ก. เกษตรฯ เร่งใช้ยางพาราในประเทศและวิจัยให้มีผลผลิตสูงขึ้น

กรุงเทพฯ 28 พ.ย. –   เกษตรฯ เร่งประสานหน่วยบัญชาการทหารพัฒนาทำถนนยางในชุมชน ขณะที่นักวิชาการคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ สนับสนุนให้ลดปลูกยางในพื้นที่ไม่เหมาะสมเพราะต้นทุนสูง ให้ผลผลิตต่ำ ทำให้ขาดทุน


นายกฤษฏา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า จากที่สั่งการให้เกษตรและสหกรณ์ (กษ.) จังหวัดและผู้อำนวยการกยท. จังหวัด ร่วมสำรวจการใช้ยางพารา ตามแนวทางสนับสนุนการใช้ยางภาครัฐนั้น ขณะนี้มีหลายจังหวัดเริ่มดำเนินการทำถนนยางพาราแล้ว ล่าสุดที่จังหวัดเลย หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา นพค. 23 ได้ปรับปรุงทางลูกรังเป็นถนนงานดินซีเมนต์ผสมยางพารา 7 เส้นทาง โดยใช้งบประมาณปี 2561/กันเหลื่อมปี 2562 ซึ่งการปรับปรุงผิวจราจรถนนลงลูกรังหนา 10 เซนติเมตร ใช้น้ำยางพารา Pre-blended 2.10 กิโลกรัมต่อตารางเมตรผสมกับปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ (ประเภทงานโครงสร้าง) 14.20 กิโลกรัมต่อตารางเมตร

“จากรายงานแสดงให้เห็นว่า การใช้น้ำยางสดร่วมกับปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ปรับปรุงผิวจราจร ซึ่งทำโดยหน่วย นพค. เองนั้น ขั้นตอนไม่ซับซ้อน ดังนั้นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ที่มีเครื่องจักร  เครื่องมือ หากมีหน่วยทหารหรือหน่วยงานอื่นที่มีรถบรรทุกน้ำ แล้วปรับปรุงให้ใส่น้ำยางสดได้ จะสามารถใช้น้ำยางสดมาเป็นผสมในปรับปรุงผิวจราจรได้ ขณะนี้มีถนนที่ปรับปรุง 2 แห่ง คือ บ้านศรีชมชื่น ตำบลน้ำสวย อำเภอเมืองเลย และ บ้านน้ำพร ตำบลปากตม อำเภอเชียงคาน “นายกฤษฏา กล่าว


รองศาสตราจารย์วิษณุ อรรถวานิช คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวถึงผลวิจัยเกี่ยวกับข้อกังวลที่ว่า จากนี้ไปยางสังเคราะห์ถูกใช้น้อยลงกว่ายางธรรมชาติ โดยเมื่อเปรียบเทียบการใช้สัดส่วนการใช้ยางธรรมชาติต่อการใช้ยางทั้งหมดเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 38.35 ในปี 2536 เป็นร้อยละ 46.54 ในปี 2560 สอดคล้องกับกระแสความนิยมสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของผู้บริโภคที่เห็นว่า ยางสังเคราะห์ผลิตจากผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมซึ่งไม่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

รองศาสตราจารย์วิษณุกล่าวว่า ยางธรรมชาติที่ได้รับความนิยมมากขึ้นคือ ยางธรรมชาติที่ผลิตจากต้นรัสเซียแดนดิไลน์ (Russian Dandelion) และต้นวายยูลี (Guayule) เพราะนอกจากกระแสความนิยมสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของผู้บริโภคกำลังเพิ่มขึ้นแล้ว ผู้ผลิตยางรถยนต์รายใหญ่หลายรายมีความกังวลต่อการพึ่งพึงยางพาราอย่างเดียว เพราะหากเกิดโรคระบาดในยางพาราอาจทำให้ไม่มีวัตถุดิบในการผลิตยางรถยนต์ อีกทั้งการผลิตยางพารายังกระจุกตัวอยู่เฉพาะในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งค่าแรงงานกำลังปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว 

สำหรับต้นวายยูลีเหมาะปลูกในพื้นที่แห้งแล้ง ส่วนต้นรัสเซียแดนดิไลน์เหมาะปลูกในพื้นที่หนาวเย็น จึงเป็นการกระจายความเสี่ยงด้านการจัดหาวัตถุดิบในอุดมคติที่บริษัทผู้ผลิตยางรถยนต์ชั้นนำต้องการ จุดเด่นของพืชทั้ง 2 ชนิดนี้คือ ไม่ต้องการคนกรีดเหมือนยางพารา แต่ใช้รถแทรกเตอร์ในการเก็บเกี่ยว ทำให้สามารถลดปัญหาเรื่องการหาแรงงานได้ ต้นรัสเซียแดนดิไลน์สามารถปลูกและเก็บเกี่ยวได้ปีละ 2 ครั้งและสามารถเติบโตได้ในที่ดินที่ไม่อุดมสมบูรณ์ ขณะที่ต้นวายยูลีต้องใช้เวลาปลูกนาน 2-3 ปีถึงจะเก็บเกี่ยวได้ แต่เมื่อเทียบกับยางพาราแล้ว ใช้เวลาปลูกจนเก็บเกี่ยวสั้นกว่าและยังเป็นพืชที่ใช้น้ำน้อยด้วย


ขณะนี้ผู้ผลิตยางรถยนต์รายใหญ่อย่างเช่น Bridgestone, Cooper Tire และ Continental กำลังวิจัยและพัฒนาสายพันธุ์ต้นต้นวายยูลีให้มีคุณสมบัติใกล้เคียงกับยางพาราทั้งด้านผลผลิตต่อไร่และการเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมสนับสนุนทุน 6.9 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยกระทรวงเกษตรของสหรัฐอเมริกา ทาง Cooper Tire โดยทำวิจัยร่วมกับมหาวิทยาลัยชั้นนำอย่าง Clemson University และ Cornell University และล่าสุด Bridgestone เพิ่งได้รับทุนอุดหนุนวิจัยอีก 15 ล้านเหรียญสหรัฐฯเพื่อเดินหน้างานวิจัยจนถึงปี ค.ศ. 2022 ส่วน Continental วางแผนจะผลิตยางรถยนต์ที่ใช้ยางธจากต้นรัสเซียแดนดิไลน์เชิงพาณิชย์ให้ได้ในปี ค.ศ.2023 หรืออีกประมาณ 5 ปีนับจากนี้ ดังนั้นประเทศไทยควรต้องเร่งพัฒนาอุตสาหกรรมยางพาราเพื่อเตรียมรับมือกับการทดแทนยางพาราของพืชทั้ง 2 ชนิดนี้

รองศาสตราจารย์วิษณุ กล่าวเพิ่มเติมถึงมาตรการจ่ายเงินช่วยเหลือชาวสวนยางไร่ละ 1,800 บาท ไม่เกิน 15 ไร่ เป็นมาตรการระยะสั้นเพื่อบรรเทาผลกระทบให้กับเกษตรกรไทยเชิงสังคม แต่การแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนต้องแก้ที่ภาคการผลิต จาการวิจัยพบว่า ผลผลิตยางพาราต่อไร่ของประเทศไทยมีแนวโน้มทรงตัวโน้มเอียงไปทางลดลง ซึ่งตรงกันข้ามกับประเทศอินเดียและเวียดนามที่ปัจจุบันมีผลผลิตต่อไร่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและมากกว่าประเทศไทยไปแล้ว โดยเฉพาะยางพาราในภาคเหนือ ภาคอีสาน ให้ผลผลิตต่ำ ทำให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น จึงเสนอแนวทางดังนี้เร่งส่งเสริมการโค่นต้นยางเก่าที่ทรุดโทรมและมีอายุมากโดยให้แรงจูงใจกับเกษตรกรมากกว่าปัจจุบันเพื่อเร่งการตัดสินใจโค่นยางโดยทำควบคู่กับการให้แรงจูงใจกับผู้ผลิตในอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ที่ใช้ไม้ยางพาราในประเทศเป็นวัตถุดิบ ลดภาษีสินค้าเฟอร์นิเจอร์ที่ใช้ไม้ยางพาราในประเทศเป็นวัตถุดิบเพื่อเพิ่มอุปสงค์ไม้ยางพาราให้สอดรับกับอุปทานไม้ยางพาราที่จะปรับตัวเพิ่มขึ้น ตามที่กระทรวงเกษตรฯ ได้เสนอไว้ ซึ่งนโยบายนี้มาเลเซียใช้แล้วเพื่อลดผลกระทบจากปัญหาราคายางพาราตกต่ำ ส่งเสริมการปลูกยางพาราในพื้นที่ที่เหมาะสมโดยใช้ข้อมูลจาก Agri Map ส่วนในพื้นที่ที่ให้ผลผลิตต่ำควรส่งเสริมให้ปลูกพืชอื่นที่เหมาะสมทดแทน 

ทั้งนี้จากสถิติของกรมพัฒนาที่ดินพบว่า พื้นที่ปลูกยางพาราที่ไม่เหมาะสมและเหมาะสมน้อยมีสูงถึง 4.9 ล้านไร่ ให้ทุนสนับสนุนการวิจัยอย่างเร่งด่วนและต่อเนื่องเพื่อหาแนวทางพัฒนาพันธุ์ยางที่มีผลผลิตต่อไร่สูงและมีคุณลักษณะตามที่ตลาดต้องการ รวมทั้งหาแนวทางสร้างมูลค่าเพิ่มตลอดห่วงโซ่อุปทานยางพาราเพื่อเตรียมรับมือกับการแข่งขันจากยางธรรมชาติที่ผลิตจากต้นวายยูลีและต้นรัสเซียแดนดิไลน์ในอนาคตอันใกล้นี้  . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”