เสนอปลดล็อกกัญชาเพื่อการแพทย์ ตอน 1

กรุงเทพฯ 8 พ.ย.- มีการวิจัยพบสาร 2 ชนิด ในกัญชาที่มีประโยชน์ทางการแพทย์ แต่ไทยยังไม่อนุญาตให้ใช้ เพราะติดข้อกฎหมาย จึงมีความพยายามจากหลายฝ่ายผลักดันให้ใช้กัญชาทางการแพทย์ได้ พร้อมเสนอให้มะเร็งเป็นอีกหนึ่งโรคที่นำสารสกัดจากกัญชามาใช้ได้ทันทีที่มีปลดล็อกทางกฎหมาย เพิ่มจาก 4 กลุ่มโรคที่ระบุก่อนหน้านี้ ติดตามรายงานพิเศษเรื่อง “เสนอปลดล็อกกัญชาเพื่อการแพทย์” วันนี้นำเสนอเป็นตอนแรก


กระบวนการสกัดน้ำมันกัญชา ชนิดหยดใต้ลิ้น ในห้องปฏิบัติการขององค์การเภสัชกรรม จากกัญชาของกลางกว่า 100 กิโลกรัม ที่ได้รับมอบจากกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด หรือ ปส. เป็นการทดสอบเพื่อสกัดหาสารสำคัญในกัญชาของกลุ่มแคนนาบินอยด์ ว่าวิธีไหนจะดี และรวดเร็วที่สุด มีงานวิจัยยืนยันแล้วว่า สารในกัญชา 2 ตัวสำคัญ คือสาร CBD มีฤทธิ์ลดอาการคลื่นไส้อาเจียน ลดการบวมอักเสบของแผล และสาร THC มีคุณสมบัติระงับเซลล์มะเร็ง ระงับการเกร็ง หรือชักกระตุก แต่มีผลข้างเคียงทำให้มึนเมา


กัญชาของกลางที่นำมาสกัดเป็นน้ำมันกัญชาครั้งนี้ ปลูกในภาคอีสานของไทย ทำให้พบสาร THC ในปริมาณสูงกว่าสาร CBD  ประธานกรรมการองค์การเภสัชกรรมระบุว่า หากต้องการนำมาใช้รักษาโรค อาจต้องนำเข้าสาร CBD เพื่อมาผสมกันให้มีสัดส่วนที่เหมาะสม


หากมีการอนุญาตปลดล็อกกัญชาเพื่อศึกษาวิจัย และเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ได้ จะมี 4 กลุ่มโรคที่การวิจัยมีผลพิสูจน์ชัดเจนแล้ว เช่น สามารถการแก้คลื่นไส้อาเจียนในคนไข้มะเร็งที่รับยาเคมีบำบัด โรคลมชัก ปลายประสาทอักเสบ ส่วนในโรคอื่น เช่น พาร์กินสัน สมองเสื่อม และมะเร็ง ในไทยยังต้องศึกษาวิจัยเพิ่ม

แพทย์ที่สนับสนุนและเป็นแพทย์ในเครือข่ายที่ช่วยรักษาผู้ป่วยด้วยสารสกัดกัญชา ระบุว่า มีงานวิจัยในต่างประเทศหลายชิ้นที่พบว่า กัญชาใช้รักษามะเร็งได้ สาร THC และ CBD ฆ่ามะเร็งด้วยการกระตุ้นให้เซลล์ตาย ยับยั้งการเจริญเติบโต ยับยั้งการสร้างหลอดเลือดใหม่ของก้อนมะเร็ง ส่วนในไทย มีผู้ป่วยมะเร็งใช้กัญชาในรูปแบบต่างๆ เช่น ใช้น้ำมันกัญชาหยดใต้ลิ้น สวนผ่านทางทวาร และใช้ทาสำหรับโรคผิวหนัง ควบคู่กับการรักษาด้วยแพทย์แผนปัจจุบัน แล้วพบว่าค่าเซลล์มะเร็งลดลง และบางรายหายเป็นปกติ

ในวงสัมมนาเรื่อง สนช.ปลดล็อกกัญชาเป็นยารักษาโรคที่จัดขึ้นที่รัฐสภา เมื่อเร็วๆ นี้ หนึ่งในข้อเสนอของเครือข่ายผู้ป่วยและแพทย์ที่สนับสนุนเรื่องนี้ เรียกร้องให้นำกัญชามาใช้รักษามะเร็ง โดยไม่ต้องรอผลวิจัย ให้เหตุผลว่า เพราะค่าใช้จ่ายในการรักษาจนหายขาดขั้นต่ำอยู่ที่ 1 ล้านบาท/คน บางรายเปลี่ยนจากการรักษาแพทย์แผนปัจจุบัน ไปหาแพทย์ทางเลือก หนึ่งในนั้นคือ การใช้สารสกัดน้ำมันกัญชา ที่มีผู้สกัดและผลิตขายกันขึ้นมาเองหลายราย ซึ่งในขณะนี้ยังถือว่าผิดกฎหมาย และไม่ได้ผ่านการตรวจสอบเรื่องความปลอดภัย แต่ผู้ป่วยบางคนเลือกจะรักษาด้วยวิธีนี้ เพราะเชื่อว่าจะได้ผล.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา บอกสนามใหญ่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายสนามท้องถิ่น ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็พวก

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท

ข่าวแนะนำ

ข่าวแห่งปี 2567 : รวมฉ้อโกง “ดารา-คนดัง” ไม่รอด

ตลอดปี 2567 ยังมีผู้คนตกเป็นเหยื่อของกลโกง มิจฉาชีพ ที่มาในรูปแบบต่างๆ รวมถึงการลงทุนรูปแบบใหม่ๆ บางคนถึงขั้นสิ้นเนื้อประดาตัว และที่น่าตกใจเริ่มมีคนดังเข้ามาเกี่ยวข้องกับคดีมากขึ้น

หมอชิต 2 คึกคัก ประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาฉลองปีใหม่

บรรยากาศการเดินทางหมอชิต 2 คึกคัก ประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวในช่วงหยุดยาวปีใหม่ ด้าน รฟท. คาดผู้โดยสารเดินทางขาออกวันนี้ 1 แสนคน

รถเริ่มแน่น! สายเหนือ-อีสาน การจราจรชะลอตัว

ประชาชนทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนา หยุดยาวปีใหม่ ถ.พหลโยธิน มุ่งหน้าสายอีสาน รถแน่น ส่วนถนนสายเอเชีย ขึ้นเหนือ รถเคลื่อนตัวได้ช้า