fbpx

“อุตตม”เร่งรัดกนอ.ทำความเข้าใจชาวบ้านพัฒนามาบตาพุดเฟส 3

จ.ระยอง 18 ธ.ค.-รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมเร่งรัดการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(กนอ.)ชี้แจงทำความเข้าใจชาวบ้าน
หลังผลศึกษา
EIA ถมทะเลยังไม่ผ่าน  ยอมรับต่างชาติยังสนใจลงทุน


นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม
ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าเพื่อประชุมกับหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
หลังจากแผนการถมทะเลลึกนับพันไร่ เพื่อจอดเรือบรรทุกสินค้าขนาดใหญ่
ยังไม่ผ่านการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมและผลกระทบสุขภาพ    (
EIAและEHIA) รองรับโครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด
ระยะที่
3 
แม้จะเปิดรับฟังความคิดเห็นของชาวบ้านในพื้นที่ครบแล้วทั้ง
3 ครั้ง ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
(สผ.) ต้องใช้เวลาพิจารณาถึง
8 เดือน จนเกือบถึงสิ้นปีงบประมาณ
25
62   อาจทำให้แผนการถมทะเลต้องปรับการใช้งบประมาณจากปี
2562-2563 เลื่อนไปเป็นปี 2563-2564

ต้องการให้ กนอ.เร่งทำความเข้าใจกับชาวบ้านเพิ่มเติม
โดยเฉพาะกลุ่มชาวประมง สร้างขึ้นมาแล้วประเทศได้ประโยชน์อย่างไร
ชาวบ้านในพื้นที่รับประโยชน์อย่างไร   ยืนยันว่าเอกชนทั้งไทยและต่างชาติ
ยังสนใจโครงการลงทุน จึงไม่น่าเกิดปัญหา เพราะนักลงทุนไทย จีน ญี่ปุ่น เนเธอแลนด์
พร้อมเสนอการลงทุน โดยเฉพาะปตท. ที่ต้องการสร้างห้องเก็บความเย็นขนาดใหญ่
เป็นผลต่อเนื่องจากการกลั่นปิโตรเคมี เพื่อใช้เก็บรักษาผลไม้ในภาคตะวันออก
รองรับการจำหน่ายได้ตลอดทั้งปี และขณะนี้แผนการศึกษาคืบหน้าไปมาก เป็นที่น่าพอใจ

นายอุตตม กล่าว


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า
รูปแบบการลงทุนก่อสร้างท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่
3 มูลค่าลงทุน 55,400
ล้านบาท เป็นแบบ PPP หรือรัฐร่วมลงทุนกับเอกชนที่ลงทุนก่อสร้างและดำเนินการทั้งหมด
โดยกนอ. จะร่วมลงทุน
12,900 ล้านบาท หรือร้อยละ 30 และเอกชนลงทุน 35,000 ล้านบาท ในส่วนของ กนอ. แบ่งจ่ายให้กับเอกชนเป็นรายปี
ๆ ละ
660 ล้านบาทเป็นเวลา 30 ปี
สำหรับเงินส่วนนี้เป็นค่าใช้จ่ายในการถมทะเลจำนวน
1,000 ไร่
เพื่อเพิ่มขีดความสามารถและความจุในการขนถ่ายก๊าซธรรมชาติ
10.8 ล้านตัน/ปี และสินค้าเหลว 4 ล้านตัน/ปี  หวังสร้างให้เป็นท่าเรืออุตสาหกรรมในระดับภูมิภาค 
คาดว่าหลังเปิดประมูลจะสรุปเอกชนผู้ร่วมทุนลงทุนในเดือนมกราคม ปี
2562
และจะเปิดดำเนินการได้ในปี 2568.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบจุดที่ ฮ.ปธน.อิหร่านตกแล้ว

เตหะราน 20 พ.ค.- สื่อทางการอิหร่านรายงานอ้างแหล่งข่าวภาคสนามว่า ผลการตรวจตราทางอากาศในพื้นที่ที่เฮลิคอปเตอร์ของประธานาธิบดีเอบราฮิม เรซี ประสบเหตุตก สามารถกำหนดพิกัดการตกที่แม่นยำได้แล้ว เว็บไซต์สำนักข่าวไออาร์เอ็นเอ (IRNA) ของทางการอิหร่านรายงานว่า ทีมค้นหาและกู้ภัยกำลังเดินทางไปยังจุดที่อาจเกิดอุบัติเหตุ แต่ยังไม่มีการยืนยันเรื่องนี้จากทางการ ขณะเดียวกันโดรนของทูร์เคียหรือตุรกีได้ตรวจพบจุดความร้อนที่น่าจะเป็นจุดที่เฮลิคอปเตอร์ตก ผู้บัญชาการของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามของอิหร่านยืนยันว่า โดรนทูร์เคียพบจุดความร้อนที่น่าจะเป็นซากเฮลิคอปเตอร์ ไออาร์เอ็นเอรายงานว่า แม้ว่าสภาพอากาศเลวร้ายหมอกลงจัดและมีฝนตก ทีมกู้ภัยกำลังเร่งค้นหาเฮลิคอปเตอร์ที่ประธานาธิบดีไรซีโดยสารมาพร้อมกับคณะและหายไปเมื่อวันอาทิตย์ขณะบินอยู่เหนือภาคตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ โดยได้ค้นหาอย่างละเอียดตามพื้นที่เทือกเขาและเนินเขาใกล้เมืองวาร์ซากานในจังหวัดอาร์เซอร์ไบจานตะวันออก.-814.-สำนักข่าวไทย

เร่งวิจัยยาฉีดพ่นรักษามะเร็งปอด คาดสำเร็จใน 3 ปี

การรักษามะเร็งมีความหวังมากขึ้น หลังนักวิจัยไทยจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ร่วมกับนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก ใช้เทคโนโลยีรักษามะเร็งสมองได้สำเร็จ และนำมาวิจัยต่อยอดรักษามะเร็งกระดูกอ่อนและมะเร็งตับแนวใหม่ได้ผล ซึ่งจะเป็นจุดเริ่มต้นการวิจัยยารักษามะเร็งปอดแบบฉีดพ่น

รวบแล้วหนุ่มปากี-เมียคนไทย ลวงชายอินเดียฆ่าทิ้งศพ

ตำรวจภูธรภาค 8 จับกุมชายปากีสถาน พร้อมภรรยาชาวไทย ลวงชายอินเดียมาฆ่าแล้วทิ้งศพริมถนน พุ่งเป้าปมขัดแย้งธุรกิจ โดยมีหลักฐานสำคัญจากวงจรปิดที่จับภาพเหตุการณ์ ขัดแย้งกับคำให้การของผู้ต้องหา

Made in Thailand แดนไทยเท่ : จากเมืองเก่าภูเก็ตสู่แพ็กเกจกล่องชิโนโปรตุกีส

ช่วง Made in Thailand แดนไทยเท่ วันนี้ จะพาไปดู มนต์เสน่ห์ของตึกรามบ้านช่องในย่านเมืองเก่าภูเก็ต ที่ถูกถ่ายทอด ไปสู่กล่องขนมรูปแบบชิโนโปรตุกีส กลายเป็นซอฟต์พาวเวอร์ภูเก็ตและไทยที่โดนใจนักท่องเที่ยวทั่วโลก

ข่าวแนะนำ

ตรวจสอบเรือยอชต์ถูกเพลิงไหม้ ขณะจอดลอยลำหน้าเกาะโหลน อ่าวฉลอง จ.ภูเก็ต

เจ้าท่าภูมิภาค สาขาภูเก็ต ประสานตำรวจตรวจสอบสาเหตุเพลิงไหม้เรือยอชต์เสียหายทั้งลำ ขณะผูกทุ่นลอยลำอยู่หน้าเกาะโหลน อ่าวฉลอง จ.ภูเก็ต คาดเสียหายกว่า 100 ล้านบาท

กรมอุตุฯ ประกาศเข้าฤดูฝนเป็นทางการแล้ว

กรุงเทพฯ 21 พ.ค.- กรมอุตุนิยมวิทยาประกาศเริ่มฤดูฝนอย่างเป็นทางการแล้วตัั้งแต่ 20 พ.ค. โดยพบว่า ปัจจัยทางอุตุนิยมวิทยาครบทุกปัจจัย ฤดูฝนปีนี้อาจมีพายุหมุนเขตร้อน 1 – 2 ลูกเท่าค่าเฉลี่ยปกติ สภาวะเอลนีโญจะสิ้นสุด แล้วพลิกกลับเป็นลานีญา ทำให้ฝนตกชุก ดังนั้นช่วงปลายฤดูฝนจะตกชุกหนาแน่นทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้ในบางพื้นที่ นางสาวกรรวี สิทธิชีวภาค อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยากล่าวว่า ได้ออกประกาศรื่อง การเริ่มต้นฤดูฝนของประเทศไทย พ.ศ. 2567 โดยประเทศไทยได้สิ้นสุดฤดูร้อนและเริ่มต้นเข้าสู่ฤดูฝนแล้ว ตั้งแต่เมื่อวานนี้ (วันที่ 20 พฤษภาคม) เนื่องจากบริเวณประเทศไทยตอนบน สภาพอากาศมีฝนตกชุกหนาแน่นครอบคลุมพื้นที่มากกว่าร้อยละ 60 และต่อเนื่อง 3 วันขึ้นไป ประกอบกับลมชั้นบนที่พัดปกคลุมประเทศไทยที่ระดับความสูงประมาณ 1.5 กิโลเมตรได้เปลี่ยนทิศเป็นลมตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งจะพัดนำความชื่นจากะเลอันดามันเข้ามาปกคลุมบริเวณประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ส่วนลมชั้นบนที่ระดับความสูงประมาณ 10 กิโลเมตรได้เปลี่ยนทิศเป็นลมฝ่ายตะวันออก เมื่อปัจจัยทางอุตุนิยมวิทยาครบทั้ง 3 ปัจจัยจึงถือว่า เป็นการเข้าสู่ฤดูฝนของประเทศไทยในปีนี้ ทั้งนี้ฤดูฝนของประเทศไทยตอนบนจะสิ้นสุดประมาณกลางเดือนตุลาคม ส่วนภาคใต้โดยเฉพาะฝั่งตะวันออกจะมีผนตกชุกหนาแน่นต่อไปอีกจนถึงกลางเดือนมกราคม สำหรับปรากฏการณ์เอนโซ (ENSO) ขณะนี้อยู่ในสภาวะเอลนีโญกำลังอ่อน โดยเป็นช่วงท้ายของสภาวะเอลนีโญ คาดการณ์ว่า จะเข้าสู่สภาวะเป็นกลางหรือ Neutral ในเดือนมิถุนายน […]

อิหร่านเตรียมจัดพิธีศพประธานาธิบดี

อิหร่านเริ่มเตรียมจัดพิธีศพประธานาธิบดีเอบราฮิม ไรซี พร้อมเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ ที่เสียชีวิตจากเหตุเฮลิคอปเตอร์ตกเมื่อวันอาทิตย์ ส่วนที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ยืนสงบนิ่งไว้อาลัยต่อการจากไปของผู้นำอิหร่านด้วย