หวังเจาะพื้นที่ภาคอีสาน ไม่หวั่นแลนด์สไลด์

ที่ทำการพรรคชาติไทยพัฒนา 22 มี.ค. – “วราวุธ” เตรียมนำทัพ “ชาติไทยพัฒนา” ลุยหาเสียงภาคอีสาน 24-27 มี.ค.นี้ หวังเจาะ ส.ส.เพิ่ม ไม่หวั่นแลนด์สไลด์ “เพื่อไทย” ตั้งเป้ากวาดปาร์ตี้ลิสต์ไม่ต่ำกว่า 5 ที่นั่ง


นายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงยุทธศาสตร์การเลือกตั้งหลังจากมีการยุบสภาฯ แล้วว่า มีการเตรียมความพร้อมไว้หมดแล้ว เพราะเราเริ่มตั้งแต่ก่อนมีการยุบสภาฯ มีการเตรียมว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. พร้อมแล้วทุกภาค ทำงานเต็มที่ตลอดมา และตอนนี้เรานับถอยหลังกัน เหลือเวลา 53 วัน ก่อนที่จะมีการเลือกตั้ง

ส่วนการทำไพรมารีโหวตของพรรคเตรียมการไว้หมดเรียบร้อยแล้ว ต้องขอบคุณคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่มีการแก้ไขการทำไพรมารีโหวต ทำให้การทำงานมีความคล่องตัวมากขึ้น ทำตามเงื่อนไขที่ กกต. กำหนดไว้ได้ เพราะหากไม่มีการแก้ไขแล้วใช้รูปแบบเดิมจะทำให้ช่วงนี้ชุลมุนมาก และในวันที่ 31 มี.ค.นี้ จะมีการประชุมใหญ่พรรค เพื่อเลือกกรรมการบริหารพรรคเพิ่มเติม คือตำแหน่งรองหัวหน้าพรรค


เมื่อถามว่าขณะนี้มีการวิพากษ์วิจารณ์การแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่ เรื่องดังกล่าวมีผลกระทบกับพรรคชาติไทยพัฒนาหรือไม่ นายวราวุธ กล่าวว่า อาจจะมีผลในพื้นที่ จ.เชียงราย เพราะของพรรคหายไป 1 พื้นที่ เรื่องนี้หากใครเสียประโยชน์จะมีการท้วงติง แต่หากได้เปรียบจะไม่พูดอะไร ดังนั้น เป็นหน้าที่ของ กกต. จะต้องนำไปพิจารณา เพราะพรรคชาติไทยพัฒนาจัดสรรตามพื้นที่ที่ กกต. แบ่งมา ไม่มีประโยชน์ที่จะไปท้วงติง เราทำหน้าที่ของเราให้เต็มที่

ส่วนกรณีมีพรรคการเมืองไปร้องศาลปกครองให้เพิกถอนประกาศ กกต. เรื่องแบ่งเขตเลือกตั้ง จะมีผลกระทบต่อการเลือกตั้งหรือไม่ นายวราวุธ กล่าวว่า คงไม่ก้าวล่วงอำนาจศาล ถ้าศาลตัดสินอย่างไรคงเป็นหน้าที่ของ กกต. ต้องพิจารณาว่าเวลานั้นสามารถดำเนินการได้ทัน หรือขยับอะไรอย่างไร คงต้องรอให้ศาลตัดสินก่อน แต่อาจจะกระทบต่อการทำงานของ กกต. บ้าง คงต้องแก้ไขต่อไป

เมื่อถามว่าอาจจะทำให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะหรือไม่ นายวราวุธ กล่าวว่า อย่าตีตนไปก่อนไข้ เพราะขณะนี้มีการสมมติสถานการณ์เกิดขึ้นมากมาย และส่วนใหญ่จะเป็นไปในทางลบ แต่วันนี้เรากำลังเข้าสู่โหมดเลือกตั้ง เปลี่ยนผ่านประเทศไทย เราควรจะมองอะไรในเชิงสร้างสรรค์ เอาไว้ให้เกิดปัญหาก่อนค่อยมาแก้ไขกันดีกว่า อย่าเพิ่งตีตนไปก่อนไข้เลย ในส่วนของพรรคชาติไทยพัฒนาได้เตรียมผู้สมัคร ส.ส. อย่างดีที่สุด หากเกิดปัญหาอะไรภายหน้าเราค่อยมาแก้กัน คงไม่เจาะจงไปพรรคใดพรรคหนึ่ง แต่เป็นทุกพรรค


นายวราวุธ ยังกล่าวถึงการจัด “ว้าว ทัวร์” ในพื้นที่อีสาน ระหว่างวันที่ 24-27 มี.ค.นี้ว่า วันที่ 24 มี.ค. จะเดินทางไปปราศรัยที่ จ.กาฬสินธุ์ จากนั้นวันที่ 25 มี.ค. จะไปปราศรัยที่ จ.ยโสธร และวันที่ 26 มี.ค. จะปราศรัยที่ จ.ยโสธร ซึ่งก่อนจะเดินทางไปภาคอีสานจะมีการประสานงานไปยังว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ในแต่ละพื้นที่ว่าต้องการให้ไปทำกิจกรรมในลักษณะใด ซึ่งก็แล้วแต่ละคนว่าต้องการให้ช่วยลักษณะไหน จะพบปะหรือให้ไปปราศรัย ให้ไปเสนอมาที่พรรค โดยทุกพื้นที่ที่ไป เราหวังที่จะปักธงให้ได้ และในภาคอีสานครั้งก่อนพรรคชาติไทยพัฒนาก็ได้มา 1 ที่นั่ง คือ นายอนุรักษ์ จุรีมาศ อดีต ส.ส.ร้อยเอ็ด ครั้งนี้เราหวังจะได้ ส.ส.เพิ่ม ทั้งนี้ ภาพรวมการเลือกตั้งครั้งก่อนของพรรค เราได้ ส.ส.แบบแบ่งเขตมา 6 คน คาดหวังว่าจะได้เพิ่มขึ้น

ส่วนพื้นที่ภาคอีสาน หวังว่าจะสู้แลนด์สไลด์ของพรรคเพื่อไทยได้หรือไม่ นายวราวุธ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับพี่น้องประชาชนว่าการนำเสนอของแต่ละพรรคจะสามารถผูกมัดใจ ไปโน้มน้าวใจได้อย่างไร ส่วนตัวเชื่อว่าแต่ละภาคมีความเชื่อมั่นแตกต่างกัน ซึ่งนโยบายในแต่ละพรรคที่นำเสนอก็ต้องสามารถจูงใจประชาชนในแต่ละภาคได้ พรรคชาติไทยพัฒนาเองก็คาดหวังว่าแนวทางว้าว ไทยแลนด์ ทั้งการแก้ไขรัฐธรรมนูญ การพลิกโฉมการเกษตรของประเทศไทย ทำให้เงินในกระเป๋าของประชาชนเพิ่มขึ้น เป็นแนวทางที่ยั่งยืน ไม่ได้ฉาบฉวย สามารถจูงใจและทำให้ประชาชนแต่ละภาคได้เห็นความยั่งยืนในการทำนโยบายของพรรคการเมือง

เมื่อถามถึงกรณีพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) วางตัว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 1 นายวราวุธ กล่าวว่า เป็นสิทธิของ พล.อ.ประยุทธ์ เพราะวันนี้เข้ามามีบทบาททางการเมือง และการเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นการแสดงให้เห็นว่าโดดเข้ามาเล่นการเมืองเต็มตัว ไม่ใช่เป็นแค่แคนดิเดตนายกฯ ของ รทสช. ขอเป็นกำลังใจให้ พล.อ.ประยุทธ์ และพรรคอื่นๆ รวมถึงพรรคชาติไทยพัฒนาที่ผู้บริหารพรรคเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อในลำดับต้นๆ และเป็นแคนดิเดตนายกฯ ด้วย เป็นเรื่องที่ไม่ได้แปลกประหลาดอะไร ส่วนตนนั้นพรรคได้มีมติไปแล้วว่าจะเสนอให้เป็นแคนดิเดตนายกฯ และผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อลำดับที่ 1 แต่ทำตามขั้นตอนก่อน

เมื่อถามว่าการจัดผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรคชาติไทยพัฒนา เรียบร้อยแล้วหรือยัง นายวราวุธ กล่าวว่า เราได้รายชื่อครบแล้ว 100 คน แต่การจัดลำดับต้องหารือผู้ใหญ่ในพรรคอีกครั้งหนึ่ง ส่วนการคัดเลือกว่าจะให้ใครอยู่ลำดับใด ต้องดูว่าตัวบุคคลนั้นๆ จะเข้ามาเติมเต็มพรรคชาติไทยพัฒนาได้หรือไม่ ต้องมาจากหลากหลายวงการ ต้องดูความสำคัญแล้วมาไล่เรียงลำดับกัน

เมื่อถามอีกว่าตั้งเป้า ส.ส.บัญชีรายชื่อไว้กี่ที่นั่ง นายวราวุธ กล่าวว่า ไม่ต่ำกว่า 5 ที่นั่ง.-สำนักข่าวไทย   

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

ศาลอาญาฯ อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว “ไฮโซลูกนัท”

กรุงเทพฯ 7 ส.ค. – ศาลอาญาพระโขนง อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว “ไฮโซลูกนัท” ตีราคาประกัน 100,000 บาท หลังตำรวจนำตัวฝากขัง คดียาเสพติด และ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ พนักงานสอบสวน สน.คลองตัน ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาพระโขนง ฝากขังครั้งที่ 1 นายธนัตถ์ หรือ ไฮโซลูกนัท อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาคดีกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ โดยศาลอนุญาตฝากขังตามคำร้อง ซึ่งวันนี้ผู้ต้องหาได้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว ศาลพิจารณาแล้วมีคำสั่งอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว ตีราคาประกัน 100,000 บาท โดยผู้ต้องหานำเงินสดเป็นหลักประกันตนเอง.-สำนักข่าวไทย

รมว.ต่างประเทศ ย้ำทูตไทยทั่วโลกแจงผลประชุม GBC

7 ส.ค. – รมว.ต่างประเทศ ถกทูตไทยทั่วโลก ชื่นชมผลประชุม GBC กำชับทูตไทยทั่วโลกทำงานเชิงรุก เดินหน้าชี้แจงข้อเท็จจริง บนพื้นฐานของหลักฐานเชิงประจักษ์ ชี้ “ความจริงจะชนะทุกสิ่ง” นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธานการประชุมแบบออนไลน์ ร่วมกับ เอกอัครราชทูตไทย ผู้แทนสถานเอกอัครราชทูต และคณะผู้แทนถาวรไทยในต่างประเทศจาก 70 ประเทศทั่วโลก และกรมต่างๆ เพื่อชี้แจงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ทั้งผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป General Border Committee หรือ GBC ที่ประเทศมาเลเซีย พร้อมมอบนโยบายและแนวทางในการดำเนินการของกระทรวงฯ และสำนักงานในต่างประเทศ เพื่อแก้ไขปัญหาสถานการณ์ชายแดนดังกล่าวอย่างบูรณาการร่วมกัน นายมาริษ กล่าวถึงผลของการประชุม GBC และข้อตกลงที่เห็นพ้องร่วมกันทั้ง 13 ข้อ ว่าเป็นพัฒนาการและก้าวสำคัญสำหรับการเจรจาการหยุดยิง บรรลุเป้าหมายที่ต้องการในเบื้องต้น ซึ่งต้องขอบคุณมาเลเซีย สหรัฐอเมริกา และจีน ณ ที่นี้ด้วย โดยกระทรวงพร้อมให้การสนับสนุนกระทรวงกลาโหมในการดำเนินการเจรจาต่อไป ซึ่งที่ผ่านมาได้สนับสนุนการดำเนินงานของกระทรวงกลาโหม และทำงานร่วมกันอย่างใกล้ ตั้งแต่การเป็นฝ่ายเลขาฯ การร่างเพื่อเสนอกรอบข้อตกลง โดยหลังจากนี้ไทยพร้อมเปิดรับการเจรจาทวิภาคีผ่านช่องทางทางการทูต เพื่อสนับสนุนภารกิจของกระทรวงกลาโหม ภายใต้เงื่อนไขว่าฝ่ายกัมพูชาเคารพและดำเนินการตามข้อตกลงของการเจรจาหยุดยิงต่อไป […]

ชาวบ้านยังไม่วางใจ แม้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง

อุบลราชธานี 7 ส.ค. – ชาวบ้านในพื้นที่ชายแดน จ.อุบลราชธานี ยังไม่วางใจสถานการณ์ แม้ผลประชุม GBC ไทย-กัมพูชา ทั้ง 2 ชาติเห็นพ้องข้อตกลงหยุดยิงแล้ว ค่ำคืนนี้หลายหมู่บ้านยังคงมีคำเตือนให้ออกนอกพื้นที่ หลังบางส่วนทยอยกลับเข้ามา .-สำนักข่าวไทย

กต.อัปเดตสถานการณ์ไทย-กัมพูชา กับทูตไทยทั่วโลก

กระทรวงการต่างประเทศ 7 ส.ค. – กต. นำผลประชุม GBC อัปเดตสถานการณ์ไทย-กัมพูชา กับทูตไทยทั่วโลก เพื่อชี้แจงรัฐบาล-องค์การระหว่างประเทศ พร้อมประเมินระดับความเข้าใจของนานาชาติถึงสถานการณ์ ป้องกันการบิดเบือนข้อมูล นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวเกาะติดพัฒนาการสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยได้สรุปผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee : GBC) ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ ซึ่งนำโดย พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม หัวหน้าคณะผู้แทนไทย โดยมีผู้แทนจากมาเลเซีย สหรัฐอเมริกา และจีน ร่วมสังเกตการณ์ ซึ่งการประชุมเป็นกลไกหารือทวิภาคีระหว่างไทย-กัมพูชา ทั้งนี้ ก่อนการประชุม GBC ประธาน GBC ของทั้ง 2 ฝ่าย ได้เข้าเยี่ยมคารวะ นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย โดยได้ยืนยันว่ามาเลเซีย รวมถึงประเทศสมาชิกอาเซียนต่างๆ เห็นตรงกันว่าสนับสนุนให้ใช้กลไกทวิภาคีแก้ไขปัญหาระหว่างไทย-กัมพูชา สอดคล้องกับท่าทีของไทย ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด โดยไม่เสริมกำลังเพิ่ม หลีกเลี่ยงการกระทำที่ยั่วยุทั้งทางการทหาร […]