ก. เกษตรฯ เร่งใช้ยางพาราในประเทศและวิจัยให้มีผลผลิตสูงขึ้น

กรุงเทพฯ 28 พ.ย. –   เกษตรฯ เร่งประสานหน่วยบัญชาการทหารพัฒนาทำถนนยางในชุมชน ขณะที่นักวิชาการคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ สนับสนุนให้ลดปลูกยางในพื้นที่ไม่เหมาะสมเพราะต้นทุนสูง ให้ผลผลิตต่ำ ทำให้ขาดทุน


นายกฤษฏา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า จากที่สั่งการให้เกษตรและสหกรณ์ (กษ.) จังหวัดและผู้อำนวยการกยท. จังหวัด ร่วมสำรวจการใช้ยางพารา ตามแนวทางสนับสนุนการใช้ยางภาครัฐนั้น ขณะนี้มีหลายจังหวัดเริ่มดำเนินการทำถนนยางพาราแล้ว ล่าสุดที่จังหวัดเลย หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา นพค. 23 ได้ปรับปรุงทางลูกรังเป็นถนนงานดินซีเมนต์ผสมยางพารา 7 เส้นทาง โดยใช้งบประมาณปี 2561/กันเหลื่อมปี 2562 ซึ่งการปรับปรุงผิวจราจรถนนลงลูกรังหนา 10 เซนติเมตร ใช้น้ำยางพารา Pre-blended 2.10 กิโลกรัมต่อตารางเมตรผสมกับปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ (ประเภทงานโครงสร้าง) 14.20 กิโลกรัมต่อตารางเมตร

“จากรายงานแสดงให้เห็นว่า การใช้น้ำยางสดร่วมกับปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ปรับปรุงผิวจราจร ซึ่งทำโดยหน่วย นพค. เองนั้น ขั้นตอนไม่ซับซ้อน ดังนั้นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ที่มีเครื่องจักร  เครื่องมือ หากมีหน่วยทหารหรือหน่วยงานอื่นที่มีรถบรรทุกน้ำ แล้วปรับปรุงให้ใส่น้ำยางสดได้ จะสามารถใช้น้ำยางสดมาเป็นผสมในปรับปรุงผิวจราจรได้ ขณะนี้มีถนนที่ปรับปรุง 2 แห่ง คือ บ้านศรีชมชื่น ตำบลน้ำสวย อำเภอเมืองเลย และ บ้านน้ำพร ตำบลปากตม อำเภอเชียงคาน “นายกฤษฏา กล่าว


รองศาสตราจารย์วิษณุ อรรถวานิช คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวถึงผลวิจัยเกี่ยวกับข้อกังวลที่ว่า จากนี้ไปยางสังเคราะห์ถูกใช้น้อยลงกว่ายางธรรมชาติ โดยเมื่อเปรียบเทียบการใช้สัดส่วนการใช้ยางธรรมชาติต่อการใช้ยางทั้งหมดเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 38.35 ในปี 2536 เป็นร้อยละ 46.54 ในปี 2560 สอดคล้องกับกระแสความนิยมสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของผู้บริโภคที่เห็นว่า ยางสังเคราะห์ผลิตจากผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมซึ่งไม่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

รองศาสตราจารย์วิษณุกล่าวว่า ยางธรรมชาติที่ได้รับความนิยมมากขึ้นคือ ยางธรรมชาติที่ผลิตจากต้นรัสเซียแดนดิไลน์ (Russian Dandelion) และต้นวายยูลี (Guayule) เพราะนอกจากกระแสความนิยมสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของผู้บริโภคกำลังเพิ่มขึ้นแล้ว ผู้ผลิตยางรถยนต์รายใหญ่หลายรายมีความกังวลต่อการพึ่งพึงยางพาราอย่างเดียว เพราะหากเกิดโรคระบาดในยางพาราอาจทำให้ไม่มีวัตถุดิบในการผลิตยางรถยนต์ อีกทั้งการผลิตยางพารายังกระจุกตัวอยู่เฉพาะในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งค่าแรงงานกำลังปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว 

สำหรับต้นวายยูลีเหมาะปลูกในพื้นที่แห้งแล้ง ส่วนต้นรัสเซียแดนดิไลน์เหมาะปลูกในพื้นที่หนาวเย็น จึงเป็นการกระจายความเสี่ยงด้านการจัดหาวัตถุดิบในอุดมคติที่บริษัทผู้ผลิตยางรถยนต์ชั้นนำต้องการ จุดเด่นของพืชทั้ง 2 ชนิดนี้คือ ไม่ต้องการคนกรีดเหมือนยางพารา แต่ใช้รถแทรกเตอร์ในการเก็บเกี่ยว ทำให้สามารถลดปัญหาเรื่องการหาแรงงานได้ ต้นรัสเซียแดนดิไลน์สามารถปลูกและเก็บเกี่ยวได้ปีละ 2 ครั้งและสามารถเติบโตได้ในที่ดินที่ไม่อุดมสมบูรณ์ ขณะที่ต้นวายยูลีต้องใช้เวลาปลูกนาน 2-3 ปีถึงจะเก็บเกี่ยวได้ แต่เมื่อเทียบกับยางพาราแล้ว ใช้เวลาปลูกจนเก็บเกี่ยวสั้นกว่าและยังเป็นพืชที่ใช้น้ำน้อยด้วย


ขณะนี้ผู้ผลิตยางรถยนต์รายใหญ่อย่างเช่น Bridgestone, Cooper Tire และ Continental กำลังวิจัยและพัฒนาสายพันธุ์ต้นต้นวายยูลีให้มีคุณสมบัติใกล้เคียงกับยางพาราทั้งด้านผลผลิตต่อไร่และการเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมสนับสนุนทุน 6.9 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยกระทรวงเกษตรของสหรัฐอเมริกา ทาง Cooper Tire โดยทำวิจัยร่วมกับมหาวิทยาลัยชั้นนำอย่าง Clemson University และ Cornell University และล่าสุด Bridgestone เพิ่งได้รับทุนอุดหนุนวิจัยอีก 15 ล้านเหรียญสหรัฐฯเพื่อเดินหน้างานวิจัยจนถึงปี ค.ศ. 2022 ส่วน Continental วางแผนจะผลิตยางรถยนต์ที่ใช้ยางธจากต้นรัสเซียแดนดิไลน์เชิงพาณิชย์ให้ได้ในปี ค.ศ.2023 หรืออีกประมาณ 5 ปีนับจากนี้ ดังนั้นประเทศไทยควรต้องเร่งพัฒนาอุตสาหกรรมยางพาราเพื่อเตรียมรับมือกับการทดแทนยางพาราของพืชทั้ง 2 ชนิดนี้

รองศาสตราจารย์วิษณุ กล่าวเพิ่มเติมถึงมาตรการจ่ายเงินช่วยเหลือชาวสวนยางไร่ละ 1,800 บาท ไม่เกิน 15 ไร่ เป็นมาตรการระยะสั้นเพื่อบรรเทาผลกระทบให้กับเกษตรกรไทยเชิงสังคม แต่การแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนต้องแก้ที่ภาคการผลิต จาการวิจัยพบว่า ผลผลิตยางพาราต่อไร่ของประเทศไทยมีแนวโน้มทรงตัวโน้มเอียงไปทางลดลง ซึ่งตรงกันข้ามกับประเทศอินเดียและเวียดนามที่ปัจจุบันมีผลผลิตต่อไร่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและมากกว่าประเทศไทยไปแล้ว โดยเฉพาะยางพาราในภาคเหนือ ภาคอีสาน ให้ผลผลิตต่ำ ทำให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น จึงเสนอแนวทางดังนี้เร่งส่งเสริมการโค่นต้นยางเก่าที่ทรุดโทรมและมีอายุมากโดยให้แรงจูงใจกับเกษตรกรมากกว่าปัจจุบันเพื่อเร่งการตัดสินใจโค่นยางโดยทำควบคู่กับการให้แรงจูงใจกับผู้ผลิตในอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ที่ใช้ไม้ยางพาราในประเทศเป็นวัตถุดิบ ลดภาษีสินค้าเฟอร์นิเจอร์ที่ใช้ไม้ยางพาราในประเทศเป็นวัตถุดิบเพื่อเพิ่มอุปสงค์ไม้ยางพาราให้สอดรับกับอุปทานไม้ยางพาราที่จะปรับตัวเพิ่มขึ้น ตามที่กระทรวงเกษตรฯ ได้เสนอไว้ ซึ่งนโยบายนี้มาเลเซียใช้แล้วเพื่อลดผลกระทบจากปัญหาราคายางพาราตกต่ำ ส่งเสริมการปลูกยางพาราในพื้นที่ที่เหมาะสมโดยใช้ข้อมูลจาก Agri Map ส่วนในพื้นที่ที่ให้ผลผลิตต่ำควรส่งเสริมให้ปลูกพืชอื่นที่เหมาะสมทดแทน 

ทั้งนี้จากสถิติของกรมพัฒนาที่ดินพบว่า พื้นที่ปลูกยางพาราที่ไม่เหมาะสมและเหมาะสมน้อยมีสูงถึง 4.9 ล้านไร่ ให้ทุนสนับสนุนการวิจัยอย่างเร่งด่วนและต่อเนื่องเพื่อหาแนวทางพัฒนาพันธุ์ยางที่มีผลผลิตต่อไร่สูงและมีคุณลักษณะตามที่ตลาดต้องการ รวมทั้งหาแนวทางสร้างมูลค่าเพิ่มตลอดห่วงโซ่อุปทานยางพาราเพื่อเตรียมรับมือกับการแข่งขันจากยางธรรมชาติที่ผลิตจากต้นวายยูลีและต้นรัสเซียแดนดิไลน์ในอนาคตอันใกล้นี้  . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” รายชื่อตรงตามโผ

กทม. 19 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” นั่งนายกฯ ควบมหาดไทย พร้อมตั้ง รองนายกฯ 6 คน รมต.สำนักนายกฯ 4 คน ขณะรายชื่อตรงตามโผ ไม่มีเปลี่ยนแปลง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย. 68) เวลา 09.30 น. เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ สำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี โดยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ตามประกาศลงวันที่ 7 กันยายนพุทธศักราช 2568 แล้วนั้น บัดนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้เลือกผู้ที่สมควรดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีเพื่อบริหารราชการแผ่นดินสืบต่อไปแล้ว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเก้าแต่งตั้งรัฐมนตรีดังต่อไปนี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ […]

“เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง

กรุงเทพฯ 19 ก.ย. – “เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง เชื่อ 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต หลังจากนี้จะใช้ชีวิตของตัวเองอุทิศให้ประชาชนและประเทศชาติ ชี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์บ้านเมืองว่าจะออกมาเคลื่อนไหวอีกหรือไม่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก สื่อมวลชนอาวุโส กล่าวขอบคุณกระบวนการยุติธรรม และศาลด้วยที่ความเมตตากับตนเอง ที่ผ่านมาเราต่อสู้ด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม สำหรับการตัดสินในวันนี้ทำให้รู้สึกโล่งใจ ดีใจทำให้เรารู้ว่าหลังจากนี้เราจะใช้ชีวิตของเราอย่างไรต่อ เพราะถือว่าเป็นคดีสุดท้าย 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต ต่อจากนี้เป็นต้นไปขอทำหน้าที่สื่อมวลชนที่ดีเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน เป็นประโยชน์กับประเทศชาติ มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดชีวิตนี้จะอุทิศให้กับพี่น้องประชาชนและประเทศชาติ พร้อมบอกว่าเป็นคดีสุดท้ายใน 20 ปี ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา เราใช้วิชาชีพของตัวเองใช้ความเชี่ยวชาญของตัวเองรับใช้พี่น้องประชาชน ถือว่าเป็น 20 ปี ที่คุ้มมาก พี่น้องประชาชนให้กำลังใจเราเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะคนที่ร่วมมือกับเราในการแสวงหาข้อมูล เรารู้สึกว่ามีคนรักเรามาก และความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น เรานำเสนอความจริง เมื่อถามว่าที่ผ่านรู้สึกอย่างไรได้มีเตรียมใจไว้หรือไม่ น.ส.อัญชะลี ระบุว่า ทุกอย่างเตรียมความพร้อม ทุกอย่างไม่ต้องแอบทำใจ หากเราสู้จนถึงที่สุดแล้วอะไรจะเกิดขึ้นก็ต้องเกิด ขอบคุณทุกหน่วยงานที่เคยช่วยเหลือทั้งในเรื่องเอกสาร หรืออื่นๆ ส่วนเหตุผลที่ศาลพิจารณายกฟ้องในคดีนี้ คือ ศาลเห็นว่าพยานให้การไม่ตรงกันในหลายประเด็นทั้งพยานวัตถุ […]

ศาลฎีกานัดฟังคำพิพากษาคดีม็อบพันธมิตรบุกยึด NBT ปี51

ศาลอาญา 19 ก.ย. – วันนี้ที่ศาลอาญา รัชดา ได้นัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา หรือคดีแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหรือ พธม. นำผู้ชุมนุมบุกยึดสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย หรือ NBT เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2551 หรือเมื่อ 17 ปีก่อน ในช่วงระหว่างการชุมนุมขับไล่รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ในขณะนั้น ซึ่งศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาในเวลา 10:00 น. โดยคดีดังกล่าวมีจำเลย 4 คน ได้แก่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก, นายภูวดล ทรงประเสริฐ, นายยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที และนายชิติพัทธ์ ลิ้มทองกุล ซึ่งเป็นน้องชายของนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำ พธม. ทั้งหมดถูกฟ้องในความผิดฐานร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป อั้งยี่ซ่องโจร บุกรุก และทำให้เสียทรัพย์ เนื่องจากปรากฏหลักฐานว่า จำเลยทั้งห้าเป็นระดับหัวหน้าและผู้สั่งการให้กระทำความผิด ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ได้มีจำเลยอีก 1 คน คือ นายสมเกียรติ […]

‘มาครง’ เตรียมเสนอหลักฐานยืนยัน ‘บริฌิตต์’ เป็นหญิงไม่ใช่ชาย

ปารีส 19 ก.ย. – ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส และบริฌิตต์ ภริยา เตรียมเสนอหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ต่อศาลสหรัฐเพื่อพิสูจน์ว่าบริฌิตต์เป็นผู้หญิงจริงๆ ไม่ใช่ผู้ชาย ทนายความของประธานาธิบดีมาครงและบริฌิตต์ บอกว่า ทั้งคู่จะยื่นเอกสารเหล่านี้ในคดีหมิ่นประมาทที่ทั้งสองได้ยื่นฟ้อง แคนแดซ โอเวนส์ อินฟลูเอนเซอร์ฝ่ายขวาชาวอเมริกัน ที่เผยแพร่ความเชื่อของตนผ่านทางสื่อและรายการพ็อคแคสต์ของตนเองว่าบริฌิตต์ เกิดมาเป็นผู้ชาย ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เธอเสียใจและไม่สบายใจอย่างมากกับข้อกล่าวหาดังกล่าว และเรื่องนี้รบกวนจิตใจของประธานาธิบดีฝรั่งเศส แม้จะไม่ได้ทำให้มาครงสมาธิหลุดจากภารกิจหน้าที่ของเขาในฐานะผู้นำประเทศ แต่มันก็เป็นเรื่องรบกวนจิตใจของคนที่ต้องรับผิดชอบทั้งเรื่องครอบครัวและเรื่องงาน ซึ่งตัวประธานาธิบดีก็ไม่มีข้อยกเว้น ในส่วนของการยื่นหลักฐานต่อศาลนั้น ทนายความของมาครงและภริยาบอกว่า ทั้งคู่พร้อมที่จะแสดงหลักฐานอย่างชัดเจนทั้งในภาพรวมและในรายละเอียด รวมถึงคำให้การจากผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งจะเป็นลักษณะทางวิทยาศาสตร์เพื่อพิสูจน์ว่าข้อกล่าวหานั้นเป็นเท็จ แม้จะเป็นกระบวนการที่บริฌิตต์จะต้องเผชิญต่อหน้าสาธารณชนอย่างเปิดเผย แต่เธอก็ยินดีที่จะทำ เธอตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะทำทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อทำให้เรื่องนี้กระจ่าง สำหรับประเด็นเรื่องบริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ถูกเผยแพร่ครั้งแรกตามสื่อออนไลน์ของฝ่ายขวาและกลุ่มต่อต้านวัคซีนในฝรั่งเศสตั้งแต่ปี 2021 ต่อมา แคนแดซ โอเวนส์ อดีตนักวิจารณ์ของเดลี่ไวร์ (Daily Wire) สำนักข่าวสายอนุรักษ์นิยมของสหรัฐฯ ซึ่งมีผู้ติดตามบนโซเชียลมีเดียหลายล้านคน ได้เผยแพร่มุมมองของตนเองหลายครั้งว่า บริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ที่มีชื่อว่า ฌอง-มิเชล ทรอกโนซ์ (Jean-Michel Trogneux) ก่อนที่จะแปลงเพศในเวลาต่อมา ถึงขั้นอ้างว่าเธอพร้อมเดิมพันชื่อเสียงในอาชีพทั้งหมดของเธอกับข้อกล่าวหานี้ ส่งผลให้มาครงและภริยายื่นฟ้องต่อศาลสหรัฐฯ […]

ข่าวแนะนำ

เปิดแนวต้านน้ำหล่มสัก ผลักดันแผนแก้น้ำท่วมซ้ำซาก

เพชรบูรณ์ 22 ก.ย. – แม้ว่าน้ำที่ท่วมชุมชนและย่านการค้าในเขตเทศบาลเมืองหล่มสัก ที่เพชรบูรณ์ จะลดลงแล้ว แต่ทิ้งความเสียหายเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะย่านการค้าเก่าแก่ที่เจอน้ำท่วม 2 รอบในช่วง 3 สัปดาห์ เรียกว่ายังไม่ทันได้ฟื้นฟูความเสียหายจากน้ำท่วมรอบแรกเสร็จ ต้องมาเจอน้ำท่วมซ้ำอีก ขณะที่หลายคนกังวลและต้องเตรียมรับมือกับพายุที่คาดว่าจะเข้ามาในช่วงปลายสัปดาห์นี้ พร้อมเรียกร้องให้เร่งป้องกันและหาแนวทาง แก้ปัญหาระยะยาว ไม่ให้หล่มสักกลายเป็นพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก .-สำนักข่าวไทย

ฝนถล่มเชียงใหม่ ประกาศปิดน้ำตกแม่สา ส่วนวัดผาลาด เตือนน้ำป่าหลาก

เชียงใหม่ 22 ก.ย.-ฝนถล่มเชียงใหม่ อุทยานฯ ดอยสุเทพ-ปุย ประกาศปิดน้ำตกแม่สา อ.แม่ริม ชั่วคราว หลังน้ำป่าไหลหลาก ส่วนวัดผาลาด แจ้งเตือนชาวบ้านรับมือน้ำป่าหลากลงน้ำตกผาลาด ช่วงบ่ายวันนี้ ( 22 กันยายน) เกิดฝนตกหนักในหลายพื้นที่ของจังหวัดเชียงใหม่ เพจเฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ได้โพสต์ข้อความประกาศปิดน้ำตกแม่สา ในอำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ชั่วคราว เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว เนื่องจากเกิดเหตุน้ำป่าไหลหลากลงมาจนน้ำมีสีน้ำตาลขุ่น กระแสน้ำไหลแรงและเชี่ยวกราก โดยจะปิดน้ำตกแม่สาตั้งแต่วันนี้จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติ ขณะที่พระมหาสง่า ไชยวงค์ เจ้าอาวาสวัดผาลาด ก็ได้โพสต์คลิปภาพวิดีโอ พร้อมข้อความ “มวลน้ำจากยอดดอยกำลังผ่านวัดผาลาด ญาติโยมด้านล่างช่วงนี้ก็เฝ้าไว้เน้อ” ซึ่งทางวัดผาลาดจะมีการแจ้งเตือนชาวบ้านที่อยู่ใกล้ทางน้ำไหลน้ำตกผาลาด และบริเวณเชิงดอยสุเทพในตัวเมืองเชียงใหม่ ให้เฝ้าระวังน้ำป่าที่ไหลผ่านวัดลงสู่ด้านล่างทุกครั้ง สำหรับวัดผาลาดตั้งอยู่บริเวณทางขึ้นดอยสุเทพ และมีน้ำตกผาลาดไหลผ่านพื้นที่วัดช่วงที่เกิดฝนตกหนัก จะมีน้ำป่าไหลหลากจากบนดอยสุเทพผ่านน้ำตกผาลาด ก่อนจะไหลลงสู่พื้นที่ตัวเมืองเชียงใหม่.-สำนักข่าวไทย

กองทัพไทย ย้ำบ้านหนองหญ้าแก้วอยู่เขตแดนไทย ชี้ JBC รับรองแล้ว

กทม. 22 ก.ย.- กองทัพไทย ย้ำบ้านหนองหญ้าแก้วอยู่เขตแดนไทย ไม่ใช่พื้นที่ทับซ้อน ชี้ JBC รับรองแล้ว สอดคล้อง MOU 2543 พล.ต.วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยถึงประเด็นหลักเขตแดนที่ 42 และ 43 ในพื้นที่ อ.โคกสูง จ.สระแก้วว่า หลักเขตแดนที่ 42 ตั้งอยู่ที่บ้านหนองหญ้าแก้ว (บ้านไปรจัน) ต.โคกสูง อ.โคกสูง จ.สระแก้ว และหลักเขตแดนที่ 43 ตั้งอยู่ที่บ้านโนนหมากมุ่น ต.โคกสูง อ.โคกสูง จ.สระแก้ว โดยการกำหนดแนวเขตแดนในพื้นที่ดังกล่าวเป็นเส้นตรงจากหลักเขตแดนที่ 41 มายังหลักเขตแดนที่ 42 และต่อเนื่องไปยังหลักเขตแดนที่ 43 จากนั้นแนวเขตแดนจะไปตามคลองระลมระสือจนถึงหลักเขตแดนที่ 44 สำหรับกระบวนการสำรวจ ชุดสำรวจร่วมไทย–กัมพูชาได้ดำเนินการตามขั้นตอนที่ 1 ของ TOR คือ การสำรวจสภาพ และที่ตั้งของหลักเขตแดนทั้งหมด 74 หลัก ตั้งแต่ปี พ.ศ. […]

ทีมทนายวัดนาป่าพง หอบเอกสารเข้าพบกองปราบ

22 ก.ย.- ทีมทนายวัดนาป่าพง หอบเอกสารเข้าพบพนักงานสอบสวนกองปราบ ขณะที่สีกาเยอรมนีเตรียมนั่งเครื่องเข้าพบตำรวจ 2 ต.ค.นี้ หลังจากที่นายนันทน อินทนนท์ ทนายความวัดนาป่าพง จ.ปทุมธานี พร้อมทีมทนายความ ได้มีการตั้งโต๊ะแถลงชี้แจงประเด็นที่ น.ส.ทองใหม่ ขวัญหมื่น หรือ ทนายอุ้ม ทนายความผู้รับมอบอำนาจจากสีกาจากประเทศเยอรมนี เข้ามาร้องเรียนที่กองบังคับการปราบปราม กล่าวหาว่า พระคึกฤทธิ์ ยักยอกเงินวัด ก่อนนำมาฟอกกับมูลนิธิพุทธวจนที่ประเทศเยอรมนีนั้น ความเคลื่อนไหวล่าสุดวันนี้ (22 ก.ย.68) เวลา 10.00 น. ที่กองบังคับการปราบปราม กองกำกับการ 2 นายนันทน อินทนนท์ ทนายความวัดนาป่าพง จ.ปทุมธานี และทีมทนายความ ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน โดยนำเอกสารเป็นพยานหลักฐานเกี่ยวกับเส้นเงิน เงินบริจาคภายในวัด มามอบให้กับพนักงานสอบสวน เพื่อชี้แจงในประเด็นต่างๆ โดยใช้เวลาในการชี้แจงกับพนักงานสอบสวนไม่ถึง 1 ชั่วโมง ก่อนจะเดินทางกลับทันที และไม่ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนแต่อย่างใด หลังจากนั้นทีมข่าวได้ติดต่อไปที่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการตรวจสอบเส้นทางการเงินของวัดนาป่าพง โดยเฉพาะเงินที่เปิดรับบริจาคทั่วประเทศ หากตรวจสอบแล้วพบว่ามีความผิดจริง […]