แจ้งความหนุ่มขอเรี่ยไรเงินไถ่ควาย “เจ้าทองคำ” พี่คล้าว 2018 ยันไม่ได้หลอก

ชัยนาท 27 พ.ย. – เรื่องวุ่นๆ ของคนกับควาย นายก อบต.สุขเดือนห้า จ.ชัยนาท เจ้าของควาย “เจ้าทองคำ” พร้อมด้วยทนายสงกรานต์ เข้าให้ปากคำกับตำรวจ สน.คันยาว หลังนายสุรัตน์ แผ้วเกตุ หรือ “พี่คล้าว 2018” ออกมาขอเรี่ยไรเงินไถ่ “เจ้าทองคำ” 


นายบุญเลิศ การภักดี นายก อบต.สุขเดือนห้า ต.สุขเดือนห้า อ.นาขาม จ.ชัยนาท พร้อมนายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ทนายความ เข้าให้ปากคำกับ พ.ต.ต.ยุทธศิลป์ พละสาร สว.(สอบสวน) สน.คันนายาว  หลังวันที่ 21 พ.ย. ทนายสงกานต์ได้โอนเงินที่ ธ.กรุงเทพ สาขาคลอง 3 ให้นายสุรัตน์ แผ้วเกตุ หรือ “พี่คล้าว 2018” ที่ออกมาร่ำไห้ผ่านสื่อขอเรี่ยไรเงินไถ่ควาย “เจ้าทองคำ” กลับคืนมา โดยให้สัมภาษณ์ว่า “เจ้าทองคำ” ถูกขายไปในราคา 100,000 บาท ปรากฏว่ามีคนจำนวนมากหลงเชื่อ ร่วมบริจาคเข้าบัญชีของนายสุรัตน์ ธ.กรุงไทย สาขาหันคา จ.ชัยนาท คดีนี้พบพิรุธแต่แรกคือ ไม่พบตัวเจ้าของควายทองคำ และไม่พบตัวคนซื้อควายไปในราคา 100,000 บาท แต่กลับพบว่าควายตัวดังกล่าวเป็นของนายก อบต.สุขเดือนห้า และที่สำคัญยังไม่ได้ขายควายให้ใคร เพียงแต่นำควายไปฝากให้นายสุรัตน์เลี้ยงชั่วคราวเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา นายสุรัตน์มีควายตัวเมียอยู่แล้ว แต่อยากได้ควายของนายก อบต.ตัวนี้ จึงออกอุบายดังกล่าวขึ้น นายบุญเลิศจึงเดินทางเข้าไปให้ปากคำเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจที่ สน.คันนายาว


พนักงานสอบสวนจะสอบปากคำ นายก อบต.ในฐานะพยาน และพยานคนอื่นก่อนที่จะพิจารณา ออกหมายเรียกนายสุรัตน์ มารับทราบข้อหากับพนักงานสอบสวนคือ ฉ้อโกงประชาชน และนำเข้าข้อความอันเป็นเท็จตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ

กรณีนี้สืบเนื่องจากหนุ่มชัยนาทถ่ายภาพเซลฟี่กับควายจนโด่งดังไปทั่วโลกออนไลน์ แต่แล้วจู่ๆ หนุ่มคนดังกล่าวที่ชื่อว่า “สุรัตน์ แผ้วเกตุ” ได้เปิดเผยในเวลาต่อมาว่า “เจ้าทองคำ” ควายยิ้มเพศผู้ วัย 5 ปี เป็นควายที่เจ้าของมาฝากให้เขาเลี้ยง ร่วมกับควายเพศเมียอีก 2 ตัว และเจ้าของกำลังจะขายควายทั้งหมดที่ฝากไว้ รวมถึงเจ้าทองคำด้วย ในราคาตัวละ 100,000 บาท และได้มีผู้มาติดต่อขอซื้อแล้ว แต่ต่อมาทางเจ้าของยื่นขอเสนอให้นายสุรัตน์เป็นผู้ซื้อควายตัวดังกล่าวไว้ แต่ติดปัญหาตรงที่ว่าเป็นราคาที่สูงเกินกว่านายสุรัตน์จะรับซื้อไว้ได้ จึงได้ตัดสินใจเปิดรับบริจาคเพื่อระดมเงินจากผู้ใจบุญไถ่เจ้าทองคำคืนมา



ต่อมานายสุรัตน์ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก แจ้งว่าขณะนี้มียอดเงินบริจาคกว่า 130,000 บาท แล้ว สามารถนำไปไถ่เจ้าทองคำ ควายยิ้ม จากเจ้าของได้แล้ว จึงขอปิดการรับบริจาค พร้อมทั้งขอบคุณผู้ที่ช่วยเหลือ ร่วมถึงสื่อมวลชน และหน่วยงานต่างๆ โดยมีรายละเอียดดังนี้

“ขอแจ้งยอดเงิน ได้ 135,969 บาท ซึ่งเกินจำนวนแล้วครับ ผมขอปิดการรับบริจาคครับ ผมขอขอบคุณทุกคนครับ ที่ช่วยเหลือผมกับเจ้าทองคำ ให้ได้อยู่ร่วมกันแล้วสร้างรอยยิ้มให้ทุกคนได้เห็นกันต่อไปครับ ขอขอบคุณสื่อต่างๆ และหน่วยงานต่างๆ ที่เข้ามาช่วยเหลือผม และขอขอบคุณเจ้าของทองคำที่ให้โอกาสผมและเจ้าทองคำได้อยู่ร่วมกันครับ ส่วนยอดเงินที่เกิน ผมอยากให้เพื่อนๆ ลงความเห็นเพื่อให้ทุกคนมีความสบายใจ ผมขอขอบคุณทุกคนที่มั่นใจในตัวผมจะไม่ทำให้ทุกคนผิดหวัง และจะสร้างรอยยิ้มให้ทุกคนได้เห็นต่อไปครับ ขอขอบคุณทุกๆ คนมากครับ

หลังนายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ พร้อมด้วยนายบุญเลิศ การภักดี นายก อบต.สุขเดือนห้า อ.เนินขาม จ.ชัยนาท เข้าให้ปากคำกับตำรวจ สน.คันนายาว กรณีนายสุรัตน์ แผ้วเกตุ ชาวชัยนาท หรือ “พี่คล้าว 2018”  ที่ออกมาร่ำไห้ผ่านสื่อขอเรี่ยไรเงินไถ่ควายชื่อ “เจ้าทองคำ” ซึ่งเข้าข่ายฉ้อโกงประชาชนและนำเข้าข้อความอันเป็นเท็จตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ทุ่งนาของนายสุรัตน์ แผ้วเกตุ ที่หมู่ 11 ต.เนินขาม อ.เนินขาม จ.ชัยนาท เพื่อสอบถามเรื่องดังกล่าว แต่ไม่พบตัวนายสุรัตน์ พบแต่ฝูงควาย 4 ตัว หนึ่งในนั้นคือควายชื่อ “ทองคำ” กำลังลงเล่นน้ำอยู่ในบ่อ และเดินกินหญ้าอยู่รอบคอกเลี้ยงโดยไม่มีคนเฝ้า และมีการขึงลวดไว้รอบๆ ทุ่งนา ป้องกันไม่ให้ควายเดินออกไปนอกพื้นที่

จากการสอบถามนายสุรัตน์ทางโทรศัพท์ บอกว่า อยู่ที่ จ.สุพรรณบุรี กำลังนำรถยนต์ไปซ่อม ไม่สะดวกที่จะมาพบผู้สื่อข่าว เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามถึงเรื่องที่ถูกแจ้งความ นายสุรัตน์ บอกว่า ทราบจากข่าวแล้ว แต่ยังไม่ทราบรายละเอียดมากนัก เบื้องต้นขอยืนยันว่าไม่ได้หลอกเรี่ยไรเงินไปซื้อควาย แต่เพื่อนในเฟซบุ๊กทราบว่าเจ้าของควายจะขายจึงอยากให้ตนเลี้ยงไว้เอง จึงรวบรวมเงินมาให้ตนนำไปให้ นายบุญเลิศ กาฬภักดี นายก อบต.สุขเดือนห้า เจ้าของควาย ตามที่ตกลงกันไว้ แต่ไม่รู้ว่าทำไมถึงเกิดเรื่องแจ้งความเช่นนี้   อย่างไรก็ตาม ตนก็พร้อมจะเดินทางไปพบตำรวจเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ใจ โดยไม่คิดหลบหนีแต่อย่างใด และจะหาทนายความเพื่อต่อสู้คดี

ทั้งนี้ นายสุรัตน์ ที่ชาวโซเชียลเรียกว่า “พี่คล้าว 2018” โด่งดังในโลกโซเชียลเพียงชั่วข้ามคืน จากการถ่ายรูปตัวเองยิ้มคู่กับควายชื่อ “ทองคำ” ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว เป็นที่ถูกใจชาวเน็ตแห่กดไลค์กดแชร์จำนวนมาก ควายทองคำ เป็นควายของนายบุญเลิศ กาฬภักดี นายก อบต.สุขเดือนห้า ได้นำไปฝากนายสุรัตน์เลี้ยงไว้ ก่อนที่จะนำไปขาย แต่ด้วยความผูกพันกับควายทองคำ นายสุรัตน์จึงอยากซื้อควายไว้เลี้ยงเอง แต่ไม่มีเงิน  จึงได้โพสต์ลงเฟซบุ๊ก จนกระทั่งชาวเน็ตสงสาร จึงส่งเงินบริจาครวมเป็นเงิน 130,000 บาท ไปช่วยให้นายสุรัตน์ซื้อควายทองคำในราคา 100,000 บาท ได้เป็นผลสำเร็จ แต่สุดท้ายก็มาถูกแจ้งความดำเนินคดีฐานฉ้อโกงประชาชน . – สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ภูมิธรรม” เรียกประชุม ครม. วาระพิเศษ

ทำเนียบ 1 ส.ค.-“ภูมิธรรม” เรียกประชุม ครม. วาระพิเศษ เร่งพิจารณารับรองร่างถ้อยแถลงภาษีสหรัฐ 19% ให้มีผลอย่างเป็นทางการ พร้อมหารือหลักเกณฑ์งบฯ ฉุกเฉินเยียวยาเพิ่มเติมให้เจ้าหน้าที่รัฐ-ประชาชน เหตุชายแดนไทย-กัมพูชา นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้ (1 ส.ค.) สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้เชิญประชุม ครม. นัดพิเศษ เพื่อพิจารณาเรื่องของอัตราภาษีตอบโต้จากสหรัฐอเมริกา โดย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม ที่ ห้อง 301 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล และการประชุมทางสื่ออิเลคทรอนิกส์ นายภูมิธรรม กล่าวว่า “เมื่อเช้านี้ประเทศไทยได้รับแจ้งจาก สหรัฐฯว่า สินค้าจากไทยที่ส่งไปจำหน่ายในสหรัฐฯจะถูกเรียกเก็บภาษี 19% ซึ่งเท่ากับหลายๆประเทศในภูมิภาค ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี ที่จะพอทำให้เรายังคงแข่งขันได้ โดยในกระบวนการเจรจานี้ มีขั้นตอนสำคัญคือรัฐบาลไทยต้อง ออกถ้อยแถลงร่วมไทย-สหรัฐฯ ซึ่งคณะทำงาน โดยนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง […]

คณะทูต-ผู้ช่วยทูตทหาร-สื่อ ถึงอุบลฯ ลุยพิสูจน์ข้อเท็จจริงชายแดน

ทำเนียบ 1 ส.ค.- โฆษกรัฐบาล เผยคณะทูต-ผู้ช่วยทูตทหาร-สื่อมวลชนไทยและต่างประเทศ เดินทางถึงอุบลราชธานี เตรียมลงพื้นที่พิสูจน์ข้อเท็จจริงชายแดนไทย–กัมพูชา เมื่อเวลา 09.25 น. นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา (ศบ.ทก.) เปิดเผยว่า คณะผู้แทนทางการทูต ผู้ช่วยทูตทหารจาก 23 ประเทศ พร้อมด้วยสื่อมวลชนไทยและต่างประเทศรวมกว่า 100 คน ได้เดินทางถึงจังหวัดอุบลราชธานีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพื่อเตรียมลงพื้นที่แนวชายแดนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบชายแดนไทย–กัมพูชา การเดินทางในครั้งนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นและ ความโปร่งใสของรัฐบาลไทย ที่พร้อมเปิดพื้นที่ให้คณะทูตต่างประเทศและสื่อมวลชนได้เห็น ข้อเท็จจริงด้วยตนเอง และรายงานต่อประชาคมโลกอย่างเป็นธรรม โดยไม่ปิดบังหรือบิดเบือน คณะทูตต่างประเทศที่ลงพื้นที่ในวันนี้ ประกอบด้วย เอกอัครราชทูต 3 ประเทศ ได้แก่ บรูไน ญี่ปุ่น และเมียนมา อุปทูต 3 ประเทศ ได้แก่ มาเลเซีย สปป.ลาว และอินโดนีเซีย ผู้แทนทางการทูตระดับต่าง ๆ จาก 5 ประเทศ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา สิงคโปร์ […]

สหรัฐประกาศเก็บภาษีต่างตอบแทนไทย 19%

1 ส.ค. – ประธานาธิบดีสหรัฐ ประกาศเก็บภาษีต่างตอบแทนไทย 19% กัมพูชา 19% และมาเลเซีย 19% มีผลวันนี้ (1 ส.ค. 68) นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ประกาศเก็บภาษีต่างตอบแทนไทย 19% กัมพูชา 19% มาเลเซีย 19% มีผลวันนี้ (1 ส.ค. 68) ขณะที่ก่อนหน้านี้ นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ทีมไทยแลนด์ ได้ทำงานอย่างเต็มที่และรอบคอบในทุกมิติ มุ่งมั่นเสนอเงื่อนไขและข้อแลกเปลี่ยนของไทยสามารถยอมรับได้ โดยพยายามรักษาผลประโยชน์ของประเทศไว้ให้มากที่สุด โดยทุกประเด็นการเจรจาล้วนผ่านกระบวนการวิเคราะห์อย่างลึกซึ้ง และเป็นไปเพื่อประโยชน์สูงสุดของชาติ หากผลการเจรจาออกมาดีเกินคาด เราทุกคนคงจะดีใจไปด้วยกันแต่หากผลออกมาน้อยกว่าที่หวังไว้ ตนหวังว่าทุกท่านจะเข้าใจว่ารัฐบาลและทีมเจรจาได้พยายามอย่างถึงที่สุดแล้ว ตนในฐานะรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ขอขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจ และหวังว่าเราจะก้าวผ่านความท้าทายนี้ด้วยความร่วมมือและพลังใจของพวกเราทุกคน.-สำนักข่าวไทย

อุตุฯ เผยไทยฝนน้อย-เหนือตอนบนฝนตกหนักบางแห่ง

กรุงเทพฯ 1 ส.ค. – กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยมีฝนน้อย แต่ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคอีสานตอนบน ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 20% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยมีฝนน้อย แต่ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ทั้งนี้ เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังอ่อน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังอ่อน โดยบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบน มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่าง มีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 26-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-36 […]