ม็อบเกษตรกรเตรียมชุมนุมใหญ่ หากเจรจาแก้หนี้ไม่สำเร็จ

กรุงเทพฯ  96 พ.ย. – เครือข่ายหนี้สิน กฟก.ขู่จะนำเกษตรกร 4,000 คน ชุมนุมหน้ากระทรวงเกษตรฯ หลัง 15 พ.ย.นี้ ประกาศสู้ไม่ถอย ยืนยันไม่รับแนวทางแก้หนี้ตามมติ ครม. 2 ต.ค.61


นายยศวัจน์ ชัยวัฒนสิริกุล ที่ปรึกษาสหพันธ์เครือข่ายเกษตรกรแห่งประเทศไทย กล่าวว่า คณะอนุกรรมการประสานเจรจาหนี้สินสถาบันการเงินเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้ของเกษตรกรสมาชิกกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร (กฟก.) นัดหมายให้ผู้แทนเกษตรกรที่ยังมีปัญหาหนี้สินมาประชุมร่วมกัน เพื่อหาแนวทางแก้ไขวันที่ 15 พฤศจิกายน โดยตนเองและนางนิสา คุ้มกอง ตัวแทนกลุ่มเครือข่ายหนี้สินเกษตรกรภาคกลาง พร้อมเกษตรกร 150 คน ที่ชุมนุมหน้ากระทรวงเกษตรฯ มากว่า 3 สัปดาห์ ยืนยันว่า กฟก.ต้องช่วยเหลือเกษตรกร โดยเจรจากับธนาคารและสหกรณ์เจ้าหนี้ให้ตัดเงินต้นร้อยละ 50 และหยุดดอกเบี้ย ส่วนเงินต้นอีกครึ่งหนึ่งนั้น ให้ กฟก.ไปซื้อหนี้จากเจ้าหนี้ เพื่อให้เกษตรกรมาผ่อนชำระกับ กฟก. เนื่องจาก กฟก.มีเงื่อนไขการผ่อนเป็นระยะเวลานานกว่าธนาคารและสหกรณ์ หากทำควบคู่กับการพัฒนาอาชีพ เกษตรกรจะมีความสามารถในการผ่อนชำระ อีกทั้งจะช่วยให้เจ้าหนี้ยับยั้งการฟ้องร้องยึดทรัพย์และนำหลักทรัพย์ของเกษตรกรขายทอดตลาด


นายยศวัจน์ กล่าวว่า แนวทางคณะกรรมการบริหาร กฟก.ชุดเฉพาะกิจที่มีนายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธาน เสนอจะเป็นคนกลางให้เกษตรกรเข้าสู่กระบวนการเจรจาหนี้สินกับเจ้าหนี้ เพื่อขอปรับปรุงโครงสร้างหนี้นั้น กลุ่มเกษตรกรส่วนใหญ่ไม่ยอมรับ แม้นายกฤษฎาชี้แจงแล้วว่าไม่สามารถซื้อหนี้ได้ เนื่องจากจะไม่เป็นไปตามระเบียบการบริหารการเงินการคลังที่ดูแลโดยธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) อีกทั้งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้เข้ามาตรวจสอบการดำเนินงานของ กฟก. แล้วระบุว่า การจัดการหนี้โดยการซื้อหนี้ที่ไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ คือ ต้องเป็นหนี้ที่เกิดจากการทำการเกษตร มูลหนี้ไม่เกิน 2.5 ล้านบาท และเป็นหนี้ที่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ทั้งนี้ กลุ่มเครือข่ายหนี้สินเห็นว่าตามเจตนารมณ์ของกฎหมายการตั้ง กฟก. คือ แก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกรทั้งหมด จึงเห็นว่า กฟก.สามารถใช้แนวทางซื้อหนี้เกษตรกรจากสถาบันการเงินเข้ามาบริหารจัดการได้เองตามมติครม.ปี 2553 ซึ่งรัฐบาลขณะนั้นได้ให้กฟก. ดำเนินการ  ดังนั้น หากวันที่ 15 พฤศจิกายนยังตกลงกันไม่ได้ จะนำเกษตรกรจากทั่วประเทศประมาณ 4,000 คน มาชุมนุมในกรุงเทพฯ สมทบกับม็อบเกษตรกรที่หน้ากระทรวงเกษตรฯ โดยจะไม่ยอมถอยเด็ดขาด

สำหรับคณะกรรมการบริหาร กฟก.ชุดเฉพาะกิจได้ดำเนินการครบ 180 วันแล้ว หลังจากที่คสช. ได้ขยายเวลาตามภารกิจมาแล้ว 2 ครั้ง ขณะนี้นายกฤษฎายังคงทำหน้าที่รักษาการคณะกรรมการกฟก. จนกว่าจะมีการเลือกตั้งคณะกรรมการชุดใหม่ โดยตามพรบ. กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร พม ศ. 2542  กำหนดให้กฟก. มีหน้าที่ดำเนินการเพื่อให้ได้คณะกรรมการบริหารกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ซึ่งจะต้องกำหนดวันเลือกตั้งต่อไป 

ล่าสุดคณะกรรมการบริหาร กฟก.ชุดเฉพาะกิจได้ประชุมสรุปผลการดำเนินงานเสนอ ครม. รับทราบ รวมทั้งเตรียมส่งต่อคณะกรรมการชุดใหม่ที่จะเลือกตั้ง ซึ่งคณะกรรมการบริหาร กฟก. ชุดเฉพาะกิจได้เห็นชอบปรับปรุงกฎหมายกองทุนฟื้นฟูฯ โดยแก้ไขมาตรา 16 23 และ 37/9 ซึ่งผ่านกระบวนการรับฟังความคิดเห็นแล้ว โดยมีเนื้อหาปรับปรุงการบริหารระบบงานของสำนักงานกองทุนตามข้อสังเกตของ สตง.ปรับปรุงประสิทธิภาพสำนักงานกองทุนฯ ด้านบัญชี การจัดการภายในและศักยภาพพัฒนาเกษตรกร พร้อมกันนี้อนุมัติโครงการฟื้นฟูเกษตรกรให้กับองค์กรเกษตรกร 665 โครงการ เกษตรกรเข้าร่วม 10,659 ราย วงเงิน 67.03 ล้านบาท ฟื้นฟูเกษตรกรประสบอุทกภัย 1,114 โครงการ และ กฟก.ได้ช่วยแก้หนี้ให้เกษตรกรผ่านเกณฑ์ตรวจสอบคุณสมบัติไปแล้ว 55,515 ราย มูลหนี้ 9,796 ล้านบาท รวมทั้งกรณีแก้หนี้ตามคำสั่งหัวหน้า คสช. แบ่งเป็น กฟก.ซื้อหนี้ และ ธ.ก.ส.ปรับโครงสร้างหนี้ 1,518 ราย มูลหนี้ 642 ล้านบาท กรณีเกษตรกรขาดคุณสมบัติตามระเบียบ กฟก. โดยกระทรวงเกษตรฯ ร่วมกับ กฟก. เป็นคนกลางเจรจากับเจ้าหนี้ช่วยให้เกษตรกรซึ่งเป็นหนี้เสียกับ ธ.ก.ส. 36,605 ราย มูลหนี้ 10,200 ล้านบาท เข้าสู่กระบวนการปรับปรุงโครงสร้างหนี้สำเร็จ โดย ธ.ก.ส.พักเงินต้นให้ร้อยละ 50 และดอกเบี้ยทั้งหมด แล้วให้ผ่อนชำระส่วนต้นที่เหลืออีกครึ่งหนึ่งภายใน 15 ปี อัตราดอกเบี้ย MRR-ร้อยละ 3 ส่วนที่เหลือเป็นลูกหนี้ธนาคารรัฐ โดยเป็นหนี้เสีย 2,389 ราย มูลหนี้ 630 ล้านบาท ซึ่งอยู่ระหว่างเข้าสู่กระบวนการเจรจาเพื่อปรับโครงสร้าง อีกทั้งกลุ่มลูกหนี้สหกรณ์ 15,973 ราย มูลหนี้ 2,345 ล้านบาทและลูกหนี้ธนาคารพาณิชย์ 573 ราย มูลหนี้ 383 ล้านบาท ซึ่งเจรจาตกลงปรับพักเงินต้นครึ่งหนึ่งแล้วผ่อนชำระส่วนที่เหลือภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2562.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.เรือนจำทักษิณป่วย ไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน  

13 มิ.ย. – ศาลฎีกาฯ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนกรณีกรมราชทัณฑ์อนุญาตให้ “ทักษิณ” เข้ารักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ นัดไต่สวนเพิ่มอีก 6 นัด เดือน ก.ค.68 ด้าน ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ยอมรับไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนคดีชั้น 14 ในเรื่องการบังคับคดีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ล่าสุดการไต่สวนนัดแรกเสร็จสิ้นแล้ว โดยศาลได้สอบถาม นายมานพ ชมชื่น ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพคนปัจจุบัน เกี่ยวกับกระบวนการในการส่งตัวนายทักษิณจากเรือนจำไปโรงพยาบาลตำรวจ ในคืนวันที่ 22 สิงหาคม ซึ่งนายทักษิณ มีอาการแน่นหน้าอก นอนไม่หลับ พยาบาลเวรตรวจอาการแล้ว ถึงโทรไปหาแพทย์ และมีความเห็นให้ส่งตัวไปที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยไม่ได้เข้าไปที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน และอาการก็ตรงกลับใบส่งตัวที่แพทย์เขียนไว้ล่วงหน้า เพราะเป็นผู้ป่วยกรณีฉุกเฉิน แต่ก็ยอมรับว่าไม่ได้เข้าโรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน จากนั้นศาลได้นัดไต่สวน 6 นัด ในเดือนกรกฎาคม 2568 และใน […]

เครื่องบินแอร์อินเดีย ตกใส่อาคารที่พักแพทย์ ตาย 241 รอดคนเดียว

นิวเดลี 13 มิ.ย. – เครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์อินเดีย พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประสบอุบัติเหตุตกใส่อาคารในย่านชุมชนทางตะวันตกของประเทศ มีผู้เสียชีวิต 241 ราย รอดชีวิตปาฏิหาริย์เพียงคนเดียว ยังไม่มีการยืนยันว่ามีคนในอาคารบ้านเรือนเสียชีวิตเท่าไร เครื่องบินลำที่ประสบอุบัติเหตุเป็นเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลน์เนอร์ ของสายการบิน แอร์ อินเดีย เที่ยวบิน เอไอ171 (AI171) พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประกอบด้วยผู้โดยสาร 230 คน และลูกเรือ 12 คน เพิ่งจะออกเดินทางจากท่าอากาศยานระหว่างประเทศเมืองอาห์เมดาบัด รัฐคุชราต ทางตะวันตกของอินเดียเมื่อเวลา 13.34 น. วานนี้ มุ่งหน้าไปยังท่าอากาศยานแกตวิค กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ คนบนเครื่องบินเป็นชาวอินเดีย 169 คน และมีพลเมืองอังกฤษ 53 คน โปรตุเกส 7 คน และแคนาดา 1 คน คลิปที่ผู้ใช้งานสื่อออนไลน์ในอินเดียส่งต่อกันแพร่หลาย เผยให้เห็นช่วงเวลาขณะที่เครื่องบินโดยสารลำนี้เครื่องบินค่อยๆ […]

แพทยสภายืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย

กทม. 12 มิ.ย.- แพทยสภามีมติ 2 ใน 3 ยืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย ปมส่งตัว “ทักษิณ” รักษาชั้น 14 รพ.ตร. ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภา เปิดเผยหลังการประชุมการลงมติแพทยสภากว่า 5 ชม. ว่า กรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ เกี่ยวกับการประพฤติผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม การประชุมคณะกรรมการแพทยสภาครั้งที่ 6/2568 ประจำเดือนมิถุนายน คือวันนี้ มีวาระสำคัญคือการพิจารณาหนังสือยับยั้งมติลงโทษผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมของคณะกรรมการแพทยสภาจากสภานายกพิเศษ วาระนี้มีคณะกรรมการแพทยสภาเข้าร่วมประชุมจำนวน 68 คน จากจำนวนแพทยสภาที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งสิ้น 69 คน ได้พิจารณาการยับยั้งมติแพทยสภาของสภานายกพิเศษ มีมติด้วยคะแนนเสียงเกินกว่า 2 ใน 3 ของคณะกรรมการฯ ที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งคณะ ซึ่งมีคะแนนโหวตมากกว่า 60 เสียง ยืนยันตามมติเดิมของคณะกรรมการแพทยสภาเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 กระบวนการต่อไปแพทยสภาจะออกคำสั่งบังคับตามมติและแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบ คาดว่าคำสั่งจะออกได้ในวันพรุ่งนี้ และจะมีผลการลงโทษหลังจากคำสั่งไปยังผู้ถูกร้องเรียน ทั้งนี้ […]

“ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน

ฉะเชิงเทรา 12 มิ.ย. – “ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน จ.ฉะเชิงเทรา พบกองขยะอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนเครื่องยนต์นำเข้ากองเต็มพื้นที่ ฝ่าฝืนคำสั่งกรมโรงงานฯ น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าทีมสุดซอย พร้อมเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัด และตำรวจสอบสวนกลาง เข้าตรวจสอบโรงงานรีไซเคิลใน อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นการขยายผลจากข้อมูลที่ผู้ใหญ่บ้าน ต.เขาหินซ้อน อ้างว่ามีบริษัทคัดแยกขยะอุตสาหกรรมในพื้นที่ให้นำดินไปแจกฟรี แต่กลับพบว่าเป็นขยะอุตสาหกรรม จากการตรวจสอบพบว่าบริษัทแห่งนี้จะรับขยะอิเล็กทรอนิกส์ เศษสายไฟ วัสดุแบตเตอรี่ มอเตอร์ และชิ้นส่วนเครื่องยนต์ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ ผ่านบริษัทแห่งหนึ่งที่ฮ่องกง โดยบริษัทดังกล่าวรับซื้อเศษขยะมาจากญี่ปุ่นอีกทอดหนึ่ง ก่อนส่งมาที่โรงงานรีไซเคิลในไทยให้คัดแยก แต่สำแดงเป็นโลหะผสม (Mixed metal) และมีการเสียภาษีต่อเที่ยวตามน้ำหนัก รวมแล้วประมาณ 33,000 บาท การคัดแยกขยะจะใช้แรงงานต่างด้าวคัดแยกเหล็ก อะลูมิเนียม ทองแดงออก โดยในส่วนของเหล็ก จะส่งโรงเหล็กในประเทศ สำหรับอะลูมิเนียมกับทองแดง จะส่งกลับไปฮ่องกง เพื่อขายต่อ โดยไม่ต้องเสียภาษี เนื่องจากเป็นเศษโลหะ อีกทั้งยังมีกองขยะที่ไม่สามารถนำไปแปรรูปใช้งานต่อได้จำนวนมากถูกทิ้งไว้ในประเทศ โรงงานดังกล่าวมีการขออนุญาตประกอบกิจการตั้งแต่ปี 2558 แต่ก่อนหน้านี้พบว่ามีการขยายโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต การจัดเก็บวัสดุไม่ถูกต้องตามมาตรฐาน คือกองอยู่ลานโล่งด้านนอกอาคาร ปัญหาเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยในการประกอบกิจการ และการปล่อยน้ำเสีย […]

ข่าวแนะนำ

ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน

กัมพูชา 15 มิ.ย.- ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน ซึ่งการหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทย-กัมพูชา ประชุมครั้งต่อไปเดือน ก.ย.นี้ ฝ่ายไทยเป็นเจ้าภาพ เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2568 เอกอัครราชทูตประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ประธานคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ฝ่ายไทย และนายฬำ เจีย รัฐมนตรีรับผิดชอบกิจการชายแดนและหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา ประธานร่วมฝ่ายกัมพูชา เป็นประธานร่วมในพิธีปิดการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 (JBC) และลงนามบันทึกการประชุมร่วมกัน ที่กรุงพนมเปญ การหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร ทั้งสองฝ่ายกล่าวขอบคุณที่การประชุมสำเร็จลุล่วงด้วยดี โดยเน้นย้ำความสำคัญและประสิทธิภาพของ JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีหลักในการเจรจาเขตแดนระหว่างสองประเทศ การประชุมครั้งนี้เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา ซึ่งมีความยาวทั้งหมดประมาณ 800 กิโลเมตร และมีส่วนช่วยลดความตึงเครียดบริเวณชายแดน ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายยังมีภารกิจที่ต้องหารือและดำเนินการร่วมกันต่อไป โดยฝ่ายไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม JBC สมัยพิเศษครั้งต่อไปในเดือนกันยายนนี้ ปัจจุบัน ไทยกับกัมพูชามีกลไกความร่วมมือในประเด็นชายแดนร่วมกัน 3 ระดับหลัก ได้แก่ (1) JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีที่สำคัญในการหารือกันทางเทคนิคและข้อกฎหมายระหว่างประเทศ (2) คณะกรรมการชายแดนทั่วไป […]

“อนุทิน”​ ยกคณะ สส.​-​ขรก.มหาดไทย​ เยือนอุดรฯ

อุดรธานี ​15 มิ.ย.​- “อนุทิน”​ โหมโรง​ ยกคณะ สส.​-​ขรก.มหาดไทย​ เยือนอุดรธานี​ เปิดตัว​ “อดิศักดิ์​” ไทยสร้างไทย บอก​ “นู๋หนู​-​ดู๋ดี๋”​ ซี้กัน​ อวยเป็น สส.คุณภาพ​ ภูมิใจไทย​ ภูมิใจแทน​ รอบหน้าขอชาวอุดรฯ​ เลือกเป็น สส.ภท.​ โอดแทนชาวบ้าน​ ซัด​ห่วย 3 ปี งบโยธาแค่​ 700 ล้าน​ บอกถ้าเลือกภูมิใจไทยซัดไปแล้ว​ 3,000 ล้าน​ เหน็บ​ถนน 4 เลน ใครทำให้กุดอย่าไปเลือก นายอนุทิน​ ชาญ​วี​รกูล​ รองนายก​รัฐมนตรี​และ​รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​มหาดไทย​ พร้อมด้วยนายอรรษิษฐ์​ สัมพันธรัตน์​ ปลัดกระทรวงมหาดไทย​ และผู้บริหารระดับสูง​ ลงพื้นที่เทศบาลตำบลจำปี​ อำเภอศรีธาตุ​ จังหวัดอุดรธานี​ เพื่อพบปะประชาชน ที่โรงเรียนศรีธาตุพิทยาคม​ โดยมี​นายอดิศักดิ์ แก้วมุงคุณทรัพย์ สส.อุดรธานี​ พรรคไทยสร้างไทย​ ให้การต้อนรับ โดยนายอนุทิน​ ได้รับฟังการรายงานความคืบหน้าการ​แก้ไขปัญหา​ในพื้นที่ ก่อนจะขึ้นเวทีพร้อมกับ […]

จับตาประชุม JBC วันที่ 2 หลังกัมพูชายื่นศาลโลก

กัมพูชา 15 มิ.ย.-ผู้สื่อข่าวกัมพูชา รายงานการประชุม JBC ไทย-กัมพูชา วันที่ 2 เริ่มขึ้นแล้ว ที่กรุงพนมเปญ หลังวานนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป โดยมีการประชุมวงเล็กก่อน จากนั้นอาจมีการแถลงร่วมกัน ต้องจับตาว่าวันนี้จะได้ข้อยุติหรือไม่ รวมถึงท่าทีของแต่ละฝ่าย หลังกัมพูชายื่นศาลโลก.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ เปิดทำเนียบต้อนรับ “โอปอล สุชาตา” พรุ่งนี้

ทำเนียบ 15 มิ.ย.-รัฐบาลเตรียมเปิดตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบฯ ต้อนรับ “โอปอล สุชาตา” Miss World 2025 ร่วมโชว์พลังหญิง นำเสนอวัฒนธรรมที่สร้างสรรค์ให้กับประเทศไทยในทุกมิติ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้ (วันจันทร์ที่ 16 มิถุนายน 2568) รัฐบาลเตรียมเปิดตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ให้การต้อนรับ “โอปอล” นางสาวสุชาตา ช่วงศรี Miss World คนแรกของประเทศไทย ที่เพิ่งคว้ามงกุฎระดับโลกในการประกวด Miss World ประจำปี 2025 ที่ประเทศอินเดีย มีกำหนดการเข้าพบนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในเวลา 10.00 น. การพบปะกันในครั้งนี้ ถือเป็นสัญลักษณ์แห่งพลังของสตรีไทย ที่สามารถสร้างชื่อเสียงและแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นใหม่ทั่วประเทศ โดยเฉพาะในประเด็นสิทธิสตรี การศึกษา และการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของนโยบายรัฐบาลในปัจจุบัน การเข้าเยี่ยมคารวะของ Miss World 2025 ยังเป็นการส่งสารเชิงบวกต่อประชาคมโลกว่า ประเทศไทยมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำด้านความเท่าเทียมทางเพศอีกด้วย […]