อีอีซีเพิ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายเป็น 12 อุตสาหกรรม

ทำเนียบรัฐบาล 9 พ.ย. – นายกฯ สั่งอีอีซีเพิ่มอุตสาหกรรมป้องกันประเทศและอุตสาหกรรมพัฒนาบุคลากรและการศึกษา เป็นอุตสาหกรรมเป้าหมาย พร้อมอนุมัติแผนขับเคลื่อนอีอีซีปี 62


นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการ คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(อีอีซี) แถลงผลการประชุมอีอีซี ครั้งที่ 5 ว่า ในการประชุมคณะกรรมการฯ ซึ่งมีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ได้ขอให้สำนักงานอีอีซีเพิ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย จากเดิม 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย เพิ่มอีก 2 อุตสาหกรรมเป้าหมาย คือ อุตสาหกรรมป้องกันประเทศและอุตสาหกรรมพัฒนาบุคลากรและการศึกษา เพื่อรองรับการเกิดขึ้นของอีอีซี

นอกจากนี้ ยังได้มีมติเห็นชอบความก้าวหน้าในการดำเนินงานอีอีซีที่ผ่านมา ประกอบด้วยแผนภาพรวมเพื่อการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พ.ร.บ.เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก และเห็นชอบโครงการโครงสร้างพื้นฐานหลักที่สำคัญ 6 โครงการ ประกอบด้วย โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน โครงการสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก โครงการศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน อู่ตะเภา โครงการท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 โครงการท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 และโครงการเขตส่งเสริมอุตสาหกรรมและนวัตกรรมดิจิทัล (EECd) เป็นต้น 


คณะกรรมการอีอีซี ยังเห็นชอบจัดทำแผนงานบูรณาการขับเคลื่อนอีอีซีตาม พ.ร.บ.งบประมาณฯ พ.ศ. 2562 โดยเห็นชอบให้สำนักงบประมาณจัดสรรงบประมาณตามร่าง พ.ร.บ. งบประมาณฯ ปี 2562 จำนวน 14,862.6146 ล้านบาท ให้กับ 14 กระทรวงที่เกี่ยวข้องร่วมกันขับเคลื่อนอีอีซี พร้อมกันนี้อีอีซีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังเดินหน้าจัดกิจกรรมชักจูงการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายพิเศษ และความร่วมมือระหว่างประเทศในหลายประเทศ โดยร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) กระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 

คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) กำหนดให้การลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายพิเศษในอีอีซีตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ 500,000 ล้านบาท ระยะเวลา 5 ปี แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม หลัก ดังนี้  กลุ่มที่ 1 “ดึงการลงทุน” ร่วมกับบีโอไอเป้าหมาย 100,000 ล้านบาทต่อปี นอกจากนี้ ยังจะเร่ง กลุ่มที่ 2 การประชาสัมพันธ์เชิงพื้นที่ “เน้นการมีส่วนร่วมของชุมชน” ให้มากขึ้น พร้อมกันนี้ทางสำนักงานอีอีซีจะจัดนำเงิน 100 ล้านบาท ตั้งกองทุนพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก เพื่อการพัฒนาพื้นที่หรือชุมชน รวมตลอดทั้งช่วยเหลือ หรือเยียวยาประชาชนและชุมชนบรรดาที่อาจได้รับผลกระทบจากการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก และสนับสนุนและส่งเสริมการศึกษาและให้ทุนการศึกษาแก่ประชาชนที่อยู่อาศัยในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกหรือที่อยู่ใกล้เคียงและได้รับผลกระทบจากการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก

ส่วนกลุ่มที่ 3 มีการวางแผนอนาคตรองรับการพัฒนาในอนาคต ได้แก่ การขยายพื้นที่อีอีซี นอกจาก 3 จังหวัด การประกาศอุตสาหกรรมเป้าหมายพิเศษเพิ่มเติม การเตรียมการพัฒนาเมืองใหม่อัจฉริยะน่าอยู่ เมืองศูนย์กลางการเงิน และ Aerotropolis การพัฒนาแรงงานคุณภาพสูง โดยประสานกับ กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงแรงงาน กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง แผนงานสำคัญระยะต่อไปเพื่อรองรับอนาคต หลังจากรถไฟความเร็วสูงเสร็จปี 2566 เช่น สาธารณูปโภค สาธารณูปการ สาธารณสุข เกษตร สิ่งแวดล้อม เป็นต้น.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เหล้าเถื่อนลาว

เสียชีวิตรายที่ 6 คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว

คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเสียชีวิตเพิ่มรายที่ 6 เป็นหญิงชาวออสเตรเลีย เสียชีวิตขณะรักษาตัวในไทย

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษา ทบ.

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก ช่วยปฏิบัติราชการที่กองบัญชาการกองทัพบก หลังถูกร้องทำร้ายร่างกายผู้ใต้บังคับบัญชา พร้อมช่วยเจ้าทุกข์ย้ายหน่วยตามร้องขอ

ไฟไหม้โรงงานพัดลม เผาวอดเสียหายกว่า 50 ล้าน

ไฟไหม้โรงงานผลิตพัดลมรายใหญ่ จ.สมุทรสาคร ระดมรถดับเพลิงระงับเหตุ กว่า 5 ชม. จึงควบคุมไว้ได้ในวงจำกัด เบื้องต้นเสียหายกว่า 50 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

ภรรยาหมอบุญมอบตัว

“ภรรยา-ลูก” หมอบุญ อ้างถูกปลอมลายเซ็น ไม่เคยรู้การกระทำใดๆ

ทนายความภรรยา-ลูก หมอบุญ เผยถูกปลอมลายเซ็นเอกสาร ไม่เคยรับรู้การกระทำใดๆ ของหมอบุญ โดนภรรยาได้หย่าร้างกับหมอบุญ ก่อนปี 66

น้ำผุดเชียงดาว

น้ำใต้ดินผุดท่วมอ่วม “บ้านเรือน-พื้นที่เกษตร” อ.เชียงดาว

มวลน้ำมหาศาลผุดขึ้นจากใต้ดิน เอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่เกษตร และบ้านเรือนประชาชน หลายหมู่บ้าน ใน อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ระดับน้ำบางจุด ท่วมบ้านเกือบถึงหลังคา พื้นที่การเกษตรเสียหายกว่า 400 ไร่

เลือกตั้ง อบจ.

“แสวง” ลงพื้นที่สังเกตการณ์เลือกตั้ง นายก อบจ.อุดรธานี

“เลขาฯ แสวง” ลงพื้นที่ตรวจรับ-มอบอุปกรณ์เลือกตั้ง นายก อบจ.อุดรธานี พร้อมสังเกตการณ์เลือกตั้งพรุ่งนี้ (24 พ.ย.) วอนประชาชนออกมาใช้สิทธิ 8.00-17.00 น.