คนแห่ช้อปโอทอปช่วยชาติ

นนทบุรี 16 ธ.ค. – เปิดยิ่งใหญ่ “OTOP CITY Happy Market 2018”  ขานรับช้อปช่วยชาติ คาดเงินสะพัดกว่า 900 ล้านบาท พร้อมจับมือ ททท.จัดแพคเกจทัวร์ท่องเที่ยวหมู่บ้าน OTOP นวัตวิถี ดึงคนสู่ชุมชน ภายใต้คอนเซปต์ไทยเท่ สร้างรายได้หมุนเวียน กระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก



บรรยากาศงาน OTOP City 2018 ครั้งที่ 13 ภายใต้แนวคิด “OTOP City Happy Market 2018 : ตลาดแห่งความสุข” จัดขึ้นโดยกรมการพัฒนาชุมชนคึกคัก ประชาชนเดินทางมาเลือกซื้อสินค้าเพื่อเป็นของขวัญของฝากในโอกาสใกล้เทศกาลปีใหม่คึกคัก บางส่วนนำถุงผ้าหรือรถล้อลากเล็ก ๆ มาเพื่อใส่สินค้า ช่วยลดการใช้ถุงพลาสติกและช่วยลดโลกร้อน  ด้านผู้จัดงานเตรียมรถล้อลากให้ประชาชนยืมใช้บริการ รวมถึงรถวีลแชร์สำหรับผู้สูงอายุและผู้พิการด้วย 


นางสาวกนิษฐา มะลิทอง เจ้าของแบรนด์ ดิเอ้ น้ำผึ้งมะนาว Young OTOP ที่มาเข้าร่วมงาน กล่าวว่า มีการเตรียมความพร้อมรองรับมาตรการช้อปช่วยชาติด้วยการจัดชุดผลิตภัณฑ์หลากหลายเป็นชุดของขวัญ ของฝาก เพื่อมอบให้กันในเทศกาลปีใหม่ พร้อมสตอกมะนาวจำนวนมากให้เพียงพอกับความต้องการของผู้บริโภค ขณะดียวกันประสานกรมการพัฒนาชุมชนออกใบกำกับภาษีเต็มรูปให้กับผู้ที่ต้องการใช้สิทธิ์ช้อปช่วยชาติ


นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวว่า การจัดงาน OTOP City 2018 ปีนี้จัดภายใต้แนวคิด “OTOP City Happy Market 2018 : ตลาดแห่งความสุข” ตั้งเป้ามีผู้เข้าชมงานไม่น้อยกว่า 400,000 ราย และสร้างงานสร้างรายได้ไม่น้อยกว่า 900 ล้านบาท สามารถช่วยกระจายรายได้ให้กับเศรษฐกิจชุมชนฐานรากให้มีความเข้มแข็งประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี และกระตุ้นเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศมากยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ กรมการพัฒนาชุมชนได้รวม 10 ความสุขไว้มอบให้กับคนไทยภายในงาน OTOP City 2018 อาทิ สุข OTOP ระดับนานาชาติ สุขจากชุมชนท่องเที่ยว สุขสันต์ ของขวัญ OTOP ฯลฯ ถือเป็นการสร้างความสุขให้กับทั้งทุกภาคส่วนทั้งผู้ผลิต ผู้ประกอบการ ชุมชน ผู้บริโภค ตลอดจนหน่วยงานภาคีต่าง ๆ นอกจากนี้ ยังเป็นการขานรับนโยบายช้อปช่วยชาติของรัฐบาล ด้วยการจำหน่ายสินค้า OTOP ที่สามารถนำใบเสร็จจากการซื้อสินค้าภายในงานไปลดหย่อนภาษีได้ด้วย ส่วนกระแสตอบรับจากผู้เข้าชมงานวันแรก (15 ธ.ค.) สร้างยอดขายกว่า 122 ล้านบาท มีผู้ซื้อสินค้าภายในงานมาขอใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบประมาณ 10 ล้านบาท คาดมาตรการช้อปช่วยชาติกระตุ้นยอดขายภายในงานตลอด 9 วัน โตร้อยละ 10 หรือมียอดขายเพิ่มอีก 100 ล้านบาท

นอกจากนี้ กรมการพัฒนาชุมชนยังร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) นำเสนอขายเส้นทางท่องเที่ยวโครงการ “ชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี” ซึ่งถือเป็นรูปแบบใหม่ของการนำการท่องเที่ยวมาเชื่อมโยงกับการบริการและผลิตภัณฑ์ชุมชนด้วย จึงอยากเชิญชวนทุกคนให้มาสัมผัสเสน่ห์ทั้ง 10 ความสุขในช่วงเทศกาลแห่งความสุข ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่มาชม ชิม ช้อป มาอุดหนุนสินค้าจากภูมิปัญญาไทยเป็นของขวัญของฝากให้กับบุคคลที่เคารพรัก เพื่อส่งเสริมให้เกิดการหมุนเวียนระบบเศรษฐกิจในชุมชนให้มีรายได้เพิ่มขึ้น ตามนโยบายของรัฐบาล 

สำหรับภายในงาน มีกิจกรรมต่าง ๆ ประกอบด้วย การจัดแสดงนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร รัชกาลที่ 10  นิทรรศการจากหน่วยงานภาคี เช่น ตลาดประชารัฐต้องชมจากกระทรวงพาณิชย์ ตลาดประชารัฐ ตลาดวัฒนธรรม โดยกระทรวงวัฒนธรรม นิทรรศการชุมชนท่องเที่ยว โดย ททท. ผลิตภัณฑ์สมุนไพรสู่สากล โดยกระทรวงสาธารณสุข เป็นต้น การจัดแสดงผลิตภัณฑ์ Highlight  ได้แก่ การจัดแสดงของขวัญปีใหม่ จาก 40 จังหวัด, การจัดแสดงหมู่บ้านท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี  8 หมู่บ้าน, การจัดแสดงผลิตภัณฑ์จากตลาดประชารัฐคนไทยยิ้มได้ ตลาดประชารัฐของดีจังหวัด ศิลปิน OTOP และตลาดประชารัฐ Modern Trade  การจัดแสดงผลิตภัณฑ์ OTOP สู่สากล เช่น OTOP On Board OTOP Branding และ OTOP Export  การจัดแสดงและจำหน่ายสินค้า OTOP ระดับ 3-5 ดาว มากกว่า 20,000 รายการ  การจำหน่ายอาหารชวนชิม และ Street food ซึ่งเน้นความสะอาดอร่อย ปลอดภัย ปราศจากโฟม และกิจกรรมการบริการโซนพิเศษ เช่น Health & Spa, ธนาคารออมสิน, ไปรษณีย์ไทย, จุดบริการรับห่อของขวัญ ฯลฯ 

นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมความบันเทิงต่าง ๆ เช่น การแสดงศิลปวัฒนธรรม การแสดงมินิคอนเสิร์ต กิจกรรมสินค้านาทีทอง การจับสลากมอบสร้อยคอทองคำให้กับผู้โชคดีภายในงานทุกวัน และยังได้ลุ้นเพิ่มรางวัลใหญ่ในวันสุดท้าย ทองคำ 100,000 บาท จำนวน 5 รางวัล และเครื่องใช้ไฟฟ้าอีกมากมาย โดยงานจะมีไปจนถึงวันที่ 23 ธันวาคม 2561 ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1 – 3  อิมแพ็ค เมืองทองธานี . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดเนื้อหาหนังสือแจง UNSC กัมพูชาวางทุ่นระเบิด-เริ่มยิงก่อน

25 ก.ค.- เปิดเนื้อหาหนังสือจากผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติที่นิวยอร์ก เพื่อชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทย ประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ส่งหนังสือชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ระบุว่า ขอแจ้งให้ท่านและสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติทุกท่านทราบ ถึงสถานการณ์อันร้ายแรงที่ส่งผลกระทบต่ออธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย อันเป็นผลจากการรุกรานทางทหารของประเทศกัมพูชา โดยมีรายละเอียด ดังนี้ 1.     เมื่อวันที่ 16 และ 23 กรกฎาคม ค.ศ. 2025 ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารไทยกำลังลาดตระเวนตามเส้นทางปกติที่กำหนดไว้ ซึ่งอยู่ภายในอาณาเขตของประเทศไทย ทหารได้เหยียบทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 ส่งผลให้ทหาร 2 นาย ได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัสส่งผลถึงขั้นพิการถาวร ขณะที่ทหารนายอื่น ๆ ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส ทุ่นระเบิด PMN-2 ทั้งหมดที่พบอยู่ในสภาพใหม่ ยังมีเครื่องหมายที่มองเห็นได้ชัดเจน หลักฐานบ่งชี้ว่าทุ่นระเบิดเหล่านี้เพิ่งถูกวางใหม่ ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นรัฐภาคีของอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ไทยได้ยื่นรายงานประจำปีเกี่ยวกับความโปร่งใสในการดำเนินการตามพันธกรณีในอนุสัญญาดังกล่าว ตามมาตรา 7 ของอนุสัญญาฯ อย่างต่อเนื่อง รายงานดังกล่าวระบุว่าประเทศไทยได้ทำลายทุ่นระเบิดในคลังทั้งหมดแล้วตั้งแต่ปี ค.ศ. 2003 และต่อมา ได้ทำลายทุ่นระเบิดทั้งหมดที่เก็บไว้เพื่อการฝึกอบรมและการวิจัยในปี ค.ศ. […]

“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน”

ก.มหาดไทย 25 ก.ค.-“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน” ชี้รับฟังทุกความไม่พอใจ แต่ทุกอย่างเป็นไปตามยุทธวิธี ให้ทหารมีอิสระในการทำงาน มอง “ก่อแก้ว” ขอศาล รธน. คืนอำนาจให้ “แพทองธาร” เป็นความเห็นเหมือนประชาชนจำนวนมาก แต่ให้เป็นตามกระบวนการยุติธรรม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ ระบุถึง อยากให้กองทัพสั่งสอนความเจ้าเล่ห์ของฮุนเซนก่อน ว่า ก็เหมือนประชาชนทั่วไป ที่เวลานี้มีความรู้สึกเช่นนั้น หลายคนแสดงความเห็นให้ทำแบบนู้นแบบนี้ เราก็รับฟังความห่วงใยความไม่พอใจที่เราถูกกระทำ ตนเข้าใจความรู้สึกเหล่านั้น และเห็นว่าเป็นจุดมุ่งหมายเดียวกัน เพราะเรื่องอธิปไตยของประเทศ การรุกล้ำเข้ามา กระทบประชาชนเรายอมไม่ได้ ซึ่งที่ผ่านมาทุกฝ่ายจะเห็นว่าเราประนีประนอม (Compromise) ให้มากที่สุด แต่เมื่อสิ่งดังกล่าวไม่เกิดขึ้น และเป็นปัญหา วันนี้จึงได้สั่งการให้ทหารมีอิสระในพื้นที่ โดยผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นผู้คุมยุทธการ ปฏิบัติได้ตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงได้มีการทำความเข้าใจกับ พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีการโทรคุยกับผู้บัญชาการทหารสูงสุด […]

เข้าสู่วันที่ 2 กัมพูชาเปิดฉากตั้งแต่เช้ามืด ที่ปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 25 ก.ค.-เข้าสู่วันที่ 2 เหตุปะทะไทย-กัมพูชา เริ่มเปิดฉากยิงกันตั้งแต่เช้ามืด บริเวณปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ขณะนี้เสียงยังดังต่อเนื่อง ก่อนขยายการสู้รบไปตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านอีสานใต้ อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เป็นพื้นที่แรกที่ฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิงก่อนด้านปราสาทตาเมือนครับ เช้ามืดวันนี้ ราวตี 5 ครึ่ง ก็เริ่มปะทะกันอีก ขณะนี้ก็มีเสียงดังอย่างต่อเนื่อง เส้นทางจากอำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ เข้าสู่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ แม้สายแล้ว ก็มีรถสัญจรไปมาค่อนข้างน้อย เนื่องจากเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยการสู้รบ โดยอำเภอพนมดงรักเป็นหนึ่งใน 4 อำเภอ ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ประกาศให้ผู้ที่ไม่มีความจำเป็นเข้าพื้นที่ร่วมกับอำเภอกาบเชิง บัวเชดและสังขะ โดยตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา ในพื้นที่ตามแนวชายแดนได้ยินเสียงการปะทะด้วยกระสุนปืนใหญ่ดังอย่างต่อเนื่อง ผู้นำหมู่บ้านบันทึกสถิติเฉพาะฝั่งไทยตอบโต้เกินกว่า 100 ลูกแล้ว บ้านหนองแรด ตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก ที่จรวดหลายลำกล้อง BM 21 ตกเยอะสุด 10 ลูก วานนี้โดยรอบหมู่บ้าน โชคดีไม่ลงบ้านเรือน มีกระจกแตกเล็กน้อยจากแรงอัดลูกจรวดเท่านั้น วันนี้ ยังมีชาวบ้านอยู่นับร้อยคนหลบอยู่ในหลุมหลบภัย จากทั้งหมด […]

เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวรองรับประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน

ศรีสะเกษ 24 ก.ค. – บรรยากาศคืนแรกที่ศูนย์อพยพฯ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ประชาชนต้องละทิ้งบ้านเรือนมาพักอาศัยชั่วคราว จากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นี่เป็นบรรยากาศค่ำคืนแรกที่ประชาชนในเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ต้องออกมาพักอาศัยนอกบ้านเรือน ตั้งแต่เกิดเหตุกัมพูชายิงจรวดเข้าใส่เขตพักอาศัยของพลเรือน ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ ทำให้ตลอดทั้งวัน อ.กันทรลักษ์ มีการอพยพประชาชนแล้วมากกว่า 41,000 คน กระจายไปตามจุดต่างๆ โดยจุดนี้เป็นจุดที่น่าจะมีผู้อพยพมากที่สุด เพราะใกล้แนวชายแดนที่อยู่ในระยะปลอดภัยมากที่สุด คือ ประมาณ 40 กิโลเมตร จากแนวชายแดน มีประชาชนเข้ามาพักอาศัย 4,865 คน และยังมีจุดอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกระจายกันไป ผลจากสถานการณ์ตึงเครียดและพลเรือนตกเป็นเป้าของการโจมตี ทำให้หลายคนอยู่ในอาการเครียดและกังวล เจ้าหน้าที่ต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้กำลังใจเป็นระยะ รวมทั้งให้บริการยาและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นเบื้องต้น พร้อมกันนี้ได้ย้ำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้ฝากแจ้งประชาชนที่ยังลังเลไม่ยอมอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สินหรือสัตว์เลี้ยง ว่า ขณะนี้มีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน ดูแลพื้นที่อย่างใกล้ชิดทุกหมู่บ้าน จึงขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือ และออกมาจากพื้นที่เสี่ยงตามจุดนัดหมาย เพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว. – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

9 ทันโลก : แจงด่วน! คณะมนตรีความมั่นคง ไทยนี้รักสงบ

25 ก.ค. – นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จะร่วมประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ตามที่กัมพูชาร้องขอไว้ รายงาน 9 ทันโลก พาไปติดตามบทบาทและโอกาสของไทยบนเวทีสำคัญนี้ ไทยในฐานะสมาชิกสหประชาชาตินานเกือบ 80 ปี จะได้แสดงบทบาทอีกครั้งในคณะมนตรีความมั่นคง ซึ่งเป็นโอกาสสำคัญในการสื่อสารกับประชาคมโลก ถึงการกระทำของกัมพูชา ซึ่งเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศหลายด้าน รวมถึงกฎบัตรสหประชาชาติที่ไทยยึดมั่น ในห้องประชุมนี้ ไทยในฐานะสมาชิกสหประชาชาติ ลำดับที่ 55 จะทำหน้าที่อีกครั้งในภารกิจด้านสันติภาพ ตั้งแต่เข้าเป็นสมาชิกเมื่อปี 2489 ที่นี่ไทยเคยทำหน้าที่ประธานการประชุมคณะมนตรีความมั่นคง โดยพลอากาศเอก สิทธิ เศวตศิลา และหม่อมหลวง พีระพงศ์ เกษมศรี ทำหน้าที่สองวาระ ในปี 2528 และ 2529 ในเวลาที่สงครามเย็นคุกรุ่น มาในวันนี้ไทยกำลังจะมีโอกาสอันดีที่ได้ใช้ช่องทางการทูตสำคัญ เสาหลักความมั่นคงของสหประชาชาติ ในอีกบทบาทหนึ่งที่ยังคงอยู่บนพื้นฐานการแสวงหาสันติภาพตามกลไกนี้ เมื่อประเทศสมาชิก ในกรณีนี้คือกัมพูชา ร้องขอให้เปิดประชุมเร่งด่วน สมาชิกคณะมนตรีซึ่งมีสมาชิกถาวร 5 ประเทศ และสมาชิกไม่ถาวร 10 ประเทศ พิจารณากรณีที่เป็นภัยคุกคามใดต่อสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ เช่น กรณีการปะทะระหว่างไทยกับกัมพูชา […]

น่านยังอ่วม บางจุดน้ำท่วมสูงเกือบ 2 เมตร

น่าน 25 ก.ค. – เข้าสู่วันที่ 3 น้ำท่วมใหญ่เป็นประวัติการณ์ของเมืองน่าน แม้ระดับน้ำลดลงบ้างแล้ว แต่ในตัวเมือง-เขตเศรษฐกิจยังท่วมสูง บางจุดระดับน้ำเกือบ 2 เมตร ขณะที่ “บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์” นำทีมกู้ภัยฝ่ากระแสน้ำเชี่ยวเข้าช่วยเหลือชาวบ้าน .-สำนักข่าวไทย

มีผลทันที! ประกาศกฎอัยการศึก 8 อำเภอ “จันทบุรี-ตราด”

25 ก.ค.- กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ประกาศใช้กฎอัยการศึกบางพื้นที่ มีผลทันที กองทัพเรือ โดย กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด “ประกาศใช้กฎอัยการศึก” บางพื้นที่ ดังนี้ ตามที่ได้มีประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ลงวันที่ 19 กันยายน 2549 ให้ใช้กฎอัยการศึกทั่วราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ 19 กันยายน 2549 เวลา 21.05 นาฬิกา ซึ่งต่อมาได้มีพระบรมราชโองการเลิกใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่ และให้ใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่ ลงวันที่ 31 ธันวาคม 2550 นั้น โดยที่ปรากฏว่าประเทศกัมพูชาได้ใช้กำลังและอาวุธรุกรานเข้ามาในราชอาณาจักรไทยตลอดแนวชายแดน จึงมีความจำเป็นโดยมิอาจหลีกเลี่ยงได้ที่ต้องใช้กำลังทหาร ตำรวจ พลเรือน ตลอดจนประชาชนชาวไทยทุกคน เพื่อป้องกันประเทศให้พ้นจากภัยคุกคามอันมีที่มาจากภายนอกราชอาณาจักรดังกล่าว เพื่อรักษาไว้ซึ่งอธิปไตยของชาติและบูรณภาพแห่งดินแดน ตลอดจนชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนชาวไทย และจำเป็นต้องประกาศใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่เพิ่มเติม อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 176 วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ประกอบกับมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติกฎอัยการศึก พุทธศักราช 2457 จึงให้ใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่เพิ่มเติม ดังต่อไปนี้ ข้อ 1 จังหวัดจันทบุรี อำเภอเมืองจันทบุรี […]

จรวด BM-21 ตกในพื้นที่สุรินทร์ 6 ลูก เร่งอพยพคนเพิ่ม

สุรินทร์ 25 ก.ค. – กระสุนของฝั่งกัมพูชามาตกไกลกว่าเหตุปะทะปี 2554 ตามที่เจ้าหน้าที่คาดการณ์ ล่าสุดมีจรวด BM-21 จำนวน 6 ลูก ตกในพื้นที่ อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ เตรียมอพยพประชาชนไปยังที่ปลอดภัยกว่า .-สำนักข่าวไทย