รองเลขาฯ กกต.เผยแบ่งเขตเลือกตั้งยึดประชาชนเป็นหลัก

สำนักงาน กกต. 29 พ.ย.- ณัฏฐ์ รองเลขา กกต. ยืนยันการแบ่งเขตของ กกต.ยึดประชาชนเป็นหลัก นักการเมืองต้องยอมรับผลกระทบ ย้ำไม่หาคนทำเอกสารหลุด เพราะมั่นใจไม่หลุดจากสนง.กกต. เตรียมเปิดรับสมัครผอ.-กกต.ประจำเขตเลือกตั้งสัปดาห์หน้า รองรับการหารือแม่น้ำ 5 สายที่จะชัดเจนเรื่องวันเลือกตั้ง


นายณัฎฐ์ เล่าสีห์สวกุล รองเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)  แถลงชี้แจงกรณีการประกาศแบ่งเขตเลือกตั้งของ กกต.ว่า การแบ่งเขตเลือกตั้งรอบแรก กกต.ดำเนินการตามคำสั่งหัวหน้าคสช.ที่ 13/2561 แต่ระหว่างรอการประกาศราชกิจจานุเบกษา  หัวหน้าคสช.ก็มีคำสั่งที่ 16/2561 จึงมีการเปิดรับฟังข้อร้องเรียน   ซึ่งก็พบว่า มีการร้องเรียนเข้ามาใน 33 จังหวัด 98 คำร้อง แบ่งเป็นภาคกลาง 19 คำร้อง ภาคเหนือ 21 คำร้อง ภาคอีสาน 52 คำร้อง ภาคใต้ 6 คำร้อง 

รองเลขาฯ กกต.กล่าวว่า ได้มีการพิจารณาคำร้องแล้วเสร็จเมื่อวันที่ 27 พ.ย. และเห็นชอบให้มีการประกาศแบ่งเขตเลือกตั้งในวันที่ 28 พ.ย. และประกาศราชกิจจาฯ  มีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 พ.ย. อย่างไรก็ตามการพิจารณาของ  กกต.เป็นไปตามมาตรา 27 พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ที่ให้รวมพื้นที่อำเภอเป็นเขตเลือกตั้ง คำนึงพื้นที่ติดต่อใกล้ชิดกัน  คมนาคมสะดวก และการเคยอยู่ในเขตเลือกตั้งเดียวกัน 


นายณัฎฐ์ กล่าวว่า หลังสิ้นสุดการรับคำร้องในวันที่ 25 พ.ย.ก็มีข้อร้องเรียนเพิ่มมาอีก 11คำร้อง กกต.ตรวจสอบแล้วเห็นว่าเป็นการวิจารณ์   ที่ไม่ได้มีการเสนอรูปแบบแบ่งเขตที่เหมาะสม จึงให้ยุติเรื่อง จากนี้ไปก็จะเป็นการเตรียมบุคคลากร ซึ่งก็จะมีการเปิดรับสมัครผู้อำนวยการ และกกต.ประจำเขตเลือกตั้ง  คาดว่าจะเป็นสัปดาห์หน้า และเมื่อมี พ.ร.ฎ.เลือกตั้งส.ส. ผู้อำนวยการประจำเขตเลือกตั้งจะประกาศสถานที่รับสมัคร หลังกกต.ประกาศกำหนดวันเลือกตั้งและวันรับสมัคร ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นช่วงเดือนม.ค. 62 โดยทุกอย่างจะมีความชัดเจนหลังการประชุมร่วมแม่น้ำ 5 สาย ในวันที่ 7 ธ.ค. กระบวนการจากนี้จึงไม่สะดุด เดินหน้าเต็มที่

รองเลขาฯ กกต. กล่าวว่า การแบ่งเขตของ  กกต. ตามคำสั่งหัวหน้าคสช.ที่ 13 /2561 ก่อนหน้านี้ก็เป็นไปตามกฎหมาย และเมื่อมีข้อเสนอแนะซึ่งเป็นประโยชน์และบางครั้งดีกว่า กกต.ก็ปรับปรุง การพิจารณาเป็นลักษณะเฉพาะในแต่ละพื้นที่แต่ทุกอย่างอยู่ภายใต้กรอบกฎหมาย ผลที่ได้กลับมากระทบใครบ้างฝ่ายการเมืองต้องยอมรับ เพราะการแบ่งเขตแบบเดิมไม่มีการกำหนดจำนวน ส.ส.ในสภา แต่กำหนดจำนวนประชากรต่อจำนวน ส.ส. ก็จะทำให้จำนวน ส.ส.ไม่แน่นอน   ซึ่งนักการเมืองทราบดี และหลีกเลี่ยงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นไมได้    

“ท่านที่อาสาสมัครรับเลือกตั้งต้องทำคุณงามความดีกับประชาชน และการที่เขาผูกพันกันเป็นเรื่องปกติ เพราะสังคมเราเป็นทั้งคุณธรรมและอุปถัมภ์คู่กัน   การตัดสินใจเลือกของประชาชนไม่ใช่แค่เฉพาะตัวบุคคล  แต่นโยบายพรรคก็เป็นสิ่งสำคัญของการตัดสินใจ จึงต้องเคารพ เมื่อเลือกไปแล้วผลกระทบจะเป็นอย่างไรก็เป็นบทเรียนที่เขาต้องเรียนรู้ ว่าคนที่เลือกไปทำอะไรให้เขาบ้าง   นี่คือการเรียนรู้ด้วยตนเองในระบบประชาธิปไตย การเลือกจะเกิดผลกระทบอะไรเราต้องเรียนรู้ในระบบประชาธิปไตย ” นายณัฎฐ์ กล่าว


รองเลขาธิการ  กกต. ยังชี้แจงว่า การพิจารณาแบ่งเขตของ  กกต.ในรอบแรกเป็นการรับฟังใน 3 รูปแบบ ผอ.กกต.จว.มีสิทธิที่จะปรับปรุงนอกเหนือจาก 3 รูปแบบได้   และกกต.เห็นว่าอำนาจการแบ่งเขตเป็นของ กกต. จึงได้สั่งให้มีการทำรูปแบบที่ 4 แต่ก็มีที่กกต.ไม่ได้เลือก และในบางจังหวัดก็มีการปรับโดยไม่ยึดทั้ง 4 รูปแบบ   ส่วนที่มีการวิจารณ์ว่าบางจังหวัดซอยอำเภอเป็น 3 เขตเลือกตั้งนั้น จะมีเฉพาะอำเภอเมืองของจังหวัดใหญ่ที่มีประชากรมาก  แต่จะไม่พบในอำเภอรอง  

นายณัฎฐ์  กล่าวว่า และจังหวัดที่ไม่มีการเพิ่มลดของจำนวน ส.ส. แต่กลับมีการแบ่งเขตนั้นก็เกิดจากการย้ายถิ่นที่อยู่ของประชาชน อย่างเช่นในบางจังหวัดของภาคใต้ เมื่อไปดูประชากรหายไปถึง 6 หมื่นคน เพราะคำนึงเรื่องความปลอดภัยของตัวเองจึงย้ายเข้ามา ก็ต้องมีการแบ่งเขตใหม่  หรืออย่างจังหวัดกาญจนบุรี แม่ฮ่องสอน เป็นจังหวัดที่มีพื้นที่กว้าง แต่ส่วนใหญ่เป็นภูเขา ประชากรกระจุกตัวอยู่บางจุด  ขณะที่บางพื้นที่กว้างใหญ่ แต่ประชากรอยู่กันกระจาย ซึ่งทำให้เกิดการได้เปรียบในการหาเสียง และมีค่าใช้จ่ายสูง   ดังนั้น การแบ่งเขตครั้งนี้ทำตามความเหมาะสมของพื้นที่ ภูมิภาคและจังหวัดจริง ๆ  คล้ายกับการตัดเสื้อให้ตรงตามรูปแบบของแต่ละจังหวัด

“ผมภูมิใจกับประเทศไทย คือจากที่ประชาชนเสนอรูปแบบมาและทำการบ้านมาอย่างดีมาก กกต.เองยังชมว่าเสนอมาดีมาก ดีกว่าผอ.กกต.จว.ทำมา ที่ประชาชนเสนอมาดูดีและยังเข้าเกณฑ์ของกฎหมาย” นายณัฎฐ์ กล่าวและยืนยันว่าการที่มีเอกสารแบ่งเขตหลุดก่อนมีการประกาศในราชกิจจานุเบกษา ไม่ใช่สิ่งที่สำนักงานต้องกังวล   เพราะในการดำเนินการจำกัดคนทำงาน จึงเชื่อว่าไม่ได้หลุดจากสำนักงาน กกต.อย่างแน่นอน และไม่เห็นประโยชน์ที่จะต้องไปดำเนินการกับใครที่เกี่ยวข้องกับเอกสารหลุด เพราะขณะนี้สถานการณ์ดีขึ้นแล้ว  ประเทศกำลังเดินไปสู่การเลือกตั้งเราควรที่จะช่วยกันประคับประคองเพื่อให้ไปสู่การเลือกตั้ง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พระขโมยรถยนต์โยมวันเข้าพรรษา

กาฬสินธุ์ 12 ก.ค.-วงการผ้าเหลืองไม่แผ่ว พระหนุ่มขโมยรถยนต์ญาติโยมที่มาทำบุญวันเข้าพรรษา ถูกตำรวจสกัดจับได้ทันควัน ตำรวจ สภ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ สกัดจับรถเก๋งสีดำคันบริเวณสี่แยกไฟแดง อ.สมเด็จ หลังรับแจ้งว่าพระสงฆ์หนุ่มแอบขโมยรถจากญาติโยมที่มาทำบุญในวันเข้าพรรษา แล้วขับหนีมาทาง อำเภอสมเด็จ ตำรวจจึงออกสกัดจับจนเจอ ส่วนพระสงฆ์ที่ก่อเหตุมีอาการพูดจาวกไปวนมา ตำรวจจึงนำตัวมาสงบสติอารมณ์ที่โรงพัก และแจ้งให้เจ้าของรถมารับรถคืน เตรียมดำเนินคดีกับพระรูปนี้ต่อไป หลังสึกจากการเป็นพระ.-สำนักข่าวไทย

น้ำป่าทะลักท่วมแพร่ บ้านเรือนเสียหายหนัก

แพร่ 12 ก.ค.-ฝนตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่ จ.แพร่ น้ำป่าทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรช่วงกลางดึก เสียหาย 2 อำเภอ เกิดเหตุน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมพื้นที่ชุมชนในตำบลแดนชุมพล จังหวัดแพร่ และอำเภอร้องกวางบางส่วน เนื่องจากมีฝนตกลงมาอย่างหนักในช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา ส่งผลให้บ้านเรือนของประชาชนได้รับความเสียหายในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ลุ่มและแนวทางน้ำธรรมชาติที่รับน้ำจากภูเขาและป่าใกล้เคียง ปริมาณน้ำที่หลากเข้ามาเกิดจากฝนตกหนักต่อเนื่องตลอดช่วงคืนที่ผ่านมา ทำให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ชาวบ้านไม่ทันตั้งตัว ทรัพย์สินของประชาชนบางส่วนได้รับความเสียหาย โดยเฉพาะบ้านโทกค่า อำเภอสอง จังหวัดแพร่ หลายหลังคาเรือนได้รับผลกระทบเนื่องจาก ไม่เคยเกิดเหตุแบบนี้มาก่อน ปีนี้น้ำมากกว่าทุกปี ทำให้เก็บข้าวของไม่ทัน ได้รับความเสียหาย ครั้งสุดท้ายที่เคยท่วม ตั้งแต่ปี 2538 .-สำนักข่าวไทย

สองสาวใหญ่ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกมือถือ

กทม. 12 ก.ค. – สองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกโทรศัพท์มือถือลอยนวล พบเคยเข้ามาขอเงินหลวงตาแล้วครั้งหนึ่ง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพขณะ ผู้หญิง 2 คนเข้าไปในกุฏิที่พระสงฆ์นอนอาพาธอยู่ คนหนึ่งนั่งพื้นส่วนอีกคนยืนอยู่แล้วเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มือถือบนเตียงนอนไป เหตุการณ์นี้ นายมนูญ อายุ 29 ปี หลานชายของพระลูกวัดแห่งหนึ่ง ในซอยประชาอุทิศ 27 ถนนประชาอุทิศ แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว ให้ช่วยตามหาสองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิ “หลวงตาสุข” อายุ 80 ปี ซึ่งป่วยเป็นโรคประจำตัว ประกอบกับอายุมากเดินได้ไม่ปกติ โดยหลวงตาสุข เป็นพระลูกวัด พักอยู่กุฏิด้านหลังโบสถ์ เมื่อวานนี้ (11 ก.ค.) ประมาณ 13.45 น. ขณะกำลังนอนพักผ่อนอยู่ มีหญิงร่างท้วม 2 คนเข้าไปในกุฏิ จากนั้นคนใส่เอี๊ยมสีเขียวผมสั้นลงมือค้นหาสิ่งของบนหัวเตียง ส่วนอีกคนที่มาด้วย คอยดูต้นทาง จนกระทั่งหญิงคนที่รื้อหาสิ่งของมองเห็นโทรศัพท์มือถือ ราคาประมาณ 4,000 บาท ของพระที่วางไว้หัวเตียง […]

มองเป็นการกระทำส่วนบุคคล ปมมีชื่อพระโผล่คลิปสีกา ก.

กรุงเทพฯ 11 ก.ค. – เจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรฯ เผยกรณีปรากฏชื่อ “พระปริยัติธาดา” ในคลิปพัวพันสีกา ก. มองเป็นการกระทำส่วนบุคคล ส่วนตัวอยากเห็นคลิปเพื่อยืนยันว่าท่านเกี่ยวข้องอย่างไร จากกรณีปรากฏรายชื่อพระในคลิปมีความสัมพันธ์กับ “สีกา ก.” จนถึงขั้นปาราชิก หนึ่งในนั้นคือ พระปริยัติธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร และมีรายงานข่าวว่าท่านหายตัวจากวัดหลังจากตกเป็นข่าว ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังวัดกัลยาณมิตรฯ พบว่าพระของวัดทุกรูปลงโบสถ์เพื่อประกอบศาสนกิจเนื่องในวันเข้าพรรษา ภายในพระอุโบสถ ภายหลังประกอบศาสนกิจลงโบสถ์ของพระวัดกัลยาณมิตรฯ เสร็จสิ้น พระพรหมกวี เจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรฯ ได้ถ่ายรูปกับพระใหม่และพระสงฆ์ในวัด และให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปถ่ายภาพ พร้อมกับพูดคุยเบื้องต้น กรณีปรากฏชื่อของพระปริยัติธาดา เป็นหนึ่งในบุคคลในคลิปที่เกี่ยวข้องกับสีกา ก. ว่าส่วนตัวไม่ทราบ คนเราไม่ได้รู้เรื่องส่วนตัวของคนอื่น มองเป็นเรื่องธรรมชาติในสังคมที่มีทั้งคนดีและไม่ดี เรื่องนี้เป็นการกระทำส่วนบุคคล ส่วนตัวอยากเห็นคลิปเพื่อยืนยันว่าท่านเกี่ยวข้องอย่างไร และอยากถาม พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว เพื่อขอดูคลิปที่กล่าวอ้าง ถ้าภาพมันชัดเจนก็ต้องออกตามกฎ ซึ่งใครทำอะไรก็ได้อย่างนั้น เมื่อถามว่า พระปริยัติธาดา ออกไปจากวัดตั้งแต่เมื่อไร พระพรหมกวี บอกว่า ท่านออกไปจากวัด 6-7 วันแล้ว ก็ออกไปเฉยๆ ไม่ได้สึกออกไป และไม่รู้ว่าตอนนี้สึกหรือยัง แต่หากจะสึกต้องแจ้งมาที่วัด […]

ข่าวแนะนำ

พระปรางค์วัดอรุณ

ข่าวดี “พระปรางค์วัดอรุณฯ” ได้รับบรรจุขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้นมรดกโลก

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.- “แพทองธาร” เผยข่าวดี “พระปรางค์วัดอรุณฯ” ได้รับบรรจุขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้นมรดกโลกของยูเนสโกแล้ว นับเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยที่ได้ร่วมเป็นเจ้าของมรดกทางวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า “ข่าวดีของคนไทย “พระปรางค์วัดอรุณ ราชวรารามราชวรมหาวิหาร” ได้รับการบรรจุขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้นมรดกโลก (Tentative List) ของยูเนสโกแล้วค่ะ ดิฉันได้รับรายงานจากคณะผู้แทนไทยในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลก ณ กรุงปารีส แจ้งว่า ที่ประชุมได้รับทราบว่าพระปรางค์วัดอรุณฯ เป็นหนึ่งในรายชื่อบัญชีรายชื่อเบื้องต้น (Tentative List) นับเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการยกระดับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกอย่างสมบูรณ์ในอนาคต กระทรวงวัฒนธรรมมอบหมายให้กรมศิลปากรดำเนินการจัดทำเอกสารเสนอชื่อ (Nomination Dossier) ควบคู่กับการอนุรักษ์ ฟื้นฟู และจัดการพื้นที่ตามหลักสากล เพื่อเตรียมความพร้อมสู่ขั้นตอนต่อไป ความคืบหน้านี้เป็นมากกว่าการอนุรักษ์สถานที่ แต่คือการยืนยันอัตลักษณ์ไทยที่งดงามและทรงคุณค่าในสายตาชาวโลก นับเป็นความภาคภูมิใจของคนไทย ที่ได้ร่วมเป็นเจ้าของมรดกทางวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่นี้” .-316 สำนักข่าวไทย

ตรวจสอบรายรับรายจ่ายวัดใหญ่จอมปราสาท

สมุทรสาคร 13 ก.ค. – เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบรายรับรายจ่ายของวัดใหญ่จอมปราสาท นำมาเทียบกับเส้นเงินของของเจ้าอาวาสที่หนีไป หลังตรวจพบโอนเงินให้สีกา ก. กว่า 1 ล้านบาท ที่วัดใหญ่จอมปราสาท ต.ท่าจีน อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. พร้อมด้วย พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. นำคณะเข้าพบ พระครูสาครสุตกิจ เจ้าคณะตำบลท่าฉลอม เจ้าอาวาสวัดน้อยนางหงษ์ คณะพระสงฆ์ (พระลูกวัด) วัดใหญ่จอมปราสาท ผู้นำชุมชน และคณะกรรมการวัด เพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ระบบการเงินในวัดใหญ่จอมปราสาท เพื่อนำไปเป็นข้อมูลเกี่ยวกับการตรวจสอบเส้นทางการเงินของพระมหาทิวากร เจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท ที่ตรวจพบว่าได้โอนเงินกว่า 1 ล้านบาทไปให้สีกา ก. แต่ยังไม่มีเรื่องชู้สาวเข้ามาเกี่ยวข้อง ประเด็นที่ต้องการทราบเพิ่มเติมคือ เงินที่โอนให้สีกาเป็นเงินส่วนไหน แล้วเงินวัดมีรายรับจากที่ใดบ้าง มีรายจ่ายอย่างไร รวมถึง เงินวัดนั้นเข้าบัญชีใคร มีไวยาวัจกรณ์เบิกจ่ายหรือไม่ หรือใครเป็นผู้ทำหน้าที่รับและเบิกจ่ายเงินทั้งหมด ผู้ใหญ่บ้านชี้แจงว่า ทางวัดยังไม่มีไวยาวัจกรวัดคนใหม่ หลังจากคนเก่าลาออกไปเล่นการเมืองท้องถิ่น ส่วนเงินวัดนั้นเจ้าอาวาสเป็นผู้บริหารแต่เพียงผู้เดียว ซึ่งเงินวัดก็จะมีรายรับมาจากให้ที่จอดเรือบริเวณหน้าวัด ประมาณเดือนละ […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]