กระบี่ 17 ธ.ค. – ฮีโร่ชาวกระบี่ที่เคยเสี่ยงชีวิตช่วยนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ถูกโคลนดูดเมื่อปี 2558 จนทำให้ทั่วโลกต่างประทับใจกับน้ำใจของคนไทย แต่ทว่าชีวิตทุกวันนี้ต้องประสบกับภาวะปวดหลังเรื้อรัง เหตุมาจากการให้นักท่องเที่ยวเหยียบหลังขึ้นจากโคลน ปัจจุบันต้องหยุดออกเรือหาปลา ขาดรายได้จุนเจือครอบครัว
นายชัช อุบลจินดา ชาวประมงฮีโร่ อายุ 47 ปี ชาวตำบลปากน้ำ อ.เมืองกระบี่ ให้สัมภาษณ์ถึงอาการบาดเจ็บที่แผ่นหลัง จนทำให้การใช้ชีวิตไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ภายหลังจากที่เมื่อ 3 ปีก่อนได้สร้างวีรกรรมที่โจษจันไปทั่วทั้งโลก ด้วยการเดินลุยโคลนไปช่วยสองสามีภรรยานักท่องเที่ยวชาวนอร์เวย์ คือ นายอาริลด์ ฮาเกน และนางกูว ยาเซียง ที่กำลังถ่ายรูปสัตว์น้ำที่ป่าชายเลน จนรอดชีวิตจากการถูกโคลนดูดที่บริเวณริมเขื่อนปากแม่น้ำ ทุกวันนี้เจ้าตัวต้องประสบปัญหาเพราะทำงานหนักไม่ได้
สำหรับอาการปวดที่แผ่นหลัง มาจากการช่วยเหลือนักท่องเที่ยว โดยช่วงแรกยอมรับว่ามีอาการเจ็บ แต่คิดว่าไม่นานคงหาย แต่พอเวลาผ่านไปกลับมีอาการปวดมากขึ้น และซื้อยารับประทานเอง อีกทั้งช่วงนั้นต้องเดินทางไปโชว์ตัวและรับรางวัลจนไม่มีเวลาพบแพทย์ กระทั่งเมื่อเดือนที่ผ่านมา แพทย์ได้เอกซเรย์พบจุดดำที่บริเวณข้อต่อกระดูกช่วงเอว คาดว่าเกิดจากการที่ถูกนักท่องเที่ยวที่รอดชีวิตใช้เข่ากดไปที่เอวเพื่อดึงตัวเองขึ้นมาจากโคลน
นายชัช พาผู้สื่อข่าวไปสำรวจเรือที่จอดทิ้งไว้บนโคลน เนื่องจากไม่สามารถออกเรือได้ จึงวิงวอนหน่วยงานที่ใจบุญเข้าช่วยเหลือพาไปรักษาให้หายขาด เพื่อให้สามารถกลับไปหาปลาได้เหมือนเดิม อย่างน้อยได้วันละ 200 – 300 บาท ก็ยังดี เพราะทุกวันนี้ตนเองไม่มีรายได้ใดๆ แต่นายชัชยืนยันคำเดิมว่า ไม่เคยเสียใจที่ช่วยเหลือนักท่องเที่ยวทั้งสองคน และยืนยันจะทำความดีต่อไป หลังจากเพิ่งครบรอบ 3 ปีเหตุการณ์ดังกล่าวเมื่อวันที่ 16 ธันวาคมที่ผ่านมา. – สำนักข่าวไทย