แจ้งความหนุ่มขอเรี่ยไรเงินไถ่ควาย “เจ้าทองคำ” พี่คล้าว 2018 ยันไม่ได้หลอก

ชัยนาท 27 พ.ย. – เรื่องวุ่นๆ ของคนกับควาย นายก อบต.สุขเดือนห้า จ.ชัยนาท เจ้าของควาย “เจ้าทองคำ” พร้อมด้วยทนายสงกรานต์ เข้าให้ปากคำกับตำรวจ สน.คันยาว หลังนายสุรัตน์ แผ้วเกตุ หรือ “พี่คล้าว 2018” ออกมาขอเรี่ยไรเงินไถ่ “เจ้าทองคำ” 


นายบุญเลิศ การภักดี นายก อบต.สุขเดือนห้า ต.สุขเดือนห้า อ.นาขาม จ.ชัยนาท พร้อมนายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ทนายความ เข้าให้ปากคำกับ พ.ต.ต.ยุทธศิลป์ พละสาร สว.(สอบสวน) สน.คันนายาว  หลังวันที่ 21 พ.ย. ทนายสงกานต์ได้โอนเงินที่ ธ.กรุงเทพ สาขาคลอง 3 ให้นายสุรัตน์ แผ้วเกตุ หรือ “พี่คล้าว 2018” ที่ออกมาร่ำไห้ผ่านสื่อขอเรี่ยไรเงินไถ่ควาย “เจ้าทองคำ” กลับคืนมา โดยให้สัมภาษณ์ว่า “เจ้าทองคำ” ถูกขายไปในราคา 100,000 บาท ปรากฏว่ามีคนจำนวนมากหลงเชื่อ ร่วมบริจาคเข้าบัญชีของนายสุรัตน์ ธ.กรุงไทย สาขาหันคา จ.ชัยนาท คดีนี้พบพิรุธแต่แรกคือ ไม่พบตัวเจ้าของควายทองคำ และไม่พบตัวคนซื้อควายไปในราคา 100,000 บาท แต่กลับพบว่าควายตัวดังกล่าวเป็นของนายก อบต.สุขเดือนห้า และที่สำคัญยังไม่ได้ขายควายให้ใคร เพียงแต่นำควายไปฝากให้นายสุรัตน์เลี้ยงชั่วคราวเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา นายสุรัตน์มีควายตัวเมียอยู่แล้ว แต่อยากได้ควายของนายก อบต.ตัวนี้ จึงออกอุบายดังกล่าวขึ้น นายบุญเลิศจึงเดินทางเข้าไปให้ปากคำเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจที่ สน.คันนายาว


พนักงานสอบสวนจะสอบปากคำ นายก อบต.ในฐานะพยาน และพยานคนอื่นก่อนที่จะพิจารณา ออกหมายเรียกนายสุรัตน์ มารับทราบข้อหากับพนักงานสอบสวนคือ ฉ้อโกงประชาชน และนำเข้าข้อความอันเป็นเท็จตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ

กรณีนี้สืบเนื่องจากหนุ่มชัยนาทถ่ายภาพเซลฟี่กับควายจนโด่งดังไปทั่วโลกออนไลน์ แต่แล้วจู่ๆ หนุ่มคนดังกล่าวที่ชื่อว่า “สุรัตน์ แผ้วเกตุ” ได้เปิดเผยในเวลาต่อมาว่า “เจ้าทองคำ” ควายยิ้มเพศผู้ วัย 5 ปี เป็นควายที่เจ้าของมาฝากให้เขาเลี้ยง ร่วมกับควายเพศเมียอีก 2 ตัว และเจ้าของกำลังจะขายควายทั้งหมดที่ฝากไว้ รวมถึงเจ้าทองคำด้วย ในราคาตัวละ 100,000 บาท และได้มีผู้มาติดต่อขอซื้อแล้ว แต่ต่อมาทางเจ้าของยื่นขอเสนอให้นายสุรัตน์เป็นผู้ซื้อควายตัวดังกล่าวไว้ แต่ติดปัญหาตรงที่ว่าเป็นราคาที่สูงเกินกว่านายสุรัตน์จะรับซื้อไว้ได้ จึงได้ตัดสินใจเปิดรับบริจาคเพื่อระดมเงินจากผู้ใจบุญไถ่เจ้าทองคำคืนมา



ต่อมานายสุรัตน์ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก แจ้งว่าขณะนี้มียอดเงินบริจาคกว่า 130,000 บาท แล้ว สามารถนำไปไถ่เจ้าทองคำ ควายยิ้ม จากเจ้าของได้แล้ว จึงขอปิดการรับบริจาค พร้อมทั้งขอบคุณผู้ที่ช่วยเหลือ ร่วมถึงสื่อมวลชน และหน่วยงานต่างๆ โดยมีรายละเอียดดังนี้

“ขอแจ้งยอดเงิน ได้ 135,969 บาท ซึ่งเกินจำนวนแล้วครับ ผมขอปิดการรับบริจาคครับ ผมขอขอบคุณทุกคนครับ ที่ช่วยเหลือผมกับเจ้าทองคำ ให้ได้อยู่ร่วมกันแล้วสร้างรอยยิ้มให้ทุกคนได้เห็นกันต่อไปครับ ขอขอบคุณสื่อต่างๆ และหน่วยงานต่างๆ ที่เข้ามาช่วยเหลือผม และขอขอบคุณเจ้าของทองคำที่ให้โอกาสผมและเจ้าทองคำได้อยู่ร่วมกันครับ ส่วนยอดเงินที่เกิน ผมอยากให้เพื่อนๆ ลงความเห็นเพื่อให้ทุกคนมีความสบายใจ ผมขอขอบคุณทุกคนที่มั่นใจในตัวผมจะไม่ทำให้ทุกคนผิดหวัง และจะสร้างรอยยิ้มให้ทุกคนได้เห็นต่อไปครับ ขอขอบคุณทุกๆ คนมากครับ

หลังนายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ พร้อมด้วยนายบุญเลิศ การภักดี นายก อบต.สุขเดือนห้า อ.เนินขาม จ.ชัยนาท เข้าให้ปากคำกับตำรวจ สน.คันนายาว กรณีนายสุรัตน์ แผ้วเกตุ ชาวชัยนาท หรือ “พี่คล้าว 2018”  ที่ออกมาร่ำไห้ผ่านสื่อขอเรี่ยไรเงินไถ่ควายชื่อ “เจ้าทองคำ” ซึ่งเข้าข่ายฉ้อโกงประชาชนและนำเข้าข้อความอันเป็นเท็จตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ทุ่งนาของนายสุรัตน์ แผ้วเกตุ ที่หมู่ 11 ต.เนินขาม อ.เนินขาม จ.ชัยนาท เพื่อสอบถามเรื่องดังกล่าว แต่ไม่พบตัวนายสุรัตน์ พบแต่ฝูงควาย 4 ตัว หนึ่งในนั้นคือควายชื่อ “ทองคำ” กำลังลงเล่นน้ำอยู่ในบ่อ และเดินกินหญ้าอยู่รอบคอกเลี้ยงโดยไม่มีคนเฝ้า และมีการขึงลวดไว้รอบๆ ทุ่งนา ป้องกันไม่ให้ควายเดินออกไปนอกพื้นที่

จากการสอบถามนายสุรัตน์ทางโทรศัพท์ บอกว่า อยู่ที่ จ.สุพรรณบุรี กำลังนำรถยนต์ไปซ่อม ไม่สะดวกที่จะมาพบผู้สื่อข่าว เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามถึงเรื่องที่ถูกแจ้งความ นายสุรัตน์ บอกว่า ทราบจากข่าวแล้ว แต่ยังไม่ทราบรายละเอียดมากนัก เบื้องต้นขอยืนยันว่าไม่ได้หลอกเรี่ยไรเงินไปซื้อควาย แต่เพื่อนในเฟซบุ๊กทราบว่าเจ้าของควายจะขายจึงอยากให้ตนเลี้ยงไว้เอง จึงรวบรวมเงินมาให้ตนนำไปให้ นายบุญเลิศ กาฬภักดี นายก อบต.สุขเดือนห้า เจ้าของควาย ตามที่ตกลงกันไว้ แต่ไม่รู้ว่าทำไมถึงเกิดเรื่องแจ้งความเช่นนี้   อย่างไรก็ตาม ตนก็พร้อมจะเดินทางไปพบตำรวจเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ใจ โดยไม่คิดหลบหนีแต่อย่างใด และจะหาทนายความเพื่อต่อสู้คดี

ทั้งนี้ นายสุรัตน์ ที่ชาวโซเชียลเรียกว่า “พี่คล้าว 2018” โด่งดังในโลกโซเชียลเพียงชั่วข้ามคืน จากการถ่ายรูปตัวเองยิ้มคู่กับควายชื่อ “ทองคำ” ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว เป็นที่ถูกใจชาวเน็ตแห่กดไลค์กดแชร์จำนวนมาก ควายทองคำ เป็นควายของนายบุญเลิศ กาฬภักดี นายก อบต.สุขเดือนห้า ได้นำไปฝากนายสุรัตน์เลี้ยงไว้ ก่อนที่จะนำไปขาย แต่ด้วยความผูกพันกับควายทองคำ นายสุรัตน์จึงอยากซื้อควายไว้เลี้ยงเอง แต่ไม่มีเงิน  จึงได้โพสต์ลงเฟซบุ๊ก จนกระทั่งชาวเน็ตสงสาร จึงส่งเงินบริจาครวมเป็นเงิน 130,000 บาท ไปช่วยให้นายสุรัตน์ซื้อควายทองคำในราคา 100,000 บาท ได้เป็นผลสำเร็จ แต่สุดท้ายก็มาถูกแจ้งความดำเนินคดีฐานฉ้อโกงประชาชน . – สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไฟไหม้รถยนต์ อดีต สส.ศิริโชค วอดทั้งคัน

สงขลา 5 ก.ค.-“ศิริโชค” อดีต สส.ปชป. เผยเหตุระทึก รถยนต์ PHEV ไฟลุกไหม้วอดทั้งคันกลางดึก ทั้งที่ไม่ได้ชาร์จ ภาพคลิปเหตุการณ์ไฟไหม้รถยนต์ส่วนตัวของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งจอดอยู่บริเวณบ้านพักที่ อ.นาทวี จ.สงขลา ช่วงตี 3 เมื่อเช้ามืดที่ผ่านมา (5 ก.ค.68) โดยเพจเฟซบุ๊ก “ศิริโชค โสภา” ได้โพสต์คลิปเหตุการณ์ พร้อมระบุข้อความว่า “อุทาหรณ์สยอง! ผมตื่นมากับเปลวเพลิงกลางดึก-ไฟลุกท่วมรถ PHEV ทั้งคัน ทั้งที่ไม่ได้ชาร์จ! เช้ามืดวันนี้ ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมเสียง “ปะทุ” ดังสนั่นกลางความเงียบของตีสาม…เมื่อรีบวิ่งออกมาดู สิ่งที่ผมเห็นคือเปลวไฟสีส้มแดงกำลังลุกโชนอย่างบ้าคลั่งจากรถยนต์ PHEV ที่จอดนิ่งหน้าบ้าน ตอนนั้นผมไม่ได้เสียบชาร์จไว้ด้วยซ้ำ-จอดไว้เฉยๆ แต่จู่ๆ ไฟกลับลุกขึ้นมาเอง โดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าแม้แต่นิดเดียว รถดับเพลิงต้องใช้เวลาหลายนาทีกว่าจะควบคุมเพลิงได้ และเมื่อไฟดับลง… สิ่งที่เหลืออยู่คือซากรถที่ไหม้เกรียมทั้งคันนี่ไม่ใช่แค่ความเสียหาย แต่คือคำเตือนที่น่ากลัวสำหรับผู้ใช้รถ EV และ PHEVแม้ไม่ได้ชาร์จ แม้จอดนิ่ง แบตเตอรี่ก็ยังมีโอกาสลุกไหม้ได้เองโดยไม่ทันตั้งตัว ไฟฟ้าเงียบ-แต่มันเผาผลาญทุกอย่างได้ในพริบตา ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ […]

ตาขับรถทับศีรษะหลานวัย 1 ขวบ ดับสลด

สุราษฎร์ธานี 5 ก.ค. – สุดสลด ตาขับรถกระบะไม่ทันดู เหยียบศีรษะหลานสาว วัย 1 ขวบ 5 เดือนเสียชีวิตคาที่ ตายายร้องไห้แทบขาดใจ สุดสลด ตาขับรถกระบะไม่ทันดู เหยียบศีรษะหลานสาว วัย 1 ขวบ 5 เดือนเสียชีวิตคาที่ หลังจากที่ตากลับจากซื้อของที่ตลาด เมื่อมาถึงบ้านซึ่งเปิดเป็นร้านขายของชำในอำเภอพระแสง จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ขนของลงจากรถเสร็จ ระหว่างจะนำรถไปจอดไม่ทันสังเกตว่าหลานวิ่งอ้อมรถมา รู้อีกทีล้อรถหน้าด้านคนขับเหยียบเข้าที่ศีรษะของหลานแล้ว ทำให้หลานเสียชีวิตทันที เมื่อเห็นร่างหลาน ตาและยายร้องไห้แทบขาดใจ เพราะเลี้ยงหลานคนนี้มาตั้งแต่เล็กๆ ก่อนนำร่างส่งชันสูตรที่โรงพยาบาลพระแสงต่อไป.- สำนักข่าวไทย

อ.อ๊อด ชี้เป็นเหตุการณ์ที่ไม่ปกติ กรณีรถยนต์ไฟฟ้า อดีตสส.สงขลา ไฟไหม้

นครปฐม 5 ก.ค. – อาจารย์อ๊อด นักวิชาการสาขาเคมีอินทรีย์ แสดงความคิดเห็นว่า กรณีรถยนต์ไฟฟ้าของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา เกิดไฟไหม้ ถือเป็นเหตุการณ์ไม่ปกติ และแบตเตอรี่อาจจะมีปัญหา จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก Sirichok Sopha หรือ นายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ แชร์ประสบการณ์ โดยระบุข้อความว่า “เช้ามืดวันนี้ ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมเสียง “ปะทุ” ดังสนั่นกลางความเงียบของตีสาม…เมื่อรีบวิ่งออกมาดู สิ่งที่ผมเห็นคือเปลวไฟสีส้มแดงกำลังลุกโชนอย่างบ้าคลั่งจากรถยนต์ PHEV ที่จอดนิ่งหน้าบ้าน รถคันนี้ซื้อจากศูนย์หาดใหญ่เมื่อ 2 ปีก่อน ผมใช้งานตามปกติ และที่สำคัญคือ ตอนนั้นผมไม่ได้เสียบชาร์จไว้ด้วยซ้ำ-จอดไว้เฉยๆแต่จู่ๆ ไฟกลับลุกขึ้นมาเอง โดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าแม้แต่นิดเดียวรถดับเพลิงต้องใช้เวลาหลายนาทีกว่าจะควบคุมเพลิงได้ และเมื่อไฟดับลง… สิ่งที่เหลืออยู่คือ ซากรถที่ไหม้เกรียมทั้งคันนี่ไม่ใช่แค่ความเสียหาย แต่คือคำเตือนที่น่ากลัวสำหรับผู้ใช้รถ EV และ PHEVแม้ไม่ได้ชาร์จ แม้จอดนิ่ง แบตเตอรี่ก็ยังมีโอกาสลุกไหม้ได้เองโดยไม่ทันตั้งตัวไฟฟ้าเงียบ-แต่มันเผาผลาญทุกอย่างได้ในพริบตา” รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ หรือ อาจารย์อ๊อด นักวิชาการสาขาเคมีอินทรีย์ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายนวัตกรรมและกิจการเพื่อสังคม […]

สพฐ. จัดทีมนิติกรช่วยครูการเงิน

กทม. 5 ก.ค.-สพฐ. จัดทีมนิติกรช่วยครูการเงิน กรณีถูกชี้มูลร่วมลงชื่อเบิกจ่ายค่าอาหารกลางวัน วันที่ 4 กรกฎาคม 2568 ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เปิดเผยว่า ตามที่มีรายงานข่าวผ่านสื่อสังคมออนไลน์ กรณีข้าราชการครูผู้รับผิดชอบงานการเงินของโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดกาญจนบุรี ได้ร้องขอความเป็นธรรมภายหลังถูกชี้มูลความผิดร่วมกับอดีตผู้อำนวยการโรงเรียน จากการลงนามในเอกสารเบิกจ่ายค่าอาหารกลางวัน โดยยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนร่วมในการกระทำความผิดนั้น สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงร่วมกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาต้นสังกัด และยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่มีคำสั่งลงโทษทางวินัยออกโดยเขตพื้นที่ฯ แต่อย่างใด สำหรับการดำเนินการในขั้นต่อไป สพฐ. ได้จัดเตรียมนิติกรจากส่วนกลาง เพื่อสนับสนุนการให้คำปรึกษาทางกฎหมายและการรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ครูสามารถใช้สิทธิในการอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) ตามมาตรา 99 แห่งพระราชบัญญัติ ป.ป.ช. พ.ศ. 2561 ได้อย่างเต็มที่ เลขาธิการ กพฐ. ระบุว่า กรณีนี้สะท้อนถึงความจำเป็นที่ต้องทบทวนบทบาทภาระงานของครูในภารกิจที่ไม่เกี่ยวข้องกับการจัดการเรียนการสอน โดยเฉพาะงานด้านการเงินและพัสดุ ซึ่งมีความซับซ้อนและมีความเสี่ยงเชิงกฎหมายสูง สพฐ. จึงอยู่ระหว่างการปรับปรุงระบบสนับสนุนภายในโรงเรียน เพื่อให้โครงสร้างงานสนับสนุนมีความเหมาะสมกับวิชาชีพครูมากยิ่งขึ้น “ข้าราชการครูที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสุจริตจะไม่ต้องเผชิญกระบวนการตามลำพัง สพฐ. พร้อมอยู่เคียงข้างและสนับสนุนในทุกขั้นตอน เพื่อให้สามารถใช้สิทธิและเข้าถึงความเป็นธรรมได้อย่างมั่นใจครับ” เลขาธิการ กพฐ. กล่าว.-416.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

รวบแล้วมือเผารถ “ศิริโชค” ญาติเผยจิตไม่ปกติ

6 ก.ค. – จับได้แล้ว มือวางเพลิงรถยนต์ “ศิริโชค” ตำรวจเค้นสอบ ยอมรับก่อเหตุจริง ญาติเผยจิตไม่ปกติ พูดคนเดียวมาหลายเดือน ด้าน “ศิริโชค” ไม่เชื่อลงมือเองจากอาการทางจิต น่าจะมีคนสั่งการอยู่เบื้องหลัง กล้องวงจรปิดจับภาพนายเบียร์ อายุ 29 ปี ขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาในซอยบ้านพักของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.เขต 7 สงขลา 4 สมัย พรรคประชาธิปัตย์ ช่วงตี 3 คืนวานนี้ (5 ก.ค.) ต.ฉาง อ.นาทวี จ.สงขลา และไปคุยกับคนเฝ้าบ้านนายศิริโชค ที่ประตูหน้าบ้าน ก่อนขี่รถออกไป จากนั้นช่วงเวลา 03.45 น. นายเบียร์ขี่รถย้อนกลับเข้าไปในซอยบ้านของนายศิริโชคอีกครั้ง ก่อนจะมีข่าวรถยนต์ GWM HAVAL H6 PHEV หรือปลั๊กอิน-ไฮบริด กึ่งไฟฟ้ากึ่งน้ำมัน เกิดเพลิงไหม้เสียหายหมดทั้งคัน ซึ่งขณะนั้น ยังไม่มั่นใจว่าเกิดจาะระบบรถยนต์ขัดข้อง หรือสาเหตุอย่างอื่น จนเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเป็นที่แน่ชัดว่า นายเบียร์เป็นคนก่อเหตุวางเพลิงรถยนต์ของนายศิริโชค […]

“โรม” ควง “เท้ง” ลงพื้นที่สระแก้ว ดูชายแดนไทย-กัมพูชา

สระแก้ว 6 ก.ค. – “โรม” ควง “เท้ง” ลงพื้นที่สระแก้ว ดูชายแดนไทย-กัมพูชา “สอบสวนกลาง-ดีเอสไอ-หน่วยงานปกครอง” ลงด้วยเพียบ สงสัยฝั่งตรงข้ามเป็นฐานสแกมเมอร์-คอลเซ็นเตอร์ หรือไม่ แย้มมีข้อมูลทุนใหญ่เป็นหลังบ้านผู้มีอำนาจกัมพูชา เจอแน่ปิดห้องคุยพรุ่งนี้ แนะสร้างเสาเซ็นเซอร์ตรวจจับชายแดน หมาแมวตรวจได้หมด หากลักลอบเข้า ด้าน “ชุติพงศ์” โวย เขมรไม่ทำรั้ว-รับผิดชอบ ปล่อยผ่านคนลักลอบเข้าออก นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร​ ลงพื้นที่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว​ ร่วมกับคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ​ สภาผู้แทนราษฎร​ เพื่อดูการแก้ไขปัญหาความมั่นคงและการบริหารกิจการชายแดนไทย-กัมพูชา​ โดยมีหน่วยงานความมั่นคง​ นายอำเภอ​ กรมการปกครอง รวมถึงเจ้าหน้าที่จากกรมสอบสวนคดีพิเศษ และกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ลงพื้นที่ด้วย จุดแรกมาที่บริเวณด้านหลังห้างสรรพสินค้า​อรัญประเทศ​ โดย พ.อ.เมธี คำเต็ม ผู้บังคับการชุดควบคุมกรมทหารพรานที่ 12 กองกำลังบูรพา รายงาน​ว่า​ จุดนี้​เป็นพื้นที่​ที่การข่าวแจ้งว่า​ใช้เป็นช่องทางลักลอบข้ามไปฝั่งกัมพูชา​ เป้าหมายไปทำงานหรือเล่นการพนัน​ ปัจจุบันได้ซีลพื้นที่ตรงนี้แล้ว แต่ก็มีการลักลอบเข้าออกตลอด แม้จะมีสถานการณ์ไทย-กัมพูชา […]

“บิ๊กเต่า” ขอเวลาตรวจสอบให้ชัด คลี่ปมพัวพันสีกา ก.

6 ก.ค.- “บิ๊กเต่า” เผยคำให้การสีกา ก. เป็นประโยชน์ อาจโยงไปถึงการทุจริต แต่ขอเวลาตรวจสอบให้ชัด เตรียมประชุมคณะทำงานสัปดาห์หน้า เรียกผู้เกี่ยวข้องสอบเพิ่มเติม ยืนยันหากพบใครเอี่ยวพร้อมดำเนินคดี 12.00 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยถึงกรณีการเรียกตัวสีกาอักษรย่อ ก. มาสอบปากคำ ว่า หลังจากนำตัวสีกา ก. มาสอบ ก็ได้ข้อมูลในแนวทางที่ดีและมีประโยชน์ อาจนำไปสู่เรื่องที่อาจเอี่ยวกับการทุจริต แต่ก็จะต้องมีการตรวจสอบให้ละเอียด เพราะทุกอย่างต้องชัดเจน เนื่องจากคำให้การอย่างเดียวไม่พอ ต้องมีหลักฐานอื่นประกอบด้วย จากคำให้การของสีกา ก. ว่า มีการเล่นพนันออนไลน์ แล้วเงินที่ใช้เล่นเป็นเงินส่วนไหน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ตอบว่า “ตอนนี้ยังไม่สามารถบอกได้ แต่เขามีการเล่นพนันจริง” ตอนนี้มีการตั้งคณะทำงานตรวจสอบเรื่องนี้แล้ว โดยมี ปปป. เป็นหน่วยงานหลักรับผิดชอบ เนื่องจากเรื่องนี้เกี่ยวพันหลายพื้นที่ ส่วนเรื่องบัญชีวัด ทางบก.ปปป. ก็มีอำนาจสามารถตรวจสอบได้เลย ประมาณวันจันทร์-อังคารที่จะถึงนี้ จะมีการประชุมถึงเรื่องนี้อีกครั้ง ผู้สื่อข่าวถามว่า สีกา ก. เคยทำให้พระสึกมาแล้วถึง 2 รูป จริงหรือไม่ […]

รวบ “สังข์” ผู้ต้องหาแหกห้องขัง สภ.เมืองสกลนคร

6 ก.ค.- ตำรวจบุกรวบ “สังข์” ผู้ต้องหาคดีอาวุธปืนและยาเสพติด หลังก่อเหตุแหกห้องขัง สภ.เมืองสกลนคร จนมุมบนขบวนรถไฟ ขณะเตรียมหลบหนีเข้ากรุงเทพฯ ตำรวจสอบสวนกลาง หรือ CIB จับกุมนายเกียรติศักดิ์ หรือ สังข์ อายุ 39 ปี ผู้ต้องหาคดีอาวุธปืนและยาเสพติด ได้บนขบวนรถไฟ ขณะเตรียมหลบหนีเข้ากรุงเทพฯ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวมาลงบันทึกการจับกุมที่ สน.เตาปูน และอยู่ระหว่างการควบคุมตัวกลับมาดำเนินคดีที่ สภ.เมืองสกลนคร นายเกียรติศักดิ์ ก่อเหตุหลบหนีจากห้องควบคุม สภ.เมืองสกลนคร เมื่อช่วงเช้ามืดของวันที่ 13 มิถุนายน เจ้าหน้าที่พบเบาะแสหลบซ่อนตัวบนเทือกเขาภูพาน ขณะเดียวกันโซเชียลพากันแชร์ภาพนายเกียรติศักดิ์ พบว่า เป็นบุคคลอันตรายที่อาจมีอาวุธ หากใครพบเห็นห้ามเข้าใกล้ ทั้งนี้ สภ.เมืองสกลนคร ได้ปูพรมค้นหาตามล่าตัวและตั้งรางวัลนำจับ เป็นเงิน 3 หมื่นบาทให้กับผู้แจ้งเบาะแส .-สำนักข่าวไทย