ก. เกษตรฯ เร่งใช้ยางพาราในประเทศและวิจัยให้มีผลผลิตสูงขึ้น

กรุงเทพฯ 28 พ.ย. –   เกษตรฯ เร่งประสานหน่วยบัญชาการทหารพัฒนาทำถนนยางในชุมชน ขณะที่นักวิชาการคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ สนับสนุนให้ลดปลูกยางในพื้นที่ไม่เหมาะสมเพราะต้นทุนสูง ให้ผลผลิตต่ำ ทำให้ขาดทุน


นายกฤษฏา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า จากที่สั่งการให้เกษตรและสหกรณ์ (กษ.) จังหวัดและผู้อำนวยการกยท. จังหวัด ร่วมสำรวจการใช้ยางพารา ตามแนวทางสนับสนุนการใช้ยางภาครัฐนั้น ขณะนี้มีหลายจังหวัดเริ่มดำเนินการทำถนนยางพาราแล้ว ล่าสุดที่จังหวัดเลย หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา นพค. 23 ได้ปรับปรุงทางลูกรังเป็นถนนงานดินซีเมนต์ผสมยางพารา 7 เส้นทาง โดยใช้งบประมาณปี 2561/กันเหลื่อมปี 2562 ซึ่งการปรับปรุงผิวจราจรถนนลงลูกรังหนา 10 เซนติเมตร ใช้น้ำยางพารา Pre-blended 2.10 กิโลกรัมต่อตารางเมตรผสมกับปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ (ประเภทงานโครงสร้าง) 14.20 กิโลกรัมต่อตารางเมตร

“จากรายงานแสดงให้เห็นว่า การใช้น้ำยางสดร่วมกับปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ปรับปรุงผิวจราจร ซึ่งทำโดยหน่วย นพค. เองนั้น ขั้นตอนไม่ซับซ้อน ดังนั้นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ที่มีเครื่องจักร  เครื่องมือ หากมีหน่วยทหารหรือหน่วยงานอื่นที่มีรถบรรทุกน้ำ แล้วปรับปรุงให้ใส่น้ำยางสดได้ จะสามารถใช้น้ำยางสดมาเป็นผสมในปรับปรุงผิวจราจรได้ ขณะนี้มีถนนที่ปรับปรุง 2 แห่ง คือ บ้านศรีชมชื่น ตำบลน้ำสวย อำเภอเมืองเลย และ บ้านน้ำพร ตำบลปากตม อำเภอเชียงคาน “นายกฤษฏา กล่าว


รองศาสตราจารย์วิษณุ อรรถวานิช คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวถึงผลวิจัยเกี่ยวกับข้อกังวลที่ว่า จากนี้ไปยางสังเคราะห์ถูกใช้น้อยลงกว่ายางธรรมชาติ โดยเมื่อเปรียบเทียบการใช้สัดส่วนการใช้ยางธรรมชาติต่อการใช้ยางทั้งหมดเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 38.35 ในปี 2536 เป็นร้อยละ 46.54 ในปี 2560 สอดคล้องกับกระแสความนิยมสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของผู้บริโภคที่เห็นว่า ยางสังเคราะห์ผลิตจากผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมซึ่งไม่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

รองศาสตราจารย์วิษณุกล่าวว่า ยางธรรมชาติที่ได้รับความนิยมมากขึ้นคือ ยางธรรมชาติที่ผลิตจากต้นรัสเซียแดนดิไลน์ (Russian Dandelion) และต้นวายยูลี (Guayule) เพราะนอกจากกระแสความนิยมสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของผู้บริโภคกำลังเพิ่มขึ้นแล้ว ผู้ผลิตยางรถยนต์รายใหญ่หลายรายมีความกังวลต่อการพึ่งพึงยางพาราอย่างเดียว เพราะหากเกิดโรคระบาดในยางพาราอาจทำให้ไม่มีวัตถุดิบในการผลิตยางรถยนต์ อีกทั้งการผลิตยางพารายังกระจุกตัวอยู่เฉพาะในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งค่าแรงงานกำลังปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว 

สำหรับต้นวายยูลีเหมาะปลูกในพื้นที่แห้งแล้ง ส่วนต้นรัสเซียแดนดิไลน์เหมาะปลูกในพื้นที่หนาวเย็น จึงเป็นการกระจายความเสี่ยงด้านการจัดหาวัตถุดิบในอุดมคติที่บริษัทผู้ผลิตยางรถยนต์ชั้นนำต้องการ จุดเด่นของพืชทั้ง 2 ชนิดนี้คือ ไม่ต้องการคนกรีดเหมือนยางพารา แต่ใช้รถแทรกเตอร์ในการเก็บเกี่ยว ทำให้สามารถลดปัญหาเรื่องการหาแรงงานได้ ต้นรัสเซียแดนดิไลน์สามารถปลูกและเก็บเกี่ยวได้ปีละ 2 ครั้งและสามารถเติบโตได้ในที่ดินที่ไม่อุดมสมบูรณ์ ขณะที่ต้นวายยูลีต้องใช้เวลาปลูกนาน 2-3 ปีถึงจะเก็บเกี่ยวได้ แต่เมื่อเทียบกับยางพาราแล้ว ใช้เวลาปลูกจนเก็บเกี่ยวสั้นกว่าและยังเป็นพืชที่ใช้น้ำน้อยด้วย


ขณะนี้ผู้ผลิตยางรถยนต์รายใหญ่อย่างเช่น Bridgestone, Cooper Tire และ Continental กำลังวิจัยและพัฒนาสายพันธุ์ต้นต้นวายยูลีให้มีคุณสมบัติใกล้เคียงกับยางพาราทั้งด้านผลผลิตต่อไร่และการเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมสนับสนุนทุน 6.9 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยกระทรวงเกษตรของสหรัฐอเมริกา ทาง Cooper Tire โดยทำวิจัยร่วมกับมหาวิทยาลัยชั้นนำอย่าง Clemson University และ Cornell University และล่าสุด Bridgestone เพิ่งได้รับทุนอุดหนุนวิจัยอีก 15 ล้านเหรียญสหรัฐฯเพื่อเดินหน้างานวิจัยจนถึงปี ค.ศ. 2022 ส่วน Continental วางแผนจะผลิตยางรถยนต์ที่ใช้ยางธจากต้นรัสเซียแดนดิไลน์เชิงพาณิชย์ให้ได้ในปี ค.ศ.2023 หรืออีกประมาณ 5 ปีนับจากนี้ ดังนั้นประเทศไทยควรต้องเร่งพัฒนาอุตสาหกรรมยางพาราเพื่อเตรียมรับมือกับการทดแทนยางพาราของพืชทั้ง 2 ชนิดนี้

รองศาสตราจารย์วิษณุ กล่าวเพิ่มเติมถึงมาตรการจ่ายเงินช่วยเหลือชาวสวนยางไร่ละ 1,800 บาท ไม่เกิน 15 ไร่ เป็นมาตรการระยะสั้นเพื่อบรรเทาผลกระทบให้กับเกษตรกรไทยเชิงสังคม แต่การแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนต้องแก้ที่ภาคการผลิต จาการวิจัยพบว่า ผลผลิตยางพาราต่อไร่ของประเทศไทยมีแนวโน้มทรงตัวโน้มเอียงไปทางลดลง ซึ่งตรงกันข้ามกับประเทศอินเดียและเวียดนามที่ปัจจุบันมีผลผลิตต่อไร่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและมากกว่าประเทศไทยไปแล้ว โดยเฉพาะยางพาราในภาคเหนือ ภาคอีสาน ให้ผลผลิตต่ำ ทำให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น จึงเสนอแนวทางดังนี้เร่งส่งเสริมการโค่นต้นยางเก่าที่ทรุดโทรมและมีอายุมากโดยให้แรงจูงใจกับเกษตรกรมากกว่าปัจจุบันเพื่อเร่งการตัดสินใจโค่นยางโดยทำควบคู่กับการให้แรงจูงใจกับผู้ผลิตในอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ที่ใช้ไม้ยางพาราในประเทศเป็นวัตถุดิบ ลดภาษีสินค้าเฟอร์นิเจอร์ที่ใช้ไม้ยางพาราในประเทศเป็นวัตถุดิบเพื่อเพิ่มอุปสงค์ไม้ยางพาราให้สอดรับกับอุปทานไม้ยางพาราที่จะปรับตัวเพิ่มขึ้น ตามที่กระทรวงเกษตรฯ ได้เสนอไว้ ซึ่งนโยบายนี้มาเลเซียใช้แล้วเพื่อลดผลกระทบจากปัญหาราคายางพาราตกต่ำ ส่งเสริมการปลูกยางพาราในพื้นที่ที่เหมาะสมโดยใช้ข้อมูลจาก Agri Map ส่วนในพื้นที่ที่ให้ผลผลิตต่ำควรส่งเสริมให้ปลูกพืชอื่นที่เหมาะสมทดแทน 

ทั้งนี้จากสถิติของกรมพัฒนาที่ดินพบว่า พื้นที่ปลูกยางพาราที่ไม่เหมาะสมและเหมาะสมน้อยมีสูงถึง 4.9 ล้านไร่ ให้ทุนสนับสนุนการวิจัยอย่างเร่งด่วนและต่อเนื่องเพื่อหาแนวทางพัฒนาพันธุ์ยางที่มีผลผลิตต่อไร่สูงและมีคุณลักษณะตามที่ตลาดต้องการ รวมทั้งหาแนวทางสร้างมูลค่าเพิ่มตลอดห่วงโซ่อุปทานยางพาราเพื่อเตรียมรับมือกับการแข่งขันจากยางธรรมชาติที่ผลิตจากต้นวายยูลีและต้นรัสเซียแดนดิไลน์ในอนาคตอันใกล้นี้  . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพ “ดีเจเตเต้” ถูกอุ้มมัดมือไพล่หลังทิ้งกลางไร่อ้อย

กาญจนบุรี 18 พ.ค. – พบแล้วศพ “ดีเจเตเต้” ถูกอุ้มมัดมือไพล่หลัง นำศพทิ้งกลางไร่อ้อย เมืองกาญจน์ หลังครอบครัวแจ้งช่วยตามหาตัวตั้งแต่คืนวันที่ 14 พ.ค. ตั้งปมสังหารเรื่องชู้สาว ความคืบหน้ากรณี “ดีเจเตเต้” ถูกขับรถตามประกบ ก่อนอุ้มขึ้นรถหายตัวไป เหตุเกิดเมื่อเวลา 03.53 น. ของวันที่ 14 พ.ค. ภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่งริมถนนแสงชูโต ต.ท่ามะขาม อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ซึ่งหลังเกิดเหตุพ่อของดีเจเตเต้ ได้ออกมาอัดคลิปลงเฟซ บุ๊กเพื่อขอความช่วยเหลือในการตามหาตัวลูกชายที่หายตัวไป ก่อนที่ล่าสุดจะพบว่า กลายเป็นศพอยู่กลางไร่อ้อยเชิงเขาบ้านทุ่งนานางหรอก โดยวันนี้เวลาประมาณ 10.30 น. นายธนพล เสือส่าน กำนันบ้านทุ่งนานางหรอก ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบศพอยู่บริเวณไร่อ้อย หมู่ 3 บ้านทุ่งนานางหรอก ต.ลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี คนที่ไปเจอ เป็นน้าชายของนายกอล์ฟคนในหมู่บ้าน ที่ออกไปหาของป่าแล้วไปเจอศพ ในสภาพนอนตะแคง ถูกมือถูกมัดไขว้หลัง แล้วมาบอกหลานชายคือนายกอล์ฟไปดูด้วยกัน แล้วนายกอล์ฟจึงแจ้งให้กำนันทราบ ทางกำนันก็แจ้งเรื่องต่อไปยังตำรวจ สภ.ลาดหญ้า ซึ่งเบื้องต้นศพสวมเสื้อผ้าตรงกับที่เป็นข่าว […]

หาความจริง “แก๊งแม่ชีพันล้าน” ยันไม่ใช่เรื่องจริง

สมุทรสาคร 18 พ.ค. – วงการสงฆ์ยังไม่แผ่ว กระแสแก๊งแม่ชีพันล้านโผล่อีก สำนักพุทธลงตรวจสอบแล้ว แม่ชีที่ถูกกล่าวหา ตอบได้ทุกคำถาม ยืนยันไม่ใช่เรื่องจริง จากกระแสเมื่อวานนี้ (17 พ.ค.) มีเพจหนึ่งนำภาพกลุ่มแม่ชีหลายภาพพร้อมกองธนบัตร และภาพแม่ชีที่แอดมินระบุอ้างว่าเป็นการใส่วิกผม มาโพสต์ลงโซเชียล พร้อข้อความเขียนแจงอย่างละเอียดว่า กรณีมีเพจดังโพสต์ภาพแม่ชีพร้อมข้อความระบุข้อความเด็ดว่า ทำนองว่า “แก๊งแม่ชีพันล้านคุมวัดเบ็ดเสร็จไร้เงาพระ! 1. แม่ชี 2 พี่น้องบริหารวัดลำพังไม่มีไวยาวัจกร ไม่มีกรรมการ ไม่มีมัคทายก ครอบครองที่ดินนับพันไร่แต่ชื่อเจ้าของไม่ใช่วัด บางแปลงเป็นชื่อแม่ชี อาจเข้าข่าย “ถือครองแทน” หรือใช้วัดบังหน้า? ยอดกฐินปีละเกือบ 100 ล้าน! รายชื่อผู้บริจาคซ้ำๆ เดิมๆ ส่วนใหญ่เป็นแม่ชี-คนในวัด ไม่มีอาชีพ ไม่มีธุรกิจ แต่ “บริจาคเป็นล้านทุกปี” ระบบโบนัสแม่ชีสาวช่วยหาทุนได้มาก พาเที่ยวรีสอร์ตหรูปีละครั้ง ใส่วิกเต็มยศ นั้น วันนี้ผู้สื่อข่าวพร้อม นส.สวาท แซ่ตัน ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา จ.สมุทรสาคร นายอิทธิธร สีเหลือง นักวิชาการศาสนาปฏิบัติการ เดินทางไปที่วัดที่แม่ชีในภาพบวชอยู่ ต.บางโทรัด […]

รวบแม่บ้านควบตำแหน่งกรรมการบริษัท เลี่ยงภาษีกว่า 180 ล้าน

กทม. 18 พ.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง รวบแม่บ้านควบตำแหน่งกรรมการบริษัทชิปปิ้ง เลี่ยงภาษีกว่า 180 ล้านบาท พบก่อเหตุคล้ายกันในบริษัทฯ อีก 2 แห่ง รวมรัฐเสียหายกว่า 430 ล้านบาท ตำรวจสอบสวนกลาง โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) นำเจ้าหน้าเข้าจับกุม นางสมบุญ อายุ 54 ปี ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1051/2568 ลงวันที่ 18 กุมภาพันธ์2568 ในความผิดฐาน “ร่วมกันเจตนาหลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีกเลี่ยงภาษีมูลค่าเพิ่มกระทำการใดๆ โดยความเท็จ โดยฉ้อโกงหรืออุบาย หรือโดยวิธีการอื่นใดทำนองเดียวกัน ที่ลานจอดรถหน้าอพาร์ทเมนต์ พื้นที่ ม.2 ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี พฤติการณ์ ของ น.ส.สมบุญ ผู้ต้องหา ตรวจสอบพบว่า เป็นหนึ่งในกรรมการ บริษัท แห่งหนึ่งประกอบกิจการเป็นตัวแทนนำเข้าสินค้าและดำเนินพิธีการศุลกากรเพื่อนำสินค้าออกจากท่าเรือ แต่จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ พบว่าบริษัทฯดังกล่าวมีพฤติการณ์ปิดบังซ่อนเร้นที่มาของรายได้ รวมถึงค่าใช้จ่ายของบริษัทฯ โดย บริษัทมักจะไม่มีการออกใบกำกับภาษีขายและใบเสร็จรับเงินสำหรับค่าบริการให้แก่ลูกค้าแต่อย่างใด และการจ่ายเงินค่าจ้างให้แก่ลูกจ้างของบริษัทฯ มักจะจ่ายเป็นเงินสดให้ลูกจ้างเป็นรายสัปดาห์ […]

สาวใจเด็ด โดดจยย.รับจ้าง วิ่งตามรถตัวเองหลังตามหา 1 ปี

กทม. 18 พ.ค. – สาวใจเด็ด โดดลงจากมอเตอร์ไซค์รับจ้าง วิ่งไล่รถตัวเอง หลังตามหาและผ่อนกุญแจเปล่ามานานกว่า 1 ปี พบเพื่อนสนิทนำรถไปค้ำประกันกับเจ้าหนี้ จากกรณีคลิปที่มีการแชร์ในโซเซียล ขณะผู้หญิงใส่เสื้อลายกำลังวิ่งไล่ตามรถเก๋งสีขาว พร้อมตะโกนให้คนช่วย จนพลเมืองดี ช่วยกันเข้ามารายล้อมรถและคนขับรถเก๋งต้องเลี้ยวเข้าซอย เพื่อลงมาเคลียร์ ก่อนเกิดเหตุชุลมุนขึ้น เมื่อวานนี้ (17 พ.ค.) ล่าสุดทีมข่าวเปิดใจ สาวที่ปรากฏในคลิป เล่าถึงสาเหตุที่ต้องเข้าไปขวางรถยนต์คันนี้ เพราะว่าเมื่อประมาณเดือนพฤษภาคม ปี 2567 ตนเองได้ซื้อรถเก๋งคันนี้ ทะเบียนขอนแก่น และนำรถไปฝากจอดไว้ที่คอนโดแห่งหนึ่งย่านห้วยขวาง ซึ่งเป็นห้องของแฟนเพื่อนสนิท แต่หลังจากที่นำรถไปฝาก ก็ไม่เคยได้พบรถตัวเองอีกเลย โดยเพื่อนสนิท อ้างว่าแฟนเอาไปขับ ทุกครั้งที่ทวงถามหารถ จะมีการบ่ายเบี่ยงต่างๆ นานา จนในที่สุด ตนเองก็เข้าแจ้งความ ลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สน.ห้วยขวาง ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2567 เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยตามหารถ เวลาผ่านไปประมาณ 1 ปี ก็ยังตามหาไม่ได้ ตนเองจึงต้องผ่อนกุญแจเปล่า มาเป็นระยะเวลา 1 ปีเต็ม […]

ข่าวแนะนำ

เร่งช่วยคนพลัดตกหลุมก่อสร้างรถไฟฟ้า ลึกกว่า 10 ม.

กทม. 19 พ.ค. – เร่งช่วยคนพลัดตกหลุมลึกกว่า 10 ม. โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรม เกิดเหตุคนพลัดตกลงไปในหลุมซึ่งกำลังอยู่ระหว่างก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้า ใกล้เคียงซอยหลานหลวง 8 ขนาดความลึกประมาณ 15-19 เมตร ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างช่วยเหลือ โดยโรยตัวลงไปช่วยผู้ติดอยู่ภายในหลุม สำหรับโครงการดังกล่าว เป็นโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เบื้องต้นคาดว่าอุบัติเหตุน่าจะเกิดระหว่างขั้นตอนก่อสร้าง ซึ่งเป็นช่วงที่ดันปลอกเหล็กขึ้นลงเพื่อขุดดินก่อสร้างสถานีหลานหลวง ส่วนสาเหตุที่แน่ชัดต้องตรวจสอบต่อไป.-สำนักข่าวไทย

คุมตัวกรรมการบริษัท ว. และสหายฯ ส่งศาลฝากขัง

บางซื่อ 19 พ.ค. – ตำรวจคุมตัวกรรมการบริษัท ว. และสหายฯ ไปฝากขังศาลอาญาแล้ว พร้อมคัดค้านประกันตัว ส่วนนิติบุคคลบริษัท ตำรวจปล่อยตัวชั่วคราว ช่วงบ่ายวันนี้ (19 พ.ค.68) พนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ ควบคุมตัวนายพลเดช กรรมการบริษัท ว. และสหาย คอนซัลแตนส์ จำกัด ขึ้นรถตู้ตำรวจไปฝากขังที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก โดยท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนได้คัดค้านการประตัว เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูงและมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก บรรยากาศระหว่างเจ้าหน้าที่คุมตัวนายพลเดช ออกมาจากห้องสอบสวน บริเวณชั้น 1 ของโรงพัก เจ้าหน้าที่ได้พานายพลเดช เดินขึ้นไปยังชั้น 2 ก่อนจะพาเดินอ้อมไปอีกฝั่งหนึ่งของโรงพัก แล้วพาเดินลงมาขึ้นรถตู้ของ สน.บางซื่อ โดยระหว่างการควบคุมตัวขึ้นรถ ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า กังวลหรือไม่เรื่องการยื่นขอประกันตัว และสอบถามอีกว่า ปฏิเสธข้อกล่าวหาหรือไม่ แต่นายพลเดช ไม่ได้ตอบคำถามของสื่อมวลชนแต่อย่างใด มีสีหน้าค่อนข้างกังวล ก่อนจะขึ้นรถตู้ของ สน.บางซื่อ ขณะที่นายพฤหัส มหาวรรณ ทนายความ เดินตามมาทีหลัง ผู้สื่อข่าวจึงสอบถามว่า นายพลเดช ให้การว่าอย่างไรบ้าง ปฏิเสธหรือยอมรับข้อกล่าวหา […]

นายกฯ แพทองธาร เปิดทำเนียบต้อนรับ ปธน.อินโดนีเซีย

ทำเนียบ 19 พ.ค.- นายกฯ แพทองธาร เปิดทำเนียบต้อนรับประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐอินโดนีเซีย เดินทางเยือนประเทศไทยในรอบ 20 ปี พร้อมสานต่อความสัมพันธ์ 75 ปี ยกระดับความสัมพันธ์สู่การเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์ระหว่างกันในทุกมิติ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้การต้อนรับ นายปราโบโว ซูบียันโต (H.E. Mr. Prabowo Subianto) ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐอินโดนีเซีย ในการเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการในฐานะแขกของรัฐบาล (Official Visit) ในรอบ 20 ปี ในโอกาสครบรอบ 75 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-อินโดนีเซีย นายกรัฐมนตรีและประธานาธิบดีอินโดนีเซีย ร่วมตรวจแถวกองทหารเกียรติยศ บริเวณสนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า และนายกรัฐมนตรี เชิญประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐอินโดนีเซีย ถ่ายภาพร่วมกัน ณ บันไดโถงกลาง ตึกไทยคู่ฟ้า และประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐอินโดนีเซีย ลงนามในสมุดเยี่ยมและชมของที่ระลึก ณ ห้องสีงาช้าง (ด้านนอก) ตึกไทยคู่ฟ้า จากนั้นผู้นำทั้งสอง หารือข้อราชการเต็มคณะ ภายใต้กลไก Leaders’ Consultation ครั้งแรก […]

สภาพัฒน์ฯ แถลง GDP ไตรมาส 1/68 โต 3.1% ทั้งปีหั่นเหลือ 1.8%

กรุงเทพฯ 19 พ.ค. – สภาพัฒน์ฯ แถลง GDP ไตรมาส 1/68 โต 3.1% ขณะที่ทั้งปีหั่นเหลือ 1.8% ชี้มองตามสถานการณ์จริงไม่ได้มองในแง่ร้ายเกินไป ลุ้นเงินดิจิทัลเฟส 3 – มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในวงประชุมวันนี้ พร้อมเตือนผู้ประกอบการฯ เตรียมรองรับความผันผวนทางการค้า ส่วนประชาชนใช้จ่ายให้มีความรอบคอบมากขึ้น นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) แถลงภาวะเศรษฐกิจไตรมาส 1/68 ขยายตัว 3.1% ต่อเนื่องจากร้อยละ 3.3 ในไตรมาส 4/2567 ปัจจัยหลักมาจากการผลิตภาคเอกชนชะลอลง ขณะที่ภาคเกษตรเร่งขึ้น ด้านการใช้จ่ายเพื่อการอุปโภคบริโภคขั้นสุดท้ายของเอกชน และรัฐบาล การนำเข้าสินค้าและบริการ และการสะสมทุนถาวรเบื้องต้นชะลอลง ขณะที่การส่งออกสินค้าและบริการขยายตัวในเกณฑ์สูง 12.3% โดยเร่งขึ้น 11.5% จากไตรมาสก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม สภาพัฒน์ฯ ได้ปรับคาดการณ์ GDP ปี 68 ลงเหลือเติบโต 1.3-2.3% หรือช่วงกลางของคาดการณ์ที่ 1.8% […]