กรุงเทพฯ 4 พ.ย.-กรมปศุสัตว์เร่งรักษาเสถียรภาพราคาไข่ไก่
โดยประสานกระทรวงพาณิชย์หาตลาดกระจายสินค้าให้ อีกทั้งเตรียมเสนอ Egg Board
ลดปริมาณการนำเข้าพ่อแม่และปู่ย่าพันธุ์ไก่ไข่ลง อีกร้อยละ 10
ในปี 2562 ซึ่งจะส่งผลให้ผลผลิตไข่ไก่ลดปริมาณลง
ไม่เกิดภาวะล้นตลาด เป็นมาตรการแก้ปัญหาระยะยาว
นายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์
รองอธิบดีกรมปศุสัตว์กล่าวว่า กำลังเร่งรักษาเสถียรภาพราคาไข่ไก่เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ไข่
ซึ่งตามที่สมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่ระบุว่า ราคาไข่ไก่ต่ำสุดในรอบ 30
โดยราคาเหลือฟองละ 1.40 บาทนั้น ไข่ไก่ที่เหลือราคา 1
บาทกว่าคือ ไข่ไก่เบอร์ 6
ซึ่งเป็นขนาดเล็กที่สุดซึ่งผู้บริโภคไม่นิยม ส่วนราคาไข่ไก่เบอร์ 0
ซึ่งเป็นขนาดใหญ่ที่สุดราคาฟองละ 3.30 บาท ส่วนเบอร์ 1
ฟองละ 2.80 บาท และลดหลั่นกันลงไป โดยเบอร์ 2
ราคา 2.55 บาท เบอร์ 3
ราคา 2.35 บาท เบอร์ 4
ราคา 2.25 บาท เบอร์ 5
ราคา 2.00 บาท ส่วนราคาไข่คละหน้าฟาร์มเฉลี่ยฟองละ 2.30
บาท เมื่อเปรียบเทียบราคาตั้งแต่เดือนมกราคมถึงต้นเดือนตุลคาคม ราคาไข่คละหน้าฟาร์มเฉลี่ย
2.54 บาท โดยเบอร์ 0
ราคา 3.54 บาท เบอร์ 1
ราคา 3.04 บาท เบอร์ 2
ราคา 2.75 บาท เบอร์ 3
ราคา 2.55 บาท เบอร์ 4
ราคา 2.45 บาท เบอร์ 5
ราคา 2.24 บาท และเบอร์ 6
ราคา 1.85 บาท ทั้งนี้ราคาขายไข่แต่ละภูมิภาคได้แก่
ภาคใต้ ภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนืออาจแตกต่างกัน 10 – 20
สตางค์
นายสัตวแพทย์สมชวนกล่าวว่า
สาเหตุที่ราคาไข่ลดลงตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคมจนถึงปัจจุบันเนื่องจากปริมาณการบริโภคลดลงในช่วงเทศกาลกินเจประกอบกับปิดภาคเรียนทำให้มีปริมาณไข่ที่สะสม
อีกทั้งในฤดูฝน ไข่มีขนาดฟองเล็ก ผู้บริโภคไม่นิยม แต่ขณะนี้เทศกาลกินเจผ่านไปแล้ว
ฤดูฝนสิ้นสุดลง อีกทั้งโรงเรียนเปิดภาคเรียนแล้วและกำลังจะเข้าช่วงเทศกาลปีใหม่
ตามวงจรของไข่ไก่ ช่วงปลายปีประชาชนบริโภคไข่เพิ่มขึ้น
แนวโน้มราคาไข่คละหน้าฟาร์มจะค่อยๆ ปรับขึ้นภายใน 1-2
สัปดาห์นี้
นายสัตวแพทย์สมชวนกล่าวเพิ่มเติมว่า
ปัจจุบันมีปริมาณพ่อแม่พันธุ์ไก่ไข่ (PS) ที่ให้ผลผลิต 521,860
ตัว แม่ไก่ไข่ยืนกรงจำนวน 56-57 ล้านตัว ผลผลิตไข่เฉลี่ยประมาณ 44-45
ล้านฟอง/วัน ส่วนปริมาณการบริโภคต่อวันเฉลี่ย 42
ล้านฟอง ที่เหลือแปรรูปและส่งออก จึงมีปริมาณไข่ตกค้างประมาณวันละ 1 ล้านฟอง กรมปศุสัตว์ไม่ได้นิ่งนอนใจ
นับจากต้นปีจนถึงปัจจุบันได้ร่วมกับสมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่และผู้นำเข้าไก่ไข่พันธุ์ผลักดันการส่งออกไข่ไปจำหน่ายต่างประเทศ
(PS Support) มาตั้งแต่เดือนเมษายนรวมแล้ว (258
ตู้คอนเทนเนอร์)
ปลดแม่ไก่ไข่ยืนกรงที่อายุ 72 สัปดาห์ จำนวน 857,486
ตัว ตรวจสอบปริมาณการนำเข้า การเลี้ยง และการปลดพ่อแม่พันธุ์ไก่ไข่ไม่ให้เกินอายุ 72
สัปดาห์ ตามมติคณะกรรมการนโยบายพัฒนาไก่ไข่และผลิตภัณฑ์ (Egg Board) อย่างเคร่งครัด
ล่าสุดประสานกรมการค้าภายในตามที่สมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่ร้องขอ
โดยเบื้องต้นรับแจ้งจากกรมการค้าภายในว่า
จะเชิญหารือเพื่อแก้ปัญหาปริมาณไข่ที่ค้างสะสมโดยการหาตลาดกระจายสินค้าให้
ส่วนในระยะยาวได้ประชุมหารือร่วมกับบริษัทผู้นำเข้าและเลี้ยงพ่อแม่พันธุ์-ปู่ย่าพันธุ์ไก่ไข่ไปเมื่อวันที่
24 ตุลาคมที่ผ่านมาและมีมติปรับลดแผนการนำเข้าปี 2562
ลงร้อยละ 10 จากแผนปี 2561
ซึ่งจะส่งผลให้ปี 2562 มีปริมาณพ่อแม่พันธุ์ (PS) ไม่เกิน
500,000 ตัว ปู่ย่าพันธุ์ไก่ไข่ (GP) ไม่เกิน 4,050
ตัว ให้มีแม่ไก่ไข่ยืนกรงประมาณ 50 ล้านตัว ซึ่งจะให้ผลผลิตไข่ประมาณ 42-43
ล้านฟองต่อวัน ซึ่งจะใกล้เคียงกับการบริโภคภายในประเทศและการส่งออกทั้งไข่สดและผลิตภัณฑ์ไข่แปรรูป
ทั้งนี้ในการประชุม Egg Board เดือนพฤศจิกายนบรรจุวาระพิจารณาแผนการแก้ปัญหาดังกล่าวแล้วซึ่งจะเป็นแนวทางรักษาเสถียรภาพราคาไข่ไก่ที่มีประสิทธิภาพ
ทางด้านนายมาโนช ชูทับทิม
นายกสมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่กล่าวว่า การแก้ปัญหาของกรมปศุสัตว์ในการลดการนำเข้าพ่อแม่-ปู่ย่าพันธุ์ไก่ไข่
การลดปริมาณแม่ไก่ยืนกรง
รวมถึงการให้ผู้ประกอบการขนาดใหญ่เร่งส่งออกไข่ไก่ไปต่างประเทศช่วยแก้ปัญหาราคาไข่ไก่ได้ส่วนหนึ่ง
แต่เนื่องจากช่วงที่ผ่านมามีไข่ตกค้างเป็นปริมาณมาก
ทำให้ราคาไข่ไก่หน้าฟาร์มที่เกษตรกรขายได้ต่ำกว่าราคาประกาศของสมาคมผู้ผลิต ผู้ค้า
และส่งออกไข่ไก่ โดยสัปดาห์ที่แล้วราคาไข่คละหน้าฟาร์มอยู่ที่ฟองละ 2.00 –
2.10 แต่ตั้งแต่วันนี้ได้ประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรยึดราคาขายที่ฟองละ
2.30 บาท ตามราคาประกาศของสมาคมฯ
ขณะเดียวกันผู้บริโภคยังรับประทานไข่ไก่ในราคาแพงอยู่สวนทางกัน
ซึ่งได้ทำหนังสือไปยังกรมการค้าภายในตั้งแต่วันที่ 19 ตุลาคมแล้วเพื่อให้หาตลาดกระจายสินค้า
โดยอาจทำในรูปแบบไข่ไก่ธงฟ้า ให้ผู้บริโภคสามารถซื้อไข่ไก่จากเกษตกรโดยตรง
ไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง เกษตรกรจะไม่ถูกกดราคา
ขณะเดียวกันผู้บริโภคซื้อไข่ได้ในราคาที่ถูกลงกว่าปัจจุบันที่มีการบวกเพิ่มจากพ่อค้าคนกลาง
ซึ่งหากผู้บริโภคสามารถซื้อไข่ไก่ในราคาเหมาะสม
จะเป็นการกระตุ้นการรับประทานไข่ในประเทศ
ที่จะเป็นผลให้ไข่ไก่ไม่ตกค้างและเกษตรกรจะขายไข่ได้ในราคาไม่ต่ำกว่าต้นทุนการผลิต.-สำนักข่าวไทย