กกพ.ชี้ 3 การไฟฟ้า-ปตท.แข่งขันเอกชนลำบาก


กรุงเทพฯ 11 ธ.ค.-ประธาน กกพ.ปรับวิสัยทัศน์การทำงานนำเทคโนโลยี โดยจะส่งเสริมการแข่งขันภาคเอกชน เพื่อบริการประชาชน  เช่น การกำกับดูแลการขนส่งแอลเอ็นจีด้วยรถยนต์ พร้อมชี้ 3 การไฟฟ้า ปตท.แข่งขันเอกชนลำบาก ต้องปรับตัวเป็นการผลิตเพื่อความมั่นคง-การสร้างเสถียรภาพเป็นหลัก


นายเสมอใจ ศุขสุเมฆ เป็นประธานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน หรือ กกพ.แถลงข่าวเปิดใจถึงการทำงาน เป็นครั้งแรก โดยระบุว่า แม้ ค่าไฟฟ้างวดแรกในปีหน้า จะขยับขึ้นมา 4 สตางค์เศษๆ  มีผลตั้งแต่ มกราคม-เมษายน 2562 แต่ก็ยังถือว่าอยู่ในเกณฑ์ ติดลบ โดยค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ หรือเอฟทียังคงติดลบถึง 11.60 สตางค์ต่อหน่วย ถือว่าต่ำมาก หากค่าไฟฟ้าปีหน้าจะเปลี่ยนแปลงก็คาดว่าจะไม่ถึงระดับ 0 สตางค์แน่นอน โดยค่าไฟฟ้าก็ขึ้นกับค่าก๊าซธรรมชาติและอัตราแลกเปลี่ยน โดยก๊าซก็ผันแปรตามราคาน้ำมัน ซึ่งก็โชคดีที่ราคาน้ำมันลดต่ำลงในช่วงนี้  

  ประธาน กกพ. ระบุด้วยในส่วนของการทำงาน กกพ.จะมีการปรับหลักเกณฑ์ให้สะท้อนเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลง ทั้งบล็อกเชน ระบบโซลาร์รูฟท็อปเสรี เทคโนโลยีการขนส่งก๊าซธรรมชาติเหลว(แอลเอ็นจี )ด้วยรถยนต์ ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) โดยยอมรับว่า เทคโนโลยีอาจทำให้เอกชนผลิตไฟฟ้ามากขึ้น และ 3 การไฟฟ้า  และ  บมจ.ปตท.อาจจะแข่งขันได้ยากลำบากในการผลิตไฟฟ้า การจำหน่ายก๊าซฯ ในขณะที่ ก๊าซธรรมชาติลดน้อยลง ต้องนำเข้าก๊าซแอลเอ็นจีมากขึ้น  ซึ่งการแข่งขันยากเพราะเอกชนคล่องตัว ไม่ติดปัญหากฏระเบียบของรัฐวิสาหกิจ   ดังนั้น  3 การไฟฟ้า และ ปตท. ต้องปรับตัวเองไปบริการในลักษณะการสร้างความมั่นคงและเสถียรภาพ เช่น โครงข่ายไฟฟ้า โครงข่ายก๊าซฯ    

โดยกิจการก๊าซธรรมชาติ ยังคงมีบริษัท ปตท. จากัด (มหาชน) เป็นผู้ประกอบการรายเดียวในกิจการก๊าซธรรมชาติของประเทศ  กกพ.ก็จะเริ่มเร่งรัดเพื่อให้มีการ เปิดเสรีมากขึ้น โดยจะมีการกาหนดแนวทางและกระบวนการขออนุญาตการประกอบธุรกิจก๊าซธรรมชาติ เพื่อให้ เกิดการแข่งขันอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ตลอดจนการพัฒนาและการออกใบอนุญาต ศูนย์ควบคุมการสั่งจ่ายก๊าซธรรมชาติ (Transmission System Operation: TSO) เพื่อดำเนินการควบคุมการ สั่งจ่ายก๊าซธรรมชาติให้มีประสิทธิภาพและเป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้พลังงาน จะมีการกำกับดูแลเรื่องการขนส่งแอลเอ็นจีด้วยรถยนต์ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้น


“ การปรับตัวในการทำงาน เพื่อรองรับEnergy Disruptive การกำกับดูแล ต้องมุ่งไปข้างหน้า แทนกำกับดูแลแบบตามหลัง เพื่อให้ทันต่อสถานการณ์และไม่ล้าสมัย รวมไปถึงการกากับดูแลภาคพลังงาน แบบ Regulatory Sand Box ที่เป็นไปในรูปแบบของการนาเสนอ ข้อเสนอ แนวทางการศึกษา กำกับดูแลเทคโนโลยีพลังงานใหม่ๆ จากภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ EV ,Blockchain ฯลฯในรูปแบบของโครงการทดลองและเป็นโครงการนำร่องที่จะทำให้ การกำกับ ดูแล ทันต่อสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป เชื่อว่าการสนับสนุนและส่งเสริมการแข่งขัน จะส่งผลดีต่อการดูแลภาคประชาชนซึ่งเป็นผู้ใช้พลังงาน ส่วนใหญ่ของประเทศ ที่จะได้รับคุณภาพการบริการที่ดีภายใต้ต้นทุนที่เหมาะสม”นายเสมอใจกล่าว 

 ประธาน กกพ.กล่าวด้วยว่า  กำลังอยู่ระหว่างการทบทวน แผนยุทธศาสตร์การกำกับกิจการพลังงานฉบับปัจจุบัน และกาหนดให้ “การส่งเสริม และสนับสนุนการแข่งขันอย่างเป็นธรรม ” ซึ่งวิสัยทัศน์ใหม่ดังกล่าว จะสามารถบรรลุวัตถุประสงค์ บทบาท ภารกิจของ กกพ. ภายใต้พระราชบัญญัติการประกอบกิจการพลังงาน พ.ศ. 2550 ตอบสนองต่อนโยบายด้าน พลังงานและแผนปฏิรูปภาคพลังงานของประเทศและสอดคล้องกับรัฐธรรมนูญพ.ศ.2560 พร้อมกันนี้กกพ. จะนาเอาแนวทางการปฏิรูปภาคพลังงาน ภายใต้แผนปฏิรูปประเทศ ด้านพลังงาน เป็นแนวทางในการขับเคลื่อน งานกำกับดูแลภาคพลังงานของประเทศด้วย 

  สำหรับนโยบายโซลาร์ภาคประชาชน  ในขณะนี้ กำลังรอแผนพัฒนาไฟฟ้าระยะยาว (พีดีพี ) ที่กระทรวงพลังงานกำลังจัดทำ และคาดว่าจะเสนอเข้าสู่ คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน วันที่ 6-7 มกราคม 2562 โดยหากผ่านความเห็นชอบ กกพ.ก็พร้อมจะประกาศหลักเกณฑ์รับซื้อไฟฟ้าภายใน 1-2 สัปดาห์ -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รถทัวร์โดยสารชนท้ายเทรลเลอร์ เสียชีวิต-บาดเจ็บจำนวนมาก

รถทัวร์โดยสารชนท้ายรถบรรทุกเทรลเลอร์ บนถนนสาย 304 จังหวัดปราจีนบุรี ทำให้ไฟลุกไหม้รถทัวร์โดยสาร เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจำนวนมาก

ชาวบ้านยอมรับค่าเยียวยาหลังละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดิน

ชาวบ้านยอมรับการเยียวยา บ้านละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดินใน จ.ระยอง หลังถมที่สูงมิดหลังคาของเพื่อนบ้าน และรับปากจะเร่งแก้ไขให้ทันหน้าฝนที่จะถึงนี้ แต่ชาวบ้านยังหวั่นใจ หากแก้ไขไม่ทันก็ยังจะเดือดร้อน น้ำจะไหลลงมาบ้านที่อยู่ต่ำกว่า

“พีช” หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายแล้ว

“นายกเบี้ยว” พร้อมลูกชาย หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายก่อนแล้ว จึงฝากจดหมายขอโทษไว้ ด้าน “กัน จอมพลัง” ยอมถอย ให้สองฝ่ายพูดคุย แต่ต้องเป็นรูปธรรม

ข่าวแนะนำ

รวบทันควัน คนร้ายบุกเดี่ยวชิงเงินธนาคาร

จับแล้ว คนร้ายบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ธนาคารกลางเมืองเชียงใหม่ ได้เงินสดกว่า 40,000 บาท ก่อนวิ่งหลบหนี ล่าสุดจนมุมตำรวจรวบตัวได้ที่ศาลาริมทางข้างถนน

โป๊ปฟรังซิส สิ้นพระชนม์แล้ว ขณะพระชนมายุ 88 พรรษา

สำนักวาติกัน แถลงผ่านทางโทรทัศน์ของสำนักวาติกันว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกันสิ้นพระชนม์แล้วในวันนี้

Pope inaugurated the Holy Year on Christmas Eve on December 24, 2024

เปิดพระประวัติโป๊ปฟรังซิส

วาติกัน 21 เม.ย.- เว็บไซต์ข่าวโทรทัศน์ซีเอ็นบีซี (CNBC) ของสหรัฐ เปิดพระประวัติที่น่าสนใจ 10 ประการของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกัน ที่สิ้นพระชนม์วันนี้ (21 เม.ย.68) ขณะมีพระชนมายุ 88 พรรษา ประการที่ 1 ทรงเป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันและเยสุอิตคนแรก สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส มีพระนามเดิมว่า ฮอร์เก มาริโอ เบร์โกกลิโอ ประสูติวันที่ 17 ธันวาคม 2479 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา เป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันคนแรกของพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก แตกต่างจากผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปาเกือบ 200 คน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากอิตาลี ทรงมาจากนอกทวีปยุโรปในฐานะพระสันตะปาปาพระองค์ที่ 266 และเป็นนักบวชคณะเยสุอิตคนแรกที่ขึ้นดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปา ประการที่ 2  ทรงมีพื้นเพมาจากอิตาลี แม้ว่าสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสประสูติในอาร์เจนตินา แต่ท่านมีมรดกทางชาติพันธุ์จากอิตาลี จากการที่บิดามารดาเป็นผู้อพยพชาวอิตาลี บิดาทำงานเป็นนักบัญชีในทางรถไฟ ขณะที่มารดาอุทิศตนให้กับการเลี้ยงลูกทั้ง 5 คน ประการที่ 3 ทรงศึกษาด้านเคมีและปรัชญา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสศึกษาปรัชญาและมีปริญญาโทในด้านเคมีจากมหาวิทยาลัยบัวโนสไอเรส ทรงศึกษาในโรงเรียนเทคนิคและได้ฝึกอบรมเป็นช่างเทคนิคเคมี ก่อนเข้าเรียนที่โรงเรียนสอนศาสนาแห่งอัครสังฆมณฑลบิญญา เดโวโต […]