กรุงเทพฯ 1 ธ.ค.- กรมสรรพากร เปิดเงื่อนไขช้อปช่วยชาติ สินค้าโอทอปไม่ต้องใช้ใบเสร็จรับเงินเต็มรูปแบบ
นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวถึงมาตรการช้อปช่วยชาติ ที่มีการเปลี่ยนรูปแบบ จะเปิดให้ประชาชนซื้อสินค้า 3 กลุ่มหลัก เพื่อนำใบเสร็จมายื่นหักลดหย่อนภาษี คือ ยางรถยนต์ หนังสือ และสินค้าโอทอป
โดยเงื่อนไขคือ 1.ยางรถยนต์ต้องผลิตในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นยี่ห้อใดทั้งในและต่างประเทศ หากใช้น้ำยางในประเทศเข้าร่วมโครงการได้ โดยจะนำหลักการผลิตยางมาเปรียบเทียบ หากเป็นล้อรถยนต์ธรรมดา 1 เส้นใช้ยางพาราผลิตล้อยาง 2 กิโลกรัม ยางล้อรถบรรทุก 1.เส้นใช้ยางพารา 12 กิโลกรัม เพื่อกำหนดโควตาให้รับซื้อยางพาราเพิ่มเติม และรับสติกเกอร์ไปติดกับผลิตภัณฑ์รองรับเข้าโครงการช้อปช่วยชาติ เพราะการผลิตในช่วง 1-2 เดือนนี้เอกชนคงดำเนินการผลิตล้อยางไม่ทันเวลาการใช้สิทธิลดหย่อนภาษี
2.การส่งเสริมซื้อสินค้าโอทอป เพื่อช่วยเพิ่มตลาดให้กับสินค้าชุมชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ เพื่อนำไปใช้เป็นของฝาก ของขวัญให้กับญาติ ลูกค้า เพียงนำใบเสร็จที่ระบุชื่อผู้ซื้อ ผู้ขาย รายการสินค้าและที่อยู่ชัดเจน ไม่จำเป็นต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มสามารถนำมาหักลดหย่อนภาษีได้ เพราะจะทำให้ชุมชนได้ประโยชน์
และ 3.การซื้อหนังสือ รวมถึง E-Book แต่ไม่รวมหนังสือพิมพ์ วารสาร เพราะเป็นการซื้อเป็นประจำอยู่แล้ว เพียงแต่ต้องการส่งเสริมให้คนไทยรักการอ่านมากขึ้น สำหรับ E-Book เมื่อซื้อผ่านออนไลน์รูปแบบต่าง ๆ หากมีเอกสารหลักฐานชัดเจนในการซื้อขายนำมาหักลดหย่อนได้
โครงการช้อปช่วยชาติกำหนดให้เริ่มตั้งแต่ 15 ธันวาคม 2561 – 15 มกราคม 2562 โดยนำค่าใช้จ่ายจากการซื้อสินค้าทั้ง 3 กลุ่ม นำมาหักลดหย่อนภาษีได้ วงเงินไม่เกิน 15,000 บาท ขอย้ำว่าหากซื้อสินค้าภายในปี 2561 ยื่นภาษีช่วงต้นปี 2562 และหากซื้อเดือนมกราคม เพราะยอดซื้อยังไม่ครบวงเงินที่กำหนดนำไปใช้ยื่นภาษีปี 2563 กระทรวงการคลังเตรียมเสนอรายละเอียดโครงการช้อปช่วยชาติให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาเห็นชอบภายในวันที่ 4 ธันวาคมนี้
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังได้มอบหมายให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เดินหน้าศึกษามาตรการคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ให้กับผู้ใช้จ่ายผ่านบัตรเดบิตในช่วงเทศกาลตรุษจีน เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจปี 2562 เบื้องต้นคาดว่าจะคืน VAT 5% และกำหนดวงเงินการใช้ไม่เกิน 20,000 บาทต่อคน หรือคิดเป็นวงเงินการคืนภาษีสูงสุดไม่เกิน 1,000 บาท โดยกำหนดระยะเวลาใช้จ่าย 15 วัน หรือช่วง 1-15 กุมภาพันธ์ 2562 คาดว่าจะใช้งบประมาณประมาณ 6,000 – 7,000 ล้านบาท แต่จะขอวงเงินเผื่อไว้ประมาณ 10,000 ล้านบาท โดยรัฐบาลจะเริ่มคืนเงินวันที่ 15 มีนาคม 2562 ผ่านระบบพร้อมเพย์ที่ลงทะเบียนผ่านบัตรประชาชนเท่านั้น โดยรัฐบาลจะขอให้สถาบันการเงินยกเว้นค่าธรรมเนียมทำบัตรเดบิต
ยืนยันว่า มาตรการต่างๆ ที่ออกมานั้น ไม่ได้ทำเพื่อการหาเสียง แต่เป็นโครงการต่อเนื่องที่ทำมาตลอด โดย 2 ปีก่อนทำช้อปช่วยชาติ เพราะการบริโภคลดลงหรืออยู่ที่ 1% แต่ขณะนี้การบริโภคอยู่ที่ 4% ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี แต่บางสินค้ายังต้องช่วยเหลือ ส่วนมาตรการคืน VAT ก็เป็นส่วนหนึ่งในการพยุงเศรษฐกิจปี 2562 เติบโตได้เกินกว่า 4% ส่วนมาตรการอื่นๆ จะมีเพิ่มเติมอีกหรือไม่นั้น จะต้องดูภาวะเศรษฐกิจในอนาคต แต่ปัจจุบันกระทรวงการคลังยังมองว่าเศรษฐกิจปี 2562 จะเติบโตได้เกินกว่า 4%.-สำนักข่าวไทย