กรุงเทพฯ 21 พ.ย. – รมว.พลังงานเตือนชาวสวนปาล์ม อย่าเพิ่งขายผลปาล์ม รอเดือน ธ.ค.ที่ 3 มาตรการจะเริ่มดูดซับจะดึงราคาผลปาล์มดิบจาก 2.50 บาท/กก. เป็น 3.20 บาท/กก. ดูดซับสตอกน้ำมันปาล์มดิบ (ซีพีโอ ) 4 แสนตัน/ปี จากสตอกทั้งหมด 4.2-4.5 แสนตัน
นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า กระทรวงพลังงานได้เดินหน้าร่วมปรับสมดุลน้ำมันปาล์มในประเทศ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรแก้ไขปัญหาราคาปาล์มน้ำมันตกต่ำ ประกอบด้วย 1.การใช้น้ำมันปาล์มดิบในการผลิตกระแสไฟฟ้า โดยการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) รับซื้อซีพีโอ จากกระบี่ สุราษฎร์ธานี ชุมพร ปริมาณ 160,000 ตัน เพื่อนำไปใช้เป็นเชื้อเพลิงผลิตกระแสไฟฟ้าที่โรงไฟฟ้าบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา ในราคารับซื้อ 18 บาท/กก. ณ ท่าเทียบเรือโรงไฟฟ้าบางปะกง โดยจะร่วมกับกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ จัดหาจากเกษตรกรผู้ผลิตที่ลานเทและโรงสกัดที่ขึ้นทะเบียนกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เริ่มรับซื้อตั้งแต่เดือนธันวาคม 2561 เพื่อใช้ในการผลิตไฟฟ้าระหว่างเดือนมกราคม – พฤษภาคม 2562 โดยใช้เงินรับซื้อซีพีโอ 2,880 ล้านบาท ซึ่งเป็นต้นทุนเชื้อเพลิงสูงกว่าการใช้ก๊าซธรรมชาติผลิตไฟฟ้าประมาณ 1,354 ล้านบาท ส่วนต่างดังกล่าวจะได้รับชดเชยต้นทุนจากกระทรวงพาณิชย์ 525 ล้านบาท และอีก 829 ล้านบาท จะทำความตกลงกับกระทรวงการคลัง และสำนักงบประมาณ เพื่อให้เป็นรายจ่ายเพื่อสังคม (PSA) ของ กฟผ. โดยจะไม่ส่งผลกระทบต่อค่าไฟฟ้า และการคำนวณรายได้เชิงผลตอบแทนของพนักงาน กฟผ.ทั้งเงินเดือนและโบนัส
2. มาตรการใช้เพิ่มส่วนผสมในน้ำมันไบโอดีเซล บี 7 จากเดิมใช้บี 100 ผสม 6.6 % เป็น 6.9 % เพิ่มการใช้ซีพีโออีก 80,000 ตัน/ปี จากเดิม 1.2 ล้านตัน/ปี หรือเป็น 1.28 ล้านตัน/ปี และ 3.เร่งส่งเสริมการใช้บี 20 ในรถบรรทุกขนาดใหญ่ โดยจะมีโปรโมชั่นพิเศษ ปรับราคาบี 20 ให้ต่ำกว่า บี 7 จาก 3 บาท/ลิตร เป็น 5 บาท/ลิตร เป็นเวลา 3 เดือน จากวันที่ 1 ธันวาคม 2561 -28 กุมภาพันธ์ 2562 คาดจะเพิ่มการใช้บี 20 จาก 500,000 ลิตร/วัน เป็น 10 ล้านลิตร/วัน โดยใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงอุดหนุนเพิ่มอีก 700 ล้านบาท และจากที่ค่ายรถยนต์ทั้งอีซูซุและฮีโน่ ออกมารองรับว่ารถบรรทุกยูโร 2 สามารถใช้บี 20 ได้ โดยไม่ต้องปรับเปลี่ยนอุปกรณ์และไส้กรองน้ำมัน คาดว่าจะมีรถบรรทุกมาใช้บี 20 มากขึ้น ขณะที่รถบรรทุกยูโร 4 ต้องปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ ฟิลเตอร์ 10,000 บาท/คัน อย่างไรก็ตาม มาตรการลดราคาเพิ่ม 3 บาท เป็น 5 บาท ใน ช่วง 3 เดือน จะมีมูลค่ารวม 20,000 บาท/คัน ดังนั้น จึงคาดว่าจะเพิ่มแรงจูงใจในการใช้บี 20
“คาดว่า 3 มาตรการที่กระทรวงพลังงานเข้ามาร่วมดำเนินการจากธันวาคมนี้ถึงเดือนพฤษภาคมปีหน้า จะช่วยดูดซับสตอกซีพีโอได้ 400,000 ตัน จากสตอกรวม 420,000-450,000 ตัน ช่วยดึงราคาปาล์มทะลายจาก 2.50 บาท/กก. เป็นไม่ต่ำกว่า 3.20 บาท/กก. ดังนั้น ขอให้ชาวสวนปาล์มอย่าเพิ่งขายผลปาล์มออกมา”รมว.พลังงาน กล่าว
ทั้งนี้ ในส่วนบี 20 หากรถบรรกทุกใช้เป็นจำนวนมาก ตั้งเป้าหมายว่าจะมีการใช้รวม 20 ล้านลิตร/วันในปลายปี 2562 ซึ่งจะใช้ซีพีโอ 500,000 ตัน/ปี ทำให้ในอนาคตไม่จำเป็นต้องใช้ซีพีโอในการผลิตไฟฟ้าแต่อย่างใด เพราะเมื่อรวมกับการใช้บี 7 ประมาณ 1.2 ล้านตัน/ปี และการบริโภคอีก 1-1.2 ล้านตัน/ปี เท่ากับประเทศไทยจะใช้ซีพีโอรวม 270,000-290,000 ตัน/ปี ซึ่งจะใกล้เคียงกับการผลิตแต่ละปี
สำหรับสาเหตุของราคาปาล์มตกต่ำก็มาจากสหภาพยุโรป (อียู) จำกัดการใช้ทั้งการบริโภคและการใช้ในรถยนต์ ทำให้การใช้ปาล์มในตลาดโลกลดลง และกระทบมายังราคาในประเทศไทย ดังนั้น จึงถือเป็นความเสี่ยงในอนาคต และขอเตือนเกษตรกรว่าไม่ควรเพิ่มผลผลิตปาล์มเพิ่มขึ้นแต่อย่างใด.-สำนักข่าวไทย