจ้าหน้าที่เชื่อว่ายังหลบหนีไปไม่ไกลและคงได้รับบาดเจ็บเช่นกัน


ล่าสุด (09.30 น.) เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องใช้เครื่องพ่นหมอกควันอัดใส่ตามท่อระบายน้ำด้านหลังป่าพรุ และเป็นไปตามคาดการณ์ ฝาท่อขนาดใหญ่อยู่ห่างจากกำแพงเรือนจำประมาณ 30 เมตร ผู้ต้องขังที่หลบหนีพยายามดันขึ้นมา เนื่องจากทนกลิ่นควันไม่ไหว และได้รับบาดเจ็บข้อเท้า เจ้าหน้าที่จึงคุมตัวไปรักษาและสอบสวนเพื่อดำเนินการตามกฎหมาย

พ.ต.อ.วันชัย  กล่าวว่า จากการตรวจสอบทราบว่าผู้ต้องขังที่เสียชีวิตถูกจับกุมคดียาเสพติด ยาบ้า 38 เม็ด ของ สภ.ท่าชนะ คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล ขณะที่ผู้บาดเจ็บ อายุ 43 ปี ถูกจับกุมคดียาเสพติด (ไอซ์) 30 จี ของ สภ.ท่าฉาง ศาลตัดสิน 2 ปี 3เดือน อยู่ระหว่างอุทธรณ์ และยังถูกจับกุมคดียาเสพติด (ไอซ์) 30 จี ของสภ.ท่าฉางอีกคดีหนึ่ง อยู่ระหว่างสอบสวน รวม 2 คดี  ส่วนผู้หลบหนีถูกจับกุมคดียาเสพติด ยาบ้า 1,752 เม็ด ของ สภ.ท่าชนะ คดีอยู่ระหว่างสอบสวน.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง