ธปท.แนะเอสเอ็มอีปรับตัวยกระดับการแข่งขัน

ธปท. 17 ธ.ค.-ธปท. แนะเอสเอ็มอีปรับตัวเพื่อยกระดับศักยภาพการแข่งขัน ทั้งการใช้เทคโนโลยีและลดขั้นตอนการทำธุรกิจ
ช่วยขยายโอกาสและสร้างความเท่าเทียมแก่เอสเอ็มอี ให้มากขึ้น


น.ส.ศราวัลย์ อังกลมเกลียว ผู้ช่วยผู้อำนวยการ
ฝ่ายนโยบายโครงสร้างเศรษฐกิจ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยผลสำรวจ
SMEs กว่า 2,400 ราย ทั่วประเทศเพื่อศึกษาปัญหา อุปสรรคและการปรับตัวเพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหาและช่วยเหลือ
SMEs ว่า SMEs ไทยต้องเผชิญกับ 2 ปัญหาหลัก คือ ต้นทุนธุรกิจสูงและการแข่งขันรุนแรง จากทั้ง SMEs ด้วยกันเอง ธุรกิจขนาดใหญ่และธุรกิจ E-Commerce ทำให้ลูกค้ามีทางเลือกในการบริโภคสินค้าและบริการในราคาและคุณภาพที่หลากหลาย
ส่งผลให้
SMEs ร้อยละ 70
ใช้กลยุทธ์ด้านราคาเพื่อดึงดูดลูกค้าและเพิ่มยอดขาย มีเพียงร้อยละ
30 ที่ใช้กลยุทธ์พัฒนาผลิตภัณฑ์ และบริหารจัดการต้นทุนให้น้อยลง
ส่งผลให้ผลประกอบการดีขึ้นและภาระต้นทุนทางการเงินลดลง

ทั้งนี้ ผลสำรวจระบุว่า การที่ 
SMEs  ปรับตัวด้วยการเข้าสู่ตลาดออนไลน์
แต่ยังคงขายสินค้าและบริการที่ไม่มีเอกลักษณ์ไม่เพียงพอที่จะทำให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืนได้
เนื่องจากตลาดออนไลน์มีการแข่งขันที่รุนแรงจากคู่แข่งจำนวนมากและเน้นแข่งขันด้วยราคา
ดังนั้นการมุ่งยกระดับคุณภาพสินค้าและบริการให้แตกต่างจากคู่แข่ง
จึงเป็นการสร้างความเข้มแข็งของธุรกิจในระยะยาว


ขณะที่  SMEs  ในเมืองรองมีความท้าทายมากกว่า  SMEs ในเมืองหลัก
เพราะตลาดขนาดเล็ก ต้องแข่งขันรุนแรงกับธุรกิจขนาดใหญ่ที่ขยายเข้ามาในพื้นที่ เช่น
Modern Trade ห้างสรรพสินค้า  โรงแรม นอกจากนี้ยังมีต้นทุนแรงงานสูงเพราะขาดแคลนแรงงาน
จากการอพยพย้ายถิ่นเข้าสู่หัวเมือง แรงงานรุ่นใหม่ต้องการทำงานในสำนักงาน
และโครงสร้างพื้นฐานไม่เอื้ออำนวย อาทิ ถนนชำรุดคับแคบ ไฟฟ้าดับบ่อย
อินเทอร์เนตไม่เสถียร ทำให้ 
SMEs  เมืองรองเสียโอกาสทางการค้าและภาระต้นทุนธุรกิจสูงขึ้น

ทั้งนี้ ธปท. มองว่า  SMEs  ต้องปรับตัวเพื่อยกระดับศักยภาพการแข่งขัน
ขณะเดียวกันการสนับสนุนให้ 
SMEs  ปรับตัวและใช้เทคโนโลยีด้วยต้นทุนที่ต่ำลง
มีภาระด้านต้นทุนกฎเกณฑ์ และขั้นตอนการทำธุรกิจที่ลดลง
จะช่วยขยายโอกาสและสร้างความเท่าเทียมแก่ 
SMEs  ให้มากขึ้น โดยเฉพาะ  SMEs 
ในจังหวัดเมืองรอง สำหรับ ธปท. จะต้องมุ่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินกลางให้เอื้อต่อการสร้างนวัตกรรมทางการเงิน
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบการเงิน
และเพิ่มโอกาสการเข้าถึงบริการทางการเงินด้วยต้นทุนที่เหมาะสม . – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สาวซิ่งรถหรูชนท้าย จยย. ทำแม่ลูกดับ 3 ศพ

แม่ขี่ จยย.ไปรับลูก 2 คน กลับจากเรียนพิเศษ ถูกสาวขับรถหรูซิ่งชนท้าย ร่างกระเด็นตกสะพานข้ามรางรถไฟ เสียชีวิตทั้ง 3 คน ส่วนผู้ก่อเหตุอุ้มแมว ทิ้งรถ หลบหนีไป

ปิดล้อมล่ามือปืนคลั่งสังหาร 3 ศพ

ตำรวจเร่งไล่ล่ามือปืนคลั่งก่อเหตุยิง 3 ศพ ในพื้นที่ จ.หนองบัวลำภู ล่าสุดปิดล้อมพื้นที่กว่า 1,000 ไร่ รอยต่อ จ.เลย หลังพบเบาะแสคนร้ายหนีไปซ่อนตัว ขณะที่ชนวนสังหารยังไม่แน่ชัด

ลูกชายมือปืนคลั่งยิง 3 ศพ พาครอบครัวหนีตาย พ่อโพสต์ขู่ฆ่าล้างครัว

ลูกชายมือปืนคลั่งยิงดับ 3 ศพ ต้องพาภรรยาและลูก รวมถึงพ่อตา-แม่ยาย หนีไปอยู่ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง หลังพ่อโพสต์ข้อความขู่จะฆ่าล้างครัว เหตุจากปัญหาในครอบครัว

ชายคลั่งยิง3ศพ

ชายคลั่งยิงดับ 3 ศพ โผล่วัดที่ จ.เลย ขอข้าวกิน ก่อนหนีเข้าป่า

แม่ครัววัดภูคำเป้ ต.ผาสามยอด อ.เอราวัณ จ.เลย เผยพบชายคลั่งยิงดับ 3 ศพ เดินเข้ามาในวัดด้วยสภาพอิดโรย ขอข้าวกิน ลักษณะรีบกินเหมือนวิตกกังวล หลังกินเสร็จรีบเดินเข้าป่าหายไป ก่อนมาทราบภายหลังว่าเป็นผู้ก่อเหตุยิงคนเสียชีวิต

ข่าวแนะนำ

สงขลาประกาศเขตภัยพิบัติแล้วทุกอำเภอ เร่งช่วยน้ำท่วมวิกฤติ

ผู้ว่าฯ สงขลา ลงนามประกาศให้ทั้ง 16 อำเภอ เป็นเขตพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินอุทกภัยและวาตภัย เพื่อเร่งรัดให้ความช่วยเหลือประชาชน บรรเทาความเดือดร้อน โดย อ.จะนะ เทพา นาทวี และสะบ้าย้อย ยังมีระดับน้ำท่วมเพิ่มสูงขึ้น

จ.ยะลา น้ำท่วมสูงสุดเป็นประวัติการณ์รอบหลายสิบปี

จ.ยะลา โดยเฉพาะ อ.เมือง ปีนี้น้ำท่วมสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในรอบหลายสิบปี และวันนี้ (28 พ.ย.) น้ำยังขยายวงกว้างอีกหลายจุด ประชาชนได้รับความเดือดร้อนมากกว่า 120,000 คน ถนนถูกน้ำท่วมแล้ว 158 สาย ใน 8 อำเภอ 58 ตำบล

ศาลไม่ให้ประกันเมีย-ลูก “หมอบุญ” ชี้ความเสียหายสูง หวั่นหลบหนี

ศาลอาญาไม่ให้ประกันภรรยา-ลูก “หมอบุญ” ชี้การสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ความเสียหายสูง เกรงหลบหนี ยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน ส่วนปมปลอมลายมือชื่ออยู่ระหว่างตรวจพิสูจน์

มือยิง 3 ศพ ขอโทษ-สำนึกผิด อ้างบันดาลโทสะ

ตำรวจแถลงข่าวจับกุม “สามารถ” ผู้ต้องหายิง 3 ศพ ในพื้นที่ อ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู หลังจากติดต่อมอบตัว พร้อมยอมรับผิด ขอโทษญาติผู้เสียชีวิต อ้างบันดาลโทสะจึงก่อเหตุ และไม่มีอาการคลั่งตามที่เป็นข่าว