GC ทำสถิติใหม่ 9 เดือน กำไร 36,008 ล้านบาท

กรุงเทพฯ 9 พ.ย.- GC ประกาศผลดำเนินงานไตรมาส 3 กำไรสุทธิ 12,793 ล้านบาท มีรายได้จากการขายรวม 136,712  ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิในรอบ 9 เดือนแรกของปี 2561 จำนวน 36,008 ล้านบาท เป็นการทำกำไรที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ เพิ่มขึ้น ร้อยละ 21 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน พร้อมขับเคลื่อนธุรกิจโดยยึดหลัก Circular Economy ประยุกต์ใช้ทั้งภายในและภายนอกองค์กร พร้อมสร้างความตระหนักรู้ มุ่งหวังไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่าและเป้าหมายสร้างให้ GC เป็นต้นแบบองค์กรแห่งความยั่งยืนอย่างแท้จริง



นายสุพัฒนพงษ์  พันธ์มีเชาว์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) (CEO) GC เปิดเผยว่า ไตรมาส 3/2561 บริษัทฯ มีผลการดำเนินการดีขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า โดยมีรายได้จากการขาย 136,712 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 6 มี Adjusted EBITDA 16,830 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิรวม 12,793 ล้านบาท (2.84 บาท/หุ้น) ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 6 และร้อยละ 18 ตามลำดับ และเมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส 3/2560 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 31 ขณะที่ Adjusted EBITDA และกำไรสุทธิรวม ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 12 และร้อยละ 29 ตามลำดับ สำหรับผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรกของปี 2561 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิรวม 36,008 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 21 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์


ทั้งนี้ ไตรมาส 3/2561 ธุรกิจโอเลฟินส์และผลิตภัณฑ์ต่อเนื่องมีผลประกอบการปรับลดลงเล็กน้อย จากไตรมาส 3/2560 โดยในส่วนของธุรกิจโพลิเมอร์มีปริมาณการขายเพิ่มขึ้น เนื่องจากบริษัทฯ มีกำลังการผลิตใหม่จากโรงงาน LLDPE กำลังการผลิต 400,000 ตันต่อปี เริ่มการผลิตเชิงพาณิชย์เดือนมีนาคม 2561 ขณะที่ธุรกิจผลิตภัณฑ์เอทิลีนออกไซด์ปรับตัวลดลงจากราคาวัตถุดิบเพิ่มขึ้น และเมื่อเปรียบเทียบกับผลประกอบการไตรมาส 2/2561 พบว่าผลประกอบการไตรมาสนี้ของธุรกิจโอเลฟินส์และผลิตภัณฑ์ต่อเนื่องมีการปรับตัวลดลงเล็กน้อย โดยเป็นผลจากระดับราคาผลิตภัณฑ์โพลิเมอร์ที่ปรับตัวลดลง ประกอบกับปริมาณการขายโอเลฟินส์ที่ลดลง ซึ่งเป็นผลจากการหยุดซ่อมบำรุงตามแผนของโรงงานโอเลฟินส์ 1

สำหรับธุรกิจอะโรเมติกส์มีกำไรเพิ่มขึ้น ทั้งจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วและจากไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งเป็นผลจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของส่วนต่างผลิตภัณฑ์พาราไซลีนเป็นหลักและปริมาณการขายที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งเป็นผลดีต่อเนื่องจากการที่มีการหยุดซ่อมบำรุง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตปีที่แล้ว สำหรับธุรกิจผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมปรับตัวลดลงจากไตรมาส 3/2560 เป็นผลจากส่วนต่างของผลิตภัณฑ์ที่ลดลงเป็นหลัก แต่ปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า จากส่วนต่างของผลิตภัณฑ์ที่ดีขึ้นโดยเฉพาะในส่วนของน้ำมันเตา ทั้งนี้ในส่วนของส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุน มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากผลประกอบการที่ดีขึ้นของธุรกิจอะคริโลไนไตรล์ (AN) ธุรกิจพีวีซี และผลประกอบการดีขึ้นในส่วนของธุรกิจไบโอพลาสติกที่บริษัทฯ ดำเนินการผ่าน บริษัท Natureworks ซึ่งดำเนินธุรกิจอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา


สรุปผลการดำเนินงานตามกลุ่มธุรกิจ ดังนี้ โรงกลั่นน้ำมัน มีอัตราการใช้กำลังการผลิตอยู่ที่ร้อยละ 102 โรงอะโรเมติกส์ มีอัตราการใช้กำลังการผลิตสารอะโรเมติกส์ (BTX Utilization)  เฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 94 โรงโอเลฟินส์ มีอัตราการใช้กำลังการผลิตอยู่ที่ร้อยละ 98 โรงผลิตเม็ดพลาสติก PE มีอัตราการใช้กำลังการผลิตอยู่ที่ร้อยละ 97 ราคาเม็ดพลาสติก HDPE เฉลี่ยอยู่ที่ 1,350 เหรียญฯ ต่อตัน ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 3/2560 ร้อยละ 19

ด้านความคืบหน้าและโครงการลงทุนต่าง ๆ มีดังนี้ โครงการซื้อหุ้น Revolve Group Limited (RGL) จากประเทศสหราชอาณาจักร ร้อยละ 49 เป็นแผนการขยายการลงทุนต่อยอดและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ มุ่งเน้นการลงทุนไปยังผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติเฉพาะทางและมีสมรรถนะสูง (Performance Chemicals) โดย RGL เป็นผู้ผลิต Rotomolding Compound รายสำคัญที่มีสัดส่วนในการทำธุรกิจลำดับต้น ๆ ของทวีปยุโรป มีฐานการผลิตในประเทศต่าง ๆ ทั้งอังกฤษ โปแลนด์ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และมาเลเซีย โครงการนี้วัตถุดิบสำคัญ คือ เม็ดพลาสติก LLDPE ซึ่งเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์โพลีเมอร์ของ GC ซึ่งการเข้าสู่ธุรกิจดังกล่าวเป็นการก้าวเข้าไปสู่กลุ่มอุตสาหกรรมก่อสร้าง (Construction) ด้วยศักยภาพในการผลิต ถังบรรจุขนาดใหญ่ ถังเก็บน้ำใต้ดิน บนดิน ธุรกิจด้าน Sport สร้างสนามเด็กเล่น เรือคายัค เรือใบ ด้วยคุณสมบัติของเม็ดพลาสติก LLDPE Rotomolding Compound ที่มีความแข็งแรง คงทน ทนแดด ทนฝน เหมาะสมในการผลิตผลิตภัณฑ์พลาสติกขนาดใหญ่

นายสุพัฒนพงษ์  กล่าวว่า GC ขับเคลื่อนธุรกิจโดยนำหลัก Circular Economy มาประยุกต์ใช้ทั้งภายในและภายนอกองค์กร พร้อมสร้างความตระหนักรู้ โดยมุ่งหวังไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่า สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การสร้างให้ GC เป็นต้นแบบองค์กรแห่งความยั่งยืนอย่างแท้จริง

บริษัทฯ มุ่งมั่นในการประกอบกิจการที่เน้นการใช้ทรัพยากรให้คุ้มค่า ควบคู่กับการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม นอกเหนือจากนี้ยังประยุกต์ใช้หลักการของเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) เพื่อใช้เป็นพื้นฐานในการดำเนินงานด้านความยั่งยืน การใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าในขั้นตอนการผลิต การอุปโภคบริโภค และการกำจัดขยะและของเสียจากผลิตภัณฑ์อย่างมีประสิทธิภาพและลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม  และมุ่งเน้นในการนำแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียนมาสร้างดุลยภาพระหว่างเทคโนโลยีกับชีวภาพเพื่อลดการเกิดของเสียและลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมตลอดห่วงโซ่อุปทาน

 บริษัทฯ ขับเคลื่อนธุรกิจโดยนำหลัก Circular Economy มาประยุกต์ใช้ทั้งภายในและภายนอกองค์กร พร้อมสร้างความตระหนักรู้ โดยมุ่งหวังไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่า สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การสร้างให้ GC เป็นต้นแบบแนวคิดและการดำเนินชีวิตแบบ GC Circular Living โดยมีแนวทางในการบริหารจัดการ 4 ด้าน ได้แก่ การบริหารทรัพยากร (Resources) ตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง การบริหารจัดการกระบวนการผลิต (Production) โดยใช้หลัก 3Rs เพื่อก้าวไปสู่ 5Rs (Reduce, Reuse, Recycle, Renewable และ Refuse) การบริโภคและการนำไปใช้ (Consumption) ให้คุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด และการบริหารจัดการขยะ (Waste Management) อย่างมีประสิทธิภาพ

บริษัทฯ มีเป้าหมายที่จะลดปริมาณการใช้พลาสติกชนิดใช้แล้วทิ้ง (Single Used Plastic) เช่น ถุงช็อปปิ้ง จำนวน 150,000 ตันต่อปี ให้เหลือ 0 ตันต่อปี ภายใน 5 ปี การมุ่งสู่ตลาดไบโอพลาสติก ในการผลิต Packaging รูปแบบต่าง ๆ การ Upcycling ด้วยการนำนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์มาเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมุ่งดำเนินธุรกิจพลาสติกรีไซเคิล (Recycled Plastic) โดยอยู่ในระหว่างการศึกษาการลงทุนโรงงานรีไซเคิล พลาสติกครบวงจรมาตรฐานสากลระดับโลก ในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม จังหวัดระยอง ขณะนี้อยู่ระหว่างการคัดเลือกเทคโนโลยีที่เหมาะสม การแสวงหาพันธมิตรร่วมลงทุน รวมทั้งการจัดหาวัตถุดิบ (Waste Collection) ที่เหมาะสม คาดว่าจะมีความชัดเจนภายในต้นปีหน้า.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ออกหมายจับ 5 คนแก๊ง “เสือปุ่น” ปล้นเงินสด 3.4 ล้าน

กทม. 1 ก.ค.-ออกหมายจับ 5 คนแก๊ง “เสือปุ่น” ปล้นเงินสด 3.4 ล้านตุ๋นแลกคริปโตฯ ชุดสืบปูพรมล่า จากกรณีกลุ่มคนร้าย 7 คน ก่อเหตุปล้นทรัพย์ เงินสด 3.4 ล้านบาท โดยใช้อาวุธมีดจี้ ข่มขู่ผู้เสียหาย 3 คน ที่มาซื้อเงินคริปโตเคอร์เรนซี่ สกุลเวิน USDT จำนวน 100,000 ดอลล่า ภายในลานจอดรถศูนย์การค้าชื่อดังย่านลาดพร้าว แขวงและเขตจตุจักร กทม. เมื่อช่วงเวลา 19.30 น. ของวานนี้ (30 มิ.ย.) ภายหลัง พล.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. และ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. นำชุดสืบสวนเร่งรัดติดตามตัว จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 ราย คือ นายเฌอพัชญ์ หรือหนาว อายุ 25 ปี […]

“ทักษิณ” พร้อมลูกสาว เดินทางออกจากศาลอาญา หลังสืบพยานนัดแรก

1 ก.ค. – บรรยากาศที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ภายหลังนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าสืบพยานโจทก์นัดแรกในคดีหมายเลขดำ อ.1860/2567 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายทักษิณ เป็นจำเลยในความผิด ฐานดูหมิ่นสถาบันฯ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ม.112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ เมื่อเวลา 12.10 น. นายทักษิณ พร้อมด้วย น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ หรือเอม ได้เดินทางกลับโดยใช้ประตูด้านข้างของศาลอาญา ก่อนขึ้นรถออกไป โดยเลี้ยวออกไปทางประตูของศาลแพ่ง และเลี้ยวออกถนนพหลโยธินโดยทันที โดยมีกลุ่มมวลชนสวมเสื้อสีแดงยืนคอยให้กำลังใจอยู่บริเวณริมฟุตบาธบริเวณประตูทางออกอยู่จำนวนหนึ่ง ทั้งนี้มีนางเพญ พินิจอักษร ชาวจังหวัดศรีสะเกษ ถือรูปนายทักษิณ โดยมีการเขียนข้อความในภาพว่าขอส่งกำลังใจให้นายกฯในดวงใจ พร้อมถือพวงมาลัยดอกมะลิพวงใหญ่ และมีกลุ่มมวลชนสวมเสื้อสีแดงกลุ่ม 50 เขตแดน กทม. มาให้กำลังใจด้วยเช่นเดียวกัน จากนั้น นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัว นายทักษิณ ได้เดินมาทำความเข้าใจกับสื่อมวลชนหลังจากที่ศาลอาญาได้มีการพักการสืบพยาน ว่า ขอให้สื่อมวลชนใช้วิจารณญาณว่าจะอยู่หรือไม่อยู่ เพราะศาลใช้การพิจารณาลับ ทั้งนี้ไม่สามารถพูดอะไรในกระบวนการได้ จะพูดได้แค่มีพยานกี่ปาก […]

ธปท.เผย “คุณสู้ เราช่วย” เฟส 2 มีลูกหนี้เข้าเกณฑ์ 1.8 ล้านราย

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – ธปท.เผย “คุณสู้ เราช่วย” เฟส 2 เพิ่ม “จ่าย ตัด ต้น” พร้อมขยายขอบเขต 2 มาตรการเดิม “จ่ายตรง คงทรัพย์” และ “จ่าย ปิด จบ” มีลูกหนี้เข้าเกณฑ์ 1.8 ล้านราย ยอดนี้ประมาณ 3.1 แสนล้านบาท นางสาวสุวรรณี เจษฎาศักดิ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผย ว่า ภายใต้เศรษฐกิจที่มีความไม่แน่นอนสูง ยังมีลูกหนี้กลุ่มเปราะบางจำนวนมากที่มีปัญหาในการชำระหนี้ และพบว่าลูกหนี้ยังให้ความสนใจเข้าร่วมโครงการอย่างต่อเนื่อง แต่บางส่วนไม่สามารถเข้าร่วมได้เนื่องจากคุณสมบัติไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนด กระทรวงการคลัง สศช. ธปท. ธนาคารพาณิชย์ สถาบันการเงินเฉพาะกิจ รวมถึงผู้ประกอบธุรกิจ non-bank ที่เป็นบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของธนาคารพาณิชย์ เห็นควรขยายระยะเวลาลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคุณสู้เราช่วยเฟส 1 (เดิมสิ้นสุด 30 มิ.ย.68) และให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติม ภายใต้โครงการ […]

“บิ๊กเต่า” เร่งสอบบัญชีวัดดัง พบเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลายครั้ง

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – “บิ๊กเต่า” เร่งสอบ 5 บัญชี เงินวัดตรีฯ-ทิดอาชว์ พบมีเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลักหมื่นถึงหลักแสนบาทหลายครั้ง ส่วนคลิปลับแชทหลุดเป็นหน้าที่สำนักพุทธฯ ตรวจสอบ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เรียกประชุมตำรวจ บก.ปปป. และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. เพื่อติดตามความคืบหน้าการตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายของวัดตรีทศเทพวรวิหาร หลังพบพิรุธพระเทพวชิรปาโมกข์ (อาชว์ อาชฺชวปเสฏฺโฐ) หรือ “เจ้าคุณอาชว์” ได้ลาสิกขาหรือสึก ที่ จ.หนองคาย อย่างกะทันหัน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า จากการเข้าตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายที่วัดตรีทศเทพเมื่อวานนี้ ยังไม่เป็นที่น่าพอใจ ทางวัดให้เอกสารทางบัญชีมาบางส่วน พระหลายรูปกังวลหวาดกลัวจึงไม่ค่อยให้ความร่วมมือเท่าที่ควร แต่ตำรวจได้ประสานรักษาการเจ้าอาวาสวัด เพื่อให้แต่งตั้งไวยาวัจกรใหม่ ซึ่งเชื่อว่าหลังจากนี้จะได้รับความร่วมมือมากขึ้น โดยตำรวจได้ประสานขอรายการเดินบัญชีธนาคารของวัด 5 บัญชี เป็นบัญชีที่เกี่ยวกับเงินกฐิน ค่าเช่าที่จอดรถ ฌาปนกิจศพ ค่าน้ำค่าไฟ และภาพวาดโบราณ และบัญชีที่ต้องสงสัยอีกจำนวนหนึ่ง มาตรวจสอบทั้งหมด รวมถึงบัญชีส่วนตัวของทิดอาชว์ เบื้องต้นตำรวจมีข้อมูลน่าเชื่อได้ว่า ตำแหน่งเจ้าอาวาสไม่ได้มีเงินเยอะ แต่ตำรวจเห็นหลักฐานการโอนเงินบางส่วนไปยังสีกาหญิงหลายรายการ ยอดเงินตั้งแต่หลักหมื่นถึงหลักแสนบาท ซึ่งอาจเป็นเงินของวัด หรืออาจใช้ให้คนอื่นไปโอน […]

ข่าวแนะนำ

สั่งปิดประชุมสภาฯ หลัง สส. เสนอนับองค์ประชุม

รัฐสภา 3 ก.ค. – การประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันแรก ประเดิมด้วยกระทู้สดเรื่องปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา และขณะนี้ประธานสั่งปิดประชุมแล้ว หลัง สส. เสนอนับองค์ประชุม การประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันนี้ประเดิมด้วยการพิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา เรื่องปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ของนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชนชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ถามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โดยมี พล.อ.ณัฐพล นาคพานิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รักษาการ รมว.กลาโหม เป็นผู้ชี้แจงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังมีกรณีคลิปเสียงของนายกรัฐมนตรีคุยกับสมเด็จฮุนเซน อดีตนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา โดยระบุว่าขณะนี้มีสัญญาณดี กัมพูชายอมคุยด้วยแล้ว ทางฝ่ายระดับสูงของกัมพูชาเริ่มมีการคุยว่า เชิญไปประชุมทวิภาคี จีบีซี หารือ 2 ประเด็น ถอนกำลังพล-ลดเข้มงวดมาตรการชายแดน แต่ด้วยสถานการณ์ทางด้านโซเชียลฯ ทั้งฝ่ายไทยและกัมพูชาทำให้การพูดคุยในเรื่องเงื่อนไขเราก็ยังไม่เป็นที่ตกลงกัน ขอเรียนว่า มีสัญญาณบวกและวัตถุประสงค์ที่รัฐบาลยังคงมาตรการในการควบคุมด่านอยู่ มีไว้เพื่อสร้างแรงกดดันที่ต้องใช้อย่างเหมาะสม ยืนยันกองทัพทำตาม นโยบายของรัฐบาล ทั้งนี้หลังการถามกระทู้ ที่ประชุมเตรียมพิจารณารายงานของกองทุนสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ นายอัคร ทองใจสด สส.เพชรบูรณ์ พรรคพลังประชารัฐ ได้เสนอที่ประชุมให้นับองค์ประชุม เพื่อตรวจสอบจำนวน สส.ภายในห้องประชุม ซึ่งขณะนี้มี […]

ครม. มอบ “ภูมิธรรม” รักษาการนายกฯ เบอร์หนึ่ง

ทำเนียบ 3 ก.ค.-ครม. มอบ “ภูมิธรรม” รักษาการนายกฯ เบอร์หนึ่ง มีอำนาจหน้าที่เช่นเดียวกับนายกฯ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เห็นชอบตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ เรื่องการมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ในกรณีที่นายกรัฐมนตรีไม่อาจปฏิบัติราชการได้ โดยมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี เป็นผู้รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ตามลำดับดังนี้1.นายภูมิธรรม เวชยชัย2.นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ3.นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค4.นายพิชัย ชุณหวชิร5.นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ทั้งนี้ ในการรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ผู้รักษาราชการแทนของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี จะมีอำนาจหน้าที่เช่นเดียวกับนายกรัฐมนตรี และมีอำนาจหน้าที่ในการเป็นประธานกรรมการในคณะกรรมการ หรือองค์กรใด ส่วนในกรณีที่ผู้รักษาราชการแทนตาม 2-5 จะสั่งการใดอันเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลและการอนุมัติเงินงบฯ อันอยู่ในอำนาจของนายกรัฐมนตรี ต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี ทั้งนี้ กองอาลักษณ์ฯ เห็นว่า การเสนอ ครม. พิจารณาการมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีเป็นผู้รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรีดังกล่าว เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของกฎหมายและเป็นอำนาจของ ครม. ตามความในมาตรา 41 แห่ง พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 ดังนั้น จึงเห็นควรเสนอ ครม. ต่อไป […]

เจ้าอาวาสวัดม่วง ยันบริสุทธิ์ใจ ยินดีให้ตรวจสอบ

กรุงเทพฯ 3 ก.ค. – เจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ ลงพื้นที่วัดม่วง ตรวจสอบกรณีเงินสด 10 ล้าน และทองคำ 300 บาท หายไป เจ้าอาวาสวัด เผยบริสุทธิ์ใจ ยอมเสียเงินดีกว่าเสียชื่อเสียง ยืนยันแยกบัญชีส่วนตัวกับบัญชีวัด โดยบัญชีวัดจะมีคณะกรรมการและไวยาวัจกรดูแล ส่วนเงินที่หายไป เป็นเงินส่วนตัวที่จะนำไปใช้ทำบุญวันเกิด ช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่จากสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ เดินเข้ามาภายในวัดม่วง ซอยเพชรเกษม 63 ถนนเพชรเกษม แขวงหลักสอง เขตบางแค กรุงเทพฯ โดยปฏิเสธให้ข้อมูล เบื้องต้นตอบเพียงว่าเดินทางมาตรวจสอบข้อมูลการเงินของวัด หลังปรากฏข่าวออกไป เจ้าอาวาสวัดม่วง บอกว่าเงินที่หายไปเป็นปัจจัยที่เบิกมา เพื่อเตรียมนำมาทำบุญวันเกิด โดยจะนำเงินส่วนนี้ไปแจกให้กับเด็กนักเรียน และนำไปนิมนต์พระมาทำบุญ รวมถึงจะนำบางส่วนไปใช้ในการก่อสร้างเจดีย์ โดยวันที่ไปเบิกเงินที่ธนาคารไปกับคนสนิท 2 คน และเบิกเงินจำนวน 10 ล้านบาท หลังจากนั้นเดินทางกลับ และนำปัจจัยใส่กระเป๋าวางไว้ใต้โต๊ะในกุฏิ เนื่องจากภายในเซฟมีการเก็บเงินของวัดไว้ จึงไม่ต้องการนำไปรวม ตนเองเองรู้ที่เก็บเงินเพียงคนเดียว ยืนยันมีการแยกบัญชีเงินส่วนตัวและเงินของวัด ในส่วนของวัดจะมีกรรมการและไวยาวัจกรดูแล แต่เงินของตัวเองซึ่งเก็บมากว่า 40 ปี มีอยู่ประมาณ […]

“สุริยะ” นำ 14 รมต.ใหม่ เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณ

3 ก.ค. – “สุริยะ” นำ 14 รมต.ใหม่ เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่ ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จออก ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี นำคณะรัฐมนตรี ซึ่งทรงพระกรุณาโปรดกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งใหม่ จำนวน 14 คน เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายสัตย์ปฏิญาณตนก่อนเข้ารับหน้าที่ .-สำนักข่าวไทย