ลำปาง 22 ธ.ค.- ทีมสัตวแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากมูลนิธิเพื่อนช้าง ลำปาง เร่งเดินทางสู่สวนนงนุชพัทยาช่วยรักษาลูกช้างถูกบ่วงรัดขาลึกถึงกระดูก ด้าน “โซไรดา” เผยเสียใจลูกช้างป่าอีกตัวที่ประจวบฯ ล้มก่อน ยังไม่ทันได้ไปช่วย
น.ส.โซไรดา ซาลวาลา เลขาธิการมูลนิธิเพื่อนช้าง อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง เปิดเผยว่า หลังจากมีข่าวลูกช้างได้รับบาดเจ็บ 2 ตัว ตัวแรกคือที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นลูกช้าง เพศผู้ อายุ 5 ปี นอนบาดเจ็บใกล้ชายป่าหุบน้ำโจน อ.ปราณบุรี ทางมูลนิธิเพื่อนช้างได้ติดต่อไปยังนายสัตวแพทย์ภัทรพล มณีอ่อน นายสัตวแพทย์ประจำกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช เพื่อร่วมให้ความช่วยเหลือ แต่เป็นที่น่าเสียใจลูกช้างล้มแล้วเมื่อวานนี้ (21 ธ.ค.) หลังจากเคลื่อนย้ายออกจากป่ามารักษาที่ศูนย์รักษาชั่วคราว ภายในอุทยานแห่งชาติกุยบุรี แม้ทีมสัตวแพทย์พยายามรักษาอย่างเต็มที่
น.ส.โซไรดา กล่าวว่า ส่วนลูกช้างอีกตัวเป็นลูกช้าง เพศเมีย วัย 1 เดือน ถูกบ่วงลวดรัดขาแน่นจนถึงกระดูก ทางส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สำนักงานบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 (ศรีราชา) และเจ้าหน้าที่เขรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน ก็ย้ายช้างมารักษาที่สวนนงนุชพัทยา อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เพื่อความสะดวกในการดูแลรักษา ทีมสัตวแพทย์ของมูลนิธิเพื่อนช้างได้ออกเดินทางไปร่วมสมทบ เพื่อร่วมช่วยเหลือช้างน้อย นำโดยนายสัตวแพทย์ปรีชา พวงคำ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลช้าง มูลนิธิเพื่อนช้าง ซึ่งมีความเชี่ยวชาญ และเคยผ่าตัดรักษาช้างเหยียบกับระเบิดจนขาขาดมาแล้ว เช่น พังโม่ตาลา ขณะนี้ยังมีชีวิตอยู่ และขาที่ขาดได้รับผ่าตัดรักษาจนอาการดีขึ้น สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติภายในโรงเรือนพยาบาลช้าง ดังนั้น หวังว่าความรู้ความสามารถของนายสัตวแพทย์ปรีชา จะเป็นประโยชน์ และมีส่วนร่วมในการให้คำแนะนำในการรักษาช้างน้อยตัวดังกล่าวได้ เพื่อร่วมกันอนุรักษ์ช้าง และรักษาช้างไทยให้มีสุขภาพ และมีชีวิตอยู่คู่ประเทศไทยต่อไป.-สำนักข่าวไทย
