กรุงเทพฯ 30 ต.ค. – ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม ก.ย.61 ลดลงร้อยละ 2.6 เป็นเดือนแรกในรอบ 16 เดือน เนื่องจากการส่งออกลดลง นักท่องเที่ยวจีนลดลงยอดการใช้จ่ายในส่วนนี้จะลดลงตาม
นายอิทธิชัย ปัทมสิริวัฒน์ รองผู้อำนวยการ สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) แถลงดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม หรือ MPI เดือนกันยายน 2561 ว่า ดัชนีอยู่ที่ระดับ 111.2 ปรับลดลงร้อยละ 2.6 จากช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมา ที่อยู่ที่ระดับ 114.12 ลดลงเป็นเดือนแรกในรอบ 16 เดือน เนื่องจากการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมเดือนกันยายนหดตัว เช่น การส่งออกรถยนต์ไปออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ปัญหาการทำเอกสารของผู้ส่งออกบางรายลดลง และการซื้อในประเทศที่ไปส่งออกลดลง การส่งออกอัญมณีที่ลดลงจากมูลค่าเนื่องจากมีการปรับเปลี่ยนดีไซน์ใหม่ปรับขนาดเล็กลง จึงใช้วัตถุดิบน้อยลง เพื่อมุ่งขยายตลาดกว้างมากขึ้น เป็นต้น
นอกจากนี้ การปรับตัวลดลงยังเป็นผลสืบเนื่องจากจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่หดตัวลงร้อยละ 14.9 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมา และลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 ส่งผลให้ยอดการใช้จ่ายในส่วนนี้จะลดลงตามไปด้วย โดยนักท่องเที่ยวจีนมีสัดส่วนคิดเป็นร้อยละ 30 ของนักท่องเที่ยวในภาพรวมทั้งหมด และยังเป็นผลจากดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคและดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมปรับตัวลดลง
ขณะที่ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมในช่วง 9 เดือนแรกปี 2561 ขยายตัวร้อยละ 2.9 เพิ่มขึ้นร้อยละ 1 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมาที่ขยายตัว ร้อยละ 1.9 ด้านอัตราการใช้กำลังการผลิตเดือนกันยายน 2561 อยู่ที่ร้อยละ 66.35
สำหรับอุตสาหกรรมที่ส่งผลบวกเดือนกันยายน 2561 ได้แก่ น้ำตาลทรายขยายตัวร้อยละ 107.98 จากผลผลิตอ้อยที่มีมากกว่าปกติ ทำให้โรงงานปิดหีบช้ากว่าปีก่อน จึงยังมีการแปรสภาพน้ำตาลทรายดิบไปเป็นน้ำตาลทรายขาว ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ร้อยละ 7.14 ตามความต้องการของตลาดโลกเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง น้ำมันปิโตรเลียมขยายตัวร้อยละ 8.57 ตามภาคการขนส่งที่ดีขึ้น เสื้อผ้าสำเร็จรูปในส่วนของผ้าทอ โตจากการส่งออกชุดกีฬาส่งออกเพิ่มมากขึ้น และการเร่งผลิตเพื่อรอจำหน่ายในช่วงปลายปีนี้ ส่วนเครื่องปรับอากาศ ขยายตัวร้อยละ 15.81 จากการส่งออกไปญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซียที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งการจำหน่ายในประเทศดีขึ้นจากการกระตุ้นยอดขายของผู้ผลิต เป็นต้น
ส่วนแนวโน้มดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมเดือนตุลาคม 2561 จะปรับตัวดีขึ้น กรณีดีที่สุดจะปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมาร้อยละ 1 เนื่องจากฐานปีที่ผ่านมาต่ำ แต่ถ้ากรณีปรับลดลงมากที่สุด จะลดลงร้อยละ 0.1. -สำนักข่าวไทย